การป้องกันโรคเบาหวาน
ผู้ที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานเมื่อมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างเข้มข้นจะลดการเกิดเบาหวาน และลดการเกิดโรคแทรกซ้อนที่เกิดจากเบาหวานจากการศึกษาพบว่า
- การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจะลดการเกิดเบาหวานได้ร้อยละ 58 จากการติดตาม 3 ปี
- จากการติดตาม 7-20 ปีพบว่าลดการเกิดเบาหวานได้ร้อยละ37-43
- ในเรื่องค่าใช้จ่ายการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจะประหยัดที่สุดและให้ผลดีที่สุด
ใครที่เสี่ยงต่อการเกิดเบาหวานและได้ผลดีจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
- ผู้ที่จัดเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อเบาหวาน
วิธีการป้องกันโรคเบาหวาน
วิธีการป้องกันโรคเบาหวานสามารถทำได้ 2 วิธีคือ
- การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ซึ่งมีวิธีดังนี้
- ลดน้ำหนักงลงให้ได้ร้อยละ5-7 จากน้ำหนักเบื้องต้น โดยเฉพาะผู้ที่อ้วน(ชาวเอเซียใช้ดัชนีมวลกายเท่ากับหรือมากกว่า 23)
- ออกกำลัง สัปดาห์ละ 150 นาที โดยการเดินให้เร็ววิ่งสลับกับเดินเร็ว
- ให้รับประทานอาหารที่มีใยอาหารโดยมีอัตราส่วนใยอาหาร 14 กรัมต่อพลังงาน 1000 แคลอรี่ี่
- ให้เลิกอาหารหวาน ที่ใส่น้ำตาล
- การใช้ยาเพื่อป้องกันโรคเบาหวาน มีการใช้ยา 3 ชนิดในการป้องกันโรคเบาหวาน โดยใช้ชนิดใดชนิดหนึ่ง
- Metformin สามารถลดการเกิดโรคเบาหวานลงได้ร้อยละ 31 ใช้ได้ผลดีกับผู้ที่อายุน้อย 20-44 ปี และอ้วน
- Acarbose สามารถลดอัตราการเกิดโรคเบาหวานได้ร้อยละ 32
- Troglitazone สามารถลดการเกิดโรคเบาหวานได้ร้อยละ 56
การป้องกันโรคเบาหวานจะใช้ยาหรือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
แนะนำให้ใช้การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเนื่องจากสามารถลดการเกิดโรคเบาหวานได้ถึงร้อยละ 58 ในขณะที่ใช้ยาลดได้ร้อยละ 36 และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมยังช่วยลดการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ในขณะที่ใช้ยายังไม่มีรายงานดังกล่าว นอกจากนั้นการใช้ยาต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจจะเกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยา
ผู้ที่เสี่ยงต่อโรคเบาหวานต้องตรวจอะไรบ้าง
เนื่องจากผู้ที่เสี่ยงต่อโรคเบาหวานจะมีโอกาศเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มขึ้น ดังนั้นผู้ที่เสี่ยงต่อเบาหวานจะต้องได้รับการตรวจหาความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น ระดับไขมันในเลือด การงดบุหรี่
กลุ่มที่เสี่ยงต่อการเกิดเบาหวาน |