องค์การอนามัยโลก

องค์การอนามัยโลกเชื่อว่าอาจจะมีการระบาดของไข้หวัดนก ซึ่งไม่สามารถที่จะทำนายล่วงหน้าว่าจะเกิดเมื่อใด ทั้งนี้เนื่องจากการระบาดของไข้หวัดนกรอบสอง ซึ่งทำให้มีการกระจายของเชื้อไปทั่วเอเซีย และแนะนำให้ทุกประเทศที่มีการระบาดได้เตรียมการป้องกันการระบาด และเตรียมรับกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม หากมีการระบาดของไข้หวัดนก ก็จะมีการระบาดอย่างรวดเร็วเนื่องจากการเดินทางระหว่างประเทศ มีความสะดวกและรวดเร็ว และประชาชนอยู่กันอย่างหนาแน่น ผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดหากมีการระบาดของไข้หวัดนก

  • จากการประมาณการของศูนย์ควบคุมโรคติดต่ออเมริกา ว่าจะมีผู้เสียชีวิต 2-7.4 ล้านคนจะมีการพบแพทย์ 134-233 ล้านครั้ง และจะมีการนอนโรงพยาบาล 1.5-5.2 ล้านครั้ง
  • การระบาดจะรวดเร็วจนไม่มีเวลาเตรียมวัคซีน
  • จะมีการขาดแคลน วัคซีน ยาฆ่าเชื้อไวรัส ยาปฏิชีวนะ
  • ตามโรงพยาบาลจะแออัดไปด้วยผู้ป่วย
  • จะขาดแคลนเจ้าหน้าที่สำหรับบริการชุมชน
  • การระบาดจะใช้เวลานาน และอาจจะเกิดการระบาดซ้ำ

การเตรียมตัวสำหรับการระบาด

ขั้นตอนการเตรียมตัวรับการระบาดของไข้หวัดนก
ระยะ

Preparedness Level การเตรียมตัวรับการระบาด

ความเห็น

Phase 0

Preparedness Level 0 ยังไม่มีหลักฐานว่าคนติดเชื้อไข้หวัดนก

Phase 0

Preparedness level 1การเตรียมพร้อมระดับ1มีรายงานว่าพบไวรัสชนิดใหม่

พบว่าคนมีการติดเชื้อไวรัสชนิดใหม่ แต่ยังไม่มีการติดจากคนไปสู่คน

Phase0

Preparedness level 2 การเตรียมพร้อมระดับ2มีหลักฐานยืนยันว่า คนติดเชื้อไวรัสชนิดใหม่

มีการติดเชื้อมากกว่า 2 คน

Phase 0

Preparedness level 3การเตรียมพร้อมระดับ3 มีการติดต่อจากคนสู่คน

มีหลักฐานว่ามีการติดเชื้อจากคนสู่คนอย่างน้อย 2 สัปดาห์
Phase1 ยืนยันว่ามีการระบาดของเชื้อโรค มีการระบาดไปหลายแหล่ง และระบาดข้ามประเทศ และเชื้อนั้นทำให้เกิดการเสียชีวิต
Phase2 ระบาดท้องถิ่น หลายๆท้องถิ่น เชื้อไวรัส สามารถเกิดการระบาดไปได้หลายประเทศ และหลายท้องถิ่น
Phase3 สิ้นสุดการระบาดช่วงแรก ช่วงนี้เชื้อจะไม่ค่อยมีการระบาด
Phase4 การระบาดช่วงที่สอง จะเริ่มระบาดหลังจากครั้งแรก 3-90เดือน
Phase5 สิ้นสุดการระบาด ไม่มีการระบาดของเชื้อ ใช้เวลาประมาณ 2 ปี

การระบาดของไข้หวัดนก

สถานการณ์ไข้หวัดนก

ไข้หวัดนกสายพันธ์ H5N1เป็นสายพันธืที่คาดว่าจะมีการระบาดทั่วโลกเนื่องจากเหตุผล

  • เชื้อไข้หวัดนกสายพันธ์นี้แพร่กระจายเร็วมากจนกระทั่งเป็นเชื้อประจำถิ่น
  • เชื้อมีการกลายพันธ์อย่างรวดเร็ว
  • เชื้อไข้หวัดนกนี้ได้รับพันธุกรรมจากไวรัสที่อยู่ในสัตว์ชนิดอื่น
  • เมื่อติดเชื้อในคนทำให้เกิดอัตราการเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 70
  • การติดเชื้อโรคในชนบทยังมีอัตราสูงเนื่องจากการเลี้ยงไก่
  • การที่เชื้อระบาดประจำถิ่นจะทำให้เชื้อมีโอกาศกลายพันธ์ได้สูง

ประโยชน์ของการเตรียมพร้อม

  • การเตรียมพร้อมจะลดผลกระทบทางด้านเศรฐกิจ และทางการแพทย์หากมีการระบาด
  • การเตรียมพร้อมจะทำให้มีการปรับปรุงโครงสร้าง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการแพทย์
  • การเตรียมความพร้อมจะเป็นการทบทวนแผนการปฏิบัติการเฝ้าระวัง การจัดการเมื่อมีการระบาด

วิธีการเตรียมความพร้อม

สถานการณ์การผลิตวัคซีน

วัคซีนจะป้องกันการเสียชีวิตและหยุดการระบาดของโรคได้ แต่การผลิตวัคซีนต้องมีองค์ประกอบดังนี้

  • ประเทศที่มีการระบาดของเชื้อโรค จะต้องส่งเชื้อไปให้องค์การอนามัยโลกเพื่อที่จะทราบการแปลงแปรงทางพันธุกรรม จะได้สายพันธ์ที่ระบาด
  • บริษัทจะต้องเตรียมความพร้อมในการผลิตวัคซีนสำหรับการระบาดของเชื้อโรค รวมทั้งการทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัย
  • สาธารณสุขจะต้องปรึกษากับบริษัทที่ผลิตวัคซีนเพื่อจะนำวัคซีนไปทดลองใช้ นอกจากนั้นบริษัทต้องเตรียมพร้อมในการผลิตวัคซีนเมื่อมีการระบาดโดยที่ไม่ได้คาดโดยเฉพาะไม่ทราบเชื้อที่เป็นสาเหตุ ทำให้ต้องใช้วิธีการพิเศษ special technique of reverse genetics เพื่อสร้างวัคซีนสำหรับเชื้อไข้หวัดนก

ตั้งแต่เมษายนองค์การอนามัยโลกได้เชื้อต้นแบบพร้อมที่จะผลิตวัคซีน มีบริษัทที่ผลิตวัคซีนสองบริษัท ได้ผลิตออกมาเพื่อทำการทดสอบซึ่งต้องใช้เวลาหลายเดือน ในการรวมรวมข้อมูล และการปรับวัคซีนเพื่อเพิ่มประสิทธิ์ภาพ

ปัญหาในการผลิตวัคซีน

1ความสามารถในการผลิตวัคซีนไม่เพียงพอ

ทั่วโลกจะมีความสามารถในการผลิตวัคซีนประมาณ 750 ล้าน ในประเทศอเมริกาจะผลิตได้ 150 ล้านซึ่งเพียงพอในการใช้ในประเทศ การเพิ่มปริมาณการผลิตจะทำได้โดยการลดปริมาณเชื้อ และเพิ่มสารเพื่อเพิ่ม immunogenicity

2ประเทศผู้ผลิตมีน้อย

ประเทสผู้ผลิตมีน้อย เมื่อมีการระบาดของโรคประเทศเหล่านั้นจะกักตุนวัคซีนเพื่อประชากรของตัวเองทำให้เกิดการขาดแคลนวัคซีน ประเทศผู้ผลิตวัคซีนได้แก่

  • Australia
  • Canada
  • France
  • Germany
  • Italy
  • The Netherlands
  • Switzerland
  • The United Kingdom
  • The United States

3เทคโนโลยีการผลิต

มีเทคโนโลยีการผลิตหลายวิธีได้แก่

  • การผลิตวัคซีนโดยใช้ไวรัสที่มาจากสัตว์
  • การเลือกเชื้อที่มี antigen เหมือนกัน แต่ไม่คนไม่ติดเชื้อ
  • การใช้แบคทีเรียช่วยสร้างเชื้อไวรัส
  • Develop DNA-based vaccines
  • Use reverse genetics to construct vaccine seed strains that possess attenuated hemagglutinin
  • Use reverse genetics to construct attenuated donor strains

แผนการป้องกันการระบาดของโรคไข้หวัดนก

  1. การเฝ้าระวังการติดเชื้อไข้หวัดนก ( Surveillance )
  • ต้องมีความโปร่งใสในการรายงานคนที่ติดเชื้อไข้หวัดนก
  • จัดระบบเฝ้าระวังการระบาดของโรคไข้หวัดนก
  • เฝ้าระวังการระบาดของโรคไข้หวัดนกที่มกลุ่มีอาการของโรคที่ผิดจากที่เคยเป็น โดยต้องทำงานประสานกันระหว่างหลายหน่วยงาน
    • นักไวรัสวิทยาเพื่อตรวจลักษณะตัวเชื้อโรค
    • ศึกษาวิธีระบาดจากคนสู่คน
    • ดูการกลายพันธ์ของเชื้อไวรัส
  • มีการ่วมมือกันส่งตัวอย่างเชื้อที่ได้จากคนและสัตว์ไปยังองค์การอนามัยโลกเพื่อวิจัย
  • การเฝ้าระวังจะกระทำทั้งคนและสัตว์เพราะการระบาดของโรคมักจะเริ่มต้นจากสัตว์
  • ปฏิบัติการเตรียมพร้อมรับการระบาดตามตารางข้างบน
  1. การป้องกันการติดเชื้อในคน Public health interventions
  • เนื่องจากการระบาดของโรคจะเกิดคนทุกหมู่เหล้า ดังนั้นจะต้องมีความร่วมมือของทุกองค์กรเพื่อจำกัดการระบาดของโรค
  • จะต้องใช้วิธีการทุกอย่างเพื่อจำกัดการระบาดของโรคในระหว่างรอการผลิตวัคซีน
    • การสื่อสาร
    • ระบบแยกผู้ป่วย
    • ระบบกักกันผู้สัมผัสโรค
    • ระบบเฝ้าติดตามผู้ที่สัมผัสโรค
    • มาตราการลดการติดต่อ เช่นการปิดโรงเรียน การงดการจัดประชุมหรือแสดงมโหรสพ หยุดหยุดงานที่ไม่จำเป็น
    • มาตราการป้องกันติดต่อข้ามประเท
  1. การใช้ยาต้านไวรัส Use of antiviral agents
  • ประเทศส่วนใหญ่จะไม่มีวัคซีน ดังนั้นบริษัทผู้ผลิตควรจะมีสำรองไว้สำหรับการระบาด
  • การสำรองควรจะเป็นระดับนานาชาติ เพื่อลดการระบาดของโรค
  • การใช้วัคซีนเพื่อการรักษาจะดีกว่าการให้เพื่อป้องกัน
  1. การใช้วัคซีน
  • สนับสนุนให้มีการผลิตวัคซีนเพิ่มขึ้นเพื่อเตรียมสำหรับการระบาด
  • เนื่องมีวัคซีนปริมาณจำกัด ดังนั้นจะต้องมีนโยบาบว่าจะฉีดวัคซีนให้กับคนกลุ่มใดก่อน
  • จัดตั้งกองทุนเพื่อวิจัยหาวัคซีน

การเตรียมความพร้อมเพื่อป้องกันการระบาดไข้หวัดนกของประเทศอเมริกา

สหรัฐได้ร่างแผนป้องกันการระบาดของไข้หวัดนกเมื่อเดือนสิงหาคม 2004 ซึ่งมีแผนงานทั้งหมด 12 แผนงานดังนี้

  • แผนงานสำหรับรัฐและรัฐบาลท้องถิ่น
  • แผนงานสำหรับระบบสาธารณสุข
  • การทบทวนการเจ็บป่วยไข้หวัดใหญ่และการระบาด
  • การเฝ้าระวัง
  • การพัฒนาวัคซีนการผลิตวัคซีน
  • กลยุทธการให้วัคซีน การติดตามผลและความปลอดภัย
  • การใช้ยาต้านไวรัส
  • กลยุทธ์การลดการแพร่เชื้อ
  • การศึกษาและการสื่อสาร
  • การวิจัยเรื่องการระบาดของไข้หวัดนก
  • บทเรียนจากการระบาดเมื่อปี 1976
  • การเตรียมการและตอบสนองต่อการระบาดของไข้หวัดนก และโรคติดเชื้ออื่นๆ

เป้าหมาย(Goal)

  • ลดอัตราการตายและโรคแทรกซ้อน
  • ลดปัญหาทางสังคมและความสูญเสียทางเศรษฐกิจ

หลักการ

  • ค้นหาไวรัสสายพันธ์ใหม่ที่ติดเชื้อในคนและสัตว์โดยการใช้ความรู้ทางการติดเชื้อและไวรัสวิทยา
    • มีระบบเครือข่ายทั่วโลกเพื่อตรวจหาเชื้อไข้หวัดใหญ่ และแนะนำสายพันธ์ของไข้หวัดใหญ่ที่ต้องฉีดวัคซีน
    • ค้นหาไวรัสสายพันธ์ใหม่ที่ระบาดในคนและสัตว์
    • มีระบบป้องกันการแพร่เชื้อทางเครื่องบิน
    • มีระบบเฝ้าติดตามการระบาดของเชื้อไข้หวัดในประเทศ
  • มีการพัฒนาและประเมินการใช้วัคซีนพร้อมมอบสิทธิบัตรเพื่อให้มีการผลิตวัคซีนได้อย่างเพียงพอ
    • เร่งให้มีการผลิตวัคซีนให้เร็วขึ้นนับตั้งแต่เริ่มค้นพบเชื้อที่เป็นสาเหตุของการระบาด
    • การใช้เทคนิคใหม่เพื่อทำให้ผลิตวัคซีนได้เร็วขึ้น
  • การนำวัคซีนมาใช้และการจัดลำดับกลุ่มเป้าหมาย
    • (1)เมื่อเริ่มระบาดยังไม่มีวัคซีนใช้ ดังนั้นการใช้ยาต้านไวรัส การดูแลทางการแพทย์ การกักกันโรค จะมีบทบาทสำคัญในการป้องกันการระบาดของเชื้อโรค(2)วัคซีนจะใช้เวลาในการผลิต 6-8 เดือน เมื่อผลิตได้ในตอนแรกยังไม่พอ ต้องมีการจัดลำดับความสำคัญในการให้วัคซีน เช่นกลุ่มอาชีพที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เช่นกลุ่มเจ้าหน้าที่ทางสาธารณสุข(3)เมื่อวัคซีนผลิตได้เพียงพอจึงจะกำหนดให้ฉีดกับทุกคน
    • อาจจะมีตลาดมืดให้ราคาวัคซีนสูงทำให้วัคซีนขาดตลาดมากยิ่งขึ้น
  • การใช้ยาต้านไวรัส เนื่องจากการผลิตยาไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน และการป้องกันการดื้อยาของเชื้อโรค ดังนั้นจึงจำเป็นต้องให้ยาอย่างมีข้อบ่งชี้จริงๆเท่านั้น
    • การให้ยาต้องให้ในเวลา 48 ชั่วโมงหลังจากเกิดอาการ
    • ยาที่ใช้มีสองกลุ่มได้แก ่Adamantines และ Neuraminidase inhibitors (NI) (oseltamivir, zanamivir) มีรายงานว่ายาตัวหลังจะช่วยลดโรคแทรกซ้อน ลดปอดบวม
    • ยานี้ทางการสหรัฐได้บรรจุไว้ในคลังยาสำหรับป้องกันการติดเชื้อ
    • จัดทำแนวทางการให้ยา และให้ความรู้แก่แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ ทุกระดับ
    • การป้องกันการติดต่อของโรคข้ามชาติหรือการระบาดในท้องถิ่น
    • การป้องกันการระบาดในโรงพยาบาล และการติดต่อสู่เจ้าหน้าที่สาธารณสุข
    • การป้องกันการติดต่ออาจจะไม่สามารถป้องกันได้ 100% เนื่องจากคนที่มีเชื้อโรคบางคนไม่มีอาการของโรค
    • ช่วงที่เริ่มมีการระบาดอาาจะลดการแพร่เชื้อโรคโดยการลดการจัดงานที่คนมารวมตัวกัน ปิดโรงเรียน เป็นต้น
  • รัฐบาลและท้องถิ่นต้องร่วมมือกันเตรียมความพร้อมทางสาธารณสุขเพื่อการบริการที่พอเพียง
    • เมื่อมีการระบาดจะทำให้เกิดปัญหาคนไข้ล้นโรงพยาบาลทั้งคนไข้ในและผู้ป่วยนอก รวมทั้งปัญหาการขาดงานของเจ้าหน้าที่เนื่องจากภาระงานมากหรือป่วย
    • มีการขาดแคลนเตียง คน และเครื่องมือ รวมทั้งเลือด
    • ต้องมีการวางแผนเพื่อมีเตียงอย่างเพียงพอ เช่น การเลื่อนผ่าตัดรายที่รอได้ รายที่ไม่จำเป็นมากอาจจะไม่ต้องนอนโรงพยาบาล ให้ผู้ป่วยกลับเร็วขึ้น
    • อาจจะหาที่สำรองสำหรับผู้ป่วย แต่ต้องเน้นเรื่องการควบคุมโรคติดเชื้อ
    • ผู้ป่วยอาจจะไม่จำเป็นต้องมาโรงพยาบาล แต่อาจจะมีบริการอื่นเสริม เช่น การส่งยาถึงบ้าน การส่งเจ้าหน้าที่ไปดูผู้ป่วยที่บ้าน
  • การสื่อสารอย่างมีคุณภาพกับผู้นำท้องถิ่น ประชาชน
    • อธิบายถึงโรคไข้หวัดนก การดำเนินของโรค การดูแลตัวเอง การดูแลผู้ป่วย การฉีดวัคซีน กลุ่มที่ต้องฉีดวัคซีนก่อนเป็นอันดับแรก

การเตรียมตัวช่วงที่ยังไม่มีการระบาดของโรค

  • เพิ่มกำลังการผลิตวัคซีน รวมทั้งวิจัยขนาดวัคซีนที่จะฉีด
  • เพิ่มมาตราการการเฝ้าระวังการระบาดของไวรัสเกิดใหม่ทั้งคนและสัตว์ ที่จะนำไปสู่การระบาดในคน รวบรวมเชื้อ และทดสอบการใช้ยา
  • มีระบบเฝ้าระวังการติดเชื้อในโรงพยาบาล และรายงานผล
  • มีการวิจัยเรื่องพยาธิสภาพ และกลไกการเกิดโรค
  • ลดระยะเวลาในการผลิตวัคซีน
  • เมื่อค้นพบไวรัสชนิดใหม่ ต้องทำวัคซีนเพื่อศึกษาการใช้ ขนาดของยา และสารที่จะผสม
  • ศึกษาวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่สามารถใช้ได้กับหายสายพันธ์ที่ทำให้เกิดโรค
  • กระตุ้นให้มีการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี
  • เพิ่มการตรวจสอบประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ การกระจายของวัคซีน
  • ตรวจชนิดและจำนวนของยาต้านไวรัสในคลัง
  • วางแผนและซักซ้อมเจ้าหน้าที่เพื่อเตรียมรับการระบาดของเชื้อโีรค
  • เตรียมแผนปิดโรงเรียน แผนการกักกันผู้ต้องสงสัย
  • เตรียมสื่อสำหรับทำความเข้าใจสำหรับประชาชน

กลับหน้าเดิม