การรักษาไขมันในเลือดสูงเพื่อป้องกันการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือด

การรักษาไขมันในเลือดสูงเพื่อป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดในคนที่ไม่เป็นโรคหลอดเลือดแข็ง หรือไม่เป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หรือที่เรียกว่าการป้องกันปฐมภูมิ คนในกลุ่มนี้จะไม่มีโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดเช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หรือโรคหลอดเลือดสมอง ตรวจพบเพียงไขมันในเลือดผิดปกตเพียงอย่างเดียวิ

ในการป้องกันแบบปฐมภูมิผู้ที่มีระดับไขมันในเลือดสูงควรได้รับคำแนะนำให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมชีวิต เช่น การรับประทานอาหาร และออกกาลังกายประมาณ 3-6 เดือนก่อนพิจารณาเริ่มยา ยกเว้นในกรณีที่เป็นโรคไขมันสูงที่เป็นกรรมพันธ์ familial hypercholesterolemia

  1. ในผู้ที่อายุมากกว่า 21 ปีขึ้นไป ไม่เป็นโรคเบาหวาน ไม่เป็นโรคหลอดเลือดแดงแข็ง และมี ไขมันไม่ดีคือ LDL-Cholesterol มากกว่า190 มก./ดล. เมื่อได้รับยา Statin เพื่อลดไขมันโดยกำหนดค่า LDL-C ควรจะน้อยกว่า 130 มก/ดล. หรือ ลดลงจากค่าเริ่มแรกก่อนได้รับยาอย่างน้อยร้อยละ 50 ควรเริ่มด้วย moderate intensity statin (simvastatin 40 มก./วัน atorvastatin 20 มก./วัน)ในกรณีที่ให้ยา moderate intensity statin ในขนาดสูงสุด ต่อเนื่องเป็นเวลา 6 เดือนแล้ว ระดับ LDL-C ยังไม่ถึงเป้าหมาย ให้เปลี่ยนเป็น high intensity statin
  2. ในผู้ป่วยที่มีระดับไขมัน LDL-C สูงมากจากพันธุกรรม เช่น familial hypercholesterolemia ควรกำหนดเป้าหมายที่ LDL-C น้อยกว่า100 มก/ดล.หรือ LDL-C ลดลงจากค่าเริ่มแรกก่อนได้รับยาอย่างน้อย ร้อยละ 50 ควรเริ่มด้วย high intensity statin หากระดับ LDL-C ยังไม่ถึงเป้าหมายในระยะเวลา 6 เดือนต่อมา ควรเพิ่มยากลุ่ม non-statin ได้แก่ ezetimibe หรือ cholestyramine
  3. สำหรับผู้ที่มีระดับไขมันLDL-Cน้อยกว่า190 มก./ดล. ในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป ไม่เป็นเบาหวาน และมีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ และหลอดเลือดสูงจากการประเมินด้วยแบบประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือดในคนไทย (Thai CV Risk Score) โดยมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคใน 10ปีมากกว่าร้อยละ 10 น่าจะได้รับ low หรือ moderate intensity statin โดยกาหนดเป้าหมายของLDL-C น้อยกว่า 130 มก/ดล.หรือ LDL-C ลดลงจากค่าเริ่มแรกก่อนได้รับยา อย่างน้อย ร้อยละ 30
  4. สำหรับผู้ที่มีระดับ LDL-Cน้อยกว่า190 มก./ดล. ที่ไม่เป็นเบาหวานและมีภาวะดังต่อไปนี้ ผู้ที่มี Thai CV Risk Score น้อยกว่าร้อยละ 10 แต่มีหลักฐานว่ามโรคหลอดเลือดแดงแข็งโดยที่ไม่มีอาการเช่น coronary calcium score 300 Agatston units หรือ ankle-brachial index น้อยกว่า 0.9, มีประวัติโรคหลอดเลือดหัวใจในครอบครัวก่อนวัยอันควร หรือมีการอักเสบเรื้อรัง (เช่น psoriasis, rheumatoid arthritis, HIV infection) ปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ อาจนามาช่วยตัดสินใจในการให้ low หรือ moderate intensity statin โดยกำหนดเป้าหมายที่ LDL-C ที่ต้องการต้องน้อยกว่า 130 มก./ดล. หรือลดลงจากค่าเริ่มแรกก่อนได้รับยาอย่างน้อยร้อยละ 30

การรักษาไขมันในเลือดสูง | การรักษาไขมันสูงในคนที่ไม่มีโรคหัวใจและหลอดเลือด | การรักษาไขมันสูงในผู้ป่วยเบาหวาน | การรักษาไขมันสูงในผู้ป่วยโรคไต | การรักษาไขมันสูงในผู้ป่วยที่มีโรคหัวใจและหลอดเลือด