การวินิจฉัยโรคซึมเศร้า

แพทย์ทั่วไปจะตรวจร่างกายเพื่อจะหาสาเหตุทางกาย เช่นโรคติดเชื้อไวรัส หรือยาที่ผู้ป่วยรับประทาน ประวัติการดื่มสุรา ยาเสพติด ความคิดที่จะฆ่าตัวตาย หากสงสัยว่าจะเป็นโรคซึมเศร้าจิตแพทย์ก็จะประเมินสภาวะจิตใจของผู้ป่วย

การรักษาโรคซึมเศร้า

  1. การช้อคไฟฟ้า Electroconvulsive therapy (ECT) เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นรุนแรง หรือผู้ที่ไม่สามารถรับประทานยา๖นโทมนัส หรือใช้ยาแล้วไม่ได้ผล
  2. การใช้ยาต้านโทมนัส ยาที่ใช้รักษามีด้วยกันหลายกลุ่มได้แก่
  • selective serotonin reuptake inhibitors (SSRIs)
  • tricyclics
  • monoamine oxidase inhibitors (MAOIs) ผู้ที่รับประทานยากลุ่มนี้จะต้องระวังอาหารที่มีส่วนผสมของ tyramine ซึ่งจะทำให้ความดันโลหิตขึ้นสูง อาหารดังกล่าวได้แก่ cheeses, wines, pickles, ยาลดน้ำมูก

แพทย์อาจจะเลือกใช้ยาตัวใดตัวหนึ่งหรือใช้ยาหลายชนิดรวมกัน โดยมากจะเริ่มเห็นผลใน 2-3 สัปดาห์และให้รับประทานต่อไปประมาณ 1 เดือนยาจะออกฤทธิ์เต็มที่เมื่อรับยาไปแล้ว 8 สัปดาห์ ช่วงแรกของการรับประทานยาอาจจะเกิดผลข้างเคียงของยาก่อนจะเห็นผลดีให้รับประทานต่อ เมื่ออาการดีขึ้นอย่าเพิ่งหยุดยาจนกระทั่งไปทำงานได้โดยจะต้องรับประทาน 4-9 เดือน โดยแพทย์จะค่อยๆหยุดยาเพื่อให้ร่างกายปรับตัว

ผลข้างเคียงของยา

ผลข้างเคียงพบได้ไม่รุนแรงหายเองได้ แต่หากเกิดผลข้างเคียงที่รบกวนคุณภาพชีวิตให้ปรึกษาแพทย์ ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยคือ

  • ปากแห้ง แก้โดยการเคี้ยวหมากฝรั่งหรือดื่มน้ำมากๆ
  • ท้องผูก แก้โดยการรับประทานผลไม้ให้มาก
  • ปัสสาวะไม่พุ่งหรือปัสสาวะลำบาก
  • ตามัว
  • เวียนศีรษะ
  • ง่วงนอน

ผลข้างเคียงของยากลุ่มใหม่

  • ปวดศีรษะ อาการนี้จะหายไปเอง
  • คลื่นไส้อาเจียนซึ่งเป็นชั่วคราว
  • นอนไม่หลับและหงุดหงิด
  • ปัญหาทางเพศสัมพันธ์
  • กระวนกระวาย

การดูแลตัวเอง

ผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้ามักจะท้อถอย สิ้นหวัง ไม่มีค่า ทำให้ผู้ป่วยยอมแพ้ โปรดจำไว้ว่าความรู้สึกและความจริงไม่เหมือนกัน

  • ให้ดำเนินชีวิตตามตารางงาน
  • รับประทานยาตามแพทย์สั่ง
  • ให้ค่อยๆเพิ่มรับผิดชอบงานที่ได้รับ
  • ตั้งเป้าหมายให้สามารถทำได้ อย่าให้เกินความสามารถของตัวเอง
  • อย่าทำงานใหญ่เกินตัว แบ่งงานเป็นโครงการเล็กๆ ให้จัดลำดับความสำคัญก่อนหลังของงาน
  • ให้มีสังคมกับผู้อื่นเพราะการอยู่คนเดียวจะทำให้อาการเป็นมากขึ้น
  • ให้มีกิจกรรมที่ชอบเช่น การเล่นกีฬา ดูหนัง ฟังเพลง
  • อารมณ์จะค่อยๆดีขึ้นอย่างช้าๆหลังการรักษา
  • หากจะต้องมีการตัดสินใจสำคัญ เช่น การแต่งงาน การเปลี่ยนงาน ให้เลื่อนไปก่อนจนกระทั่งอาการซึมเศร้าดีขึ้น
  • นอนพักอย่างเพียงพอ รับประทานอาหารที่มีคุณภาพ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  • ก่อนรับประทานยาใหญ่ให้ปรึกษากับแพทย์ถึงผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้น

ลองตรวจสอบตัวท่านหรือคนใกล้เคียงว่ามีใครเป็นโรคซึมเศร้าบ้าง

ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ท่าน

  • รู้สึกกลุ้มใจซึมเศร้าทุกๆวันหรือทั้งวัน หรือไม่
  • รู้สึก เบื่อทุกๆสิ่ง หรือไม่
  • เบื่ออาหาร หรือไม่
  • มีปัญหาในการ นอนหลับ หรือไม่
  • รู้สึกกระวน กระวาย (หรือ ซึมๆ เนือยๆ) หรือไม่
  • รู้สึกเพลีย เหนื่อยง่าย หรือไม่
  • รู้สึกผิดหวังไร้ค่าไร้ความสามารถ หรือไม่
  • รู้สึกใจลอยไม่มีสมาธิหรือไม่
  • รู้สึกเบื่อชีวิตคิดอยากฆ่าตัวตายหรือไม่

ถ้า ท่าน มีอารมณ์เศร้าเบื่อทุกๆอย่านานกว่า 2 สัปดาห์ และมีอาการต่อไป นี้อีกอย่าง น้อย 4 ข้อ ท่านอาจเป็นโรคซึมเศร้า

  • เบื่ออาหาร ผอมลง
  • นอนไม่หลับ
  • กระวน กระวาย หรือซึมๆ เนือยๆ
  • อ่อนเพลียง่าย
  • รู้สึกผิด ไร้ค่า
  • ขาดสมาธิ
  • คิดอยากตาย

โรคซึมเศร้าเป็นการเจ็บป่วยของจิตใจ ผู้ป่วยร้อยละ 70-80 รักษาได้ด้วยยาแก้ซึมเศร้า หากท่านหรือญาติพี่น้องหรือเพื่อนร่วมงานของท่านมีอาการซึมเศร้าโปรดติดต่อแพทย์ของท่านหรือผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวช

สาเหตุของโรคซึมเศร้า การวินิจฉัยและการรักษา | โรคซึมเศร้า | แบบประเมินโรคซึมเศร้า