6ขั้นตอนการดูแลผู้ป่วยหัวใจวายที่บ้าน


การบันทึกประจำวัน | จะต้องรู้ว่าเมื่อไรจึงต้องปรึกษาหรือไปพบแพทย์ | ต้องจดเบอร์เจ้าหน้าที่ | เตรียมข้อมูลที่สำคัญ | ผู้ที่มีอาการแน่นหน้าอกหรือหายใจลำบาก | ผู้ป่วยที่หมดสติหรือไม่รู้สึกตัว

ผู้ป่วยโรคหัวใจเรื้อรังส่วนใหญ่มักจะรู้ตัวเอง และไม่ยอมไปโรงพยาบาลโดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในระยะสุดท้ายของโรค ดังนั้นครอบครัวจะต้องช่วยกันดูแลตั้งแต่ การเฝ้าระวังการกำเริบของโรค การป้องกันโรคแทรกซ้อน การดูแลขั้นต่ำสำหรับผู้ป่วยมีดังนี้

ต้องมีการบันทึกน้ำหนัก และมีแผนสำหรับการดูแลเมื่อน้ำหนักเพิ่มขึ้น

  1. การเตรียมยาสำหรับรับประทานเป็นประจำ และยาสำหรับรักษาอาการเจ็บหน้าอก อาการหอบเหนื่อย และน้ำหนักเกิน
  2. แผนการดูแลยามฉุกเฉิน เช่นการไปห้องฉุกเฉิน การอนุญาตให้แพทย์ทำการกู้ชีวิตหรือไม่
  3. การติดตั้งอุปกรณ์เฉพาะที่บ้าน:

    • เครื่องช่วยหายใจ: ในบางกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการหายใจมีปัญหา การมีเครื่องช่วยหายใจที่บ้านอาจเป็นเรื่องสำคัญมาก สำหรับผู้ป่วยหัวใจวายที่มีอาการหายใจลำบาก เครื่องช่วยหายใจสามารถช่วยเสริมซึมอากาศให้สะดวกขึ้นได้
    • เครื่องวัดความดันเลือด: การวัดความดันเลือดสามารถช่วยตรวจสอบสุขภาพของผู้ป่วยหัวใจวายได้ มันช่วยในการติดตามอาการและปรับปรุงการรักษาอย่างทันท่วงที
    • เครื่องวัดอุณหภูมิ: อุณหภูมิร่างกายที่สมดุลเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ป่วยหัวใจวาย การมีเครื่องวัดอุณหภูมิที่ถูกต้องสามารถช่วยตรวจสอบสุขภาพของผู้ป่วยได้อย่างถูกต้อง
    • ควรจะมีเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว

การรักษาหัวใจวายที่บ้าน

สำหรับขั้นตอนในการดูแลผู้ป่วยมีดังนี้

  1. การบันทึกประจำวัน ซึ่งเป็นข้อมูลที่สำคัญสำหรับการรักษาของแพทย์ ข้อมูลที่ควรจะบันทึกได้แก่

  • น้ำหนักประจำวัน
  • การหายใจ มีอาการหอบเหนื่อยหรือไม่ หายใจลำบาก ไอโดยเฉพาะเวลานอน แน่หน้าอกเวลานอนราบจนต้องตื่นตอนกลางคืน ต้องบอกรายละเอียดถึงวันที่เกิดอาการและความรุนแรง
  • บันทึกชีพขจรและความดันโลหิต
  • ยาที่รับประทาน ต้องรู้ชื่อยา ขนาด ความถี่ของการรับประทาน และผลข้างเคียงของยา
  • อาหาร และกิจวัตรประจำวันที่ทำได้และทำไม่ได้
  • อาการอื่นๆ เช่นบวม
  1. จะต้องรู้ว่าเมื่อไรจึงต้องปรึกษาหรือไปพบแพทย์

  • ความดันโลหิตสูงหรือต่ำไป
  • ชีพขจรเร็วหรือช้าไป
  • น้ำหนักเพิ่มขึ้น 2 กก./ใน3วัน
  • มีอาการบวมที่หลังเท้า ข้อเท้า มือ
  • มีอาการหายใจลำบาก หายใจเร็วหรือไอเวลานอน
  • ปัสสาวะลดลง
  • สับสน มึนงง หรือเป็นลมหมดสติ
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • มีอาการอ่อนเพลีย
  • เป็นตะคริวหรืออ่อนแรง
  • มีอาการไม่สบายตัว

นอกจากจะเรียนรู้อาการต่างๆเหล่านี้ ยังต้องเตรียมยาหรือแผนการรักษาเบื้องต้น ก่อนการปรึกษาแพทย์ทางโทรศัพท์ต้องเตรียมข้อมูลสำหรับแพทย์

  1. ต้องจดเบอร์ของแพทย์หรือโรงพยาบาลที่รักษาท่านอยู่ และสมาชิกในครอบครัวทราบว่าสมุดจดวางไว้ที่ไหน

  • ชื่อแพทย์
  • เบอร์โทรของแพทย์
  • เบอร์โทรของโรงพยาบาล
  • ชื่อแพทย์สำรอง
  • เบอร์โทรแพทย์สำรอง
  • เบอร์โทรโรงพยาบาล


  1. เตรียมข้อมูลที่สำคัญสำหรับการพบแพทย์หรือปรึกษากับแพทย์

อาการแน่นหน้าอก

  • เวลาที่เริ่มเจ็บ
  • ระยะเวลาที่เจ็บ
  • ลักษณะที่เจ็บ(เจ็บแปลบๆ เจ็บหนักๆ หายใจแล้วเจ็บมากขึ้นหรือเท่าเดิม
  • ตำแหน่งที่เจ็บ
  • เจ็บเท่ากันหรือเป็นๆหายๆ

น้ำหนักเกิน

  • น้ำหนักปกติเป็นเท่าใด
  • น้ำหนักเพิ่มขึ้นมาเท่าใด
  • ใช้เวลากี่วัน

อาการบวม

  • บวมที่ไหนเป็นแห่งแรก
  • บวมบริเวณอื่นอีกหรือไม่(มือ ท้อง)
  • บวมนานแค่ไหน

อาการหายใจลำบากหรือไอกลางคืนหรือหอบเหนื่อย

  • เริ่มหายใจลำบากเมื่อใด
  • ปัจจัยที่ทำให้หายใจลำบากเพิ่มขึ้น ปัจจัยที่ทำให้หายใจดีขึ้น
  • เริ่มไอกลางคืนตั้งแต่เมื่อใด

อาการเป็นลมหรือเวียนศีรษะ

  • เวลาที่เริ่มเกิดอาการ

มีอาการคลื่นไส้ หรืออาเจียนร่วมด้วยหรือไม่

  • เป็นมานานแค่ไหน

อาการอ่อนเพลียไม่มีแรง

  • ระยะเวลาที่เริ่มมีอาการอ่อนเพลีย

ตะคริวและกล้ามเนื้ออ่อนแรง

  • กล้ามเนื้อส่วนไหนที่เป็นตะคริว
  • ระยะเวลาที่มีอาการนี้

อาการอื่นๆที่จะปรึกษาแพทย์

เมื่อท่านได้ประวัติครบถ้วนแล้วให้ท่านประเมินอาการของท่านว่ามีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน

ความรุนแรงจากน้อยไปหามาก
  อาการน้อยมาก อาการน้อย อาการปานกลาง อาการหนัก
อาการเหนื่อย ออกกำลังแล้วเหนื่อย เดินเร็วเหนื่อ

กิจวัตร์ประจำวันเช่น

อาบน้ำ กินข้าวจะเหนื่อย

นั่งเฉยๆก็เหนื่อย
อาการหายใจลำบาก นอนตั้งนานจึงแน่นหน้าอก นอนไม่ถึงสองชั่วโมง ต้องลุกนั่ง ทานอาหารได้ เดินไปอาบน้ำจะเหนื่อย นอนหัวสูงตลอดเวลา
บวม บวมตอนสายๆ เช้าไม่บวม บวมตอนเช้าแต่ไม่มาก บวมทั้งเช้าและเย็น บวมมากทั้งเช้าและเย็น บวมทั้งตัว

หากอาการท่านบ่งไปทางหนักท่านควรจะปรึกษาแพทย์

แผนการสำหรับภาวะฉุกเฉินต่างๆ

หากเกิดอาการฉุกเฉินต่างๆดังกล่าวอย่าตกใจจนขาดสติ ให้รวบรวมสมาธิแล้ววางแผนว่าจะทำอะไรก่อนอะไรหลัง ก่อนอื่นคงจะต้องให้การดูแลเบื้องต้นก่อน

  1. ผู้ที่มีอาการแน่นหน้าอกหรือหายใจลำบาก

  • ให้นอนยกหัวสูง หรือนั่ง
  • หากมีออกซิเจนที่บ้านก็เปิด4-6ลิตรให้ผู้ป่วย
  • หากเจ็บหน้าอกก็สามารถให้ยาอมใต้ลิ้นแก่ผู้ป่วย
  • ให้ใส่เสื้อผ้าหลวมๆ
  • ควรจะมีเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว
  1. ผู้ป่วยที่หมดสติหรือไม่รู้สึกตัว

  • ให้จับนอนหงาย หันหน้าออกไปทางด้านข้าง
  • หรือให้นอนตะแคงเพื่อป้องกันการสำลัก
  • อย่าป้อนยาหอมหรืออาหารเพราะอาจจะสำลักอาหาร
  • ให้ออกซิเจน
  • แจ้งเบอร์โทร 1169

โทรปรึกษาแพทย์หรือโรงพยาบาล

โปรดอย่าลืมสมุดจดข้อมูลที่จะใช้ปรึกษาหรือรายงานอาการให้แพทย์หรือเจ้าหน้าที่ทราบ

ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด

นำสมุดจดไว้ข้างโทรศัพท์ จดคำแนะนำและปฏิบัติตามคำแนะนำ หรือวางแผนไปโรงพยาบาล

 

 

แหล่งข้อมูล

 

อาหารสำหรับโรคหัวใจวาย การออกกำลังกายสำหรับโรคหัวใจวาย

สาเหตุของโรคหัวใจวาย | การวินิจฉัยโรคหัวใจวาย | อาหารสำหรับโรคหัวใจวาย | สัญญาณเตือนอาการโรคหัวใจวาย | หกขั้นตอนการดูแลโรคหัวใจที่บ้าน | ยารักษาโรคหัวใจ | การปรับพฤติกรรม | อาการโรคหัวใจวาย | การรักษาหัวใจวาย การทำงานของหัวใจ | ภาวะหัวใจล้มเหลวหรือหัวใจวาย

ทบทวนวันที่

โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว

Google
 

เพิ่มเพื่อน