รับประทานไข่สุกหรือไข่ดิบ
ไข่หนึ่งพองจะมีพลังงานทั้งหมด 71 แคลอรี่ และมีคอเลสเตอรอล 210 มิลิกรัม ในไข่แดงจะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญคือ lutein และ zeaxanthin ซึ่งจะช่วยป้องกันต้อกระจกและจอภาพตาเสื่อม มีธาตุแคลเซี่ยม วิตามินที่ละลายในน้ำ วิตามินบี6,12 กรดโฟลิก ไขมัน ฟอสฟอรัส ส่วนไข่ขาวจะมีโปรตีน โปแตสเซี่ยมตามคำแนะนำว่าคนทั่วไปไม่ควรจะรับประทาคอเลสเตอรอลไม่เกิน 300 มิลิกรัม สำหรับผู้ที่ไขมันในเลือดสูงไม่ควรเกิน 210 มิลิกรัม ก่อนหน้านี้จะแนะนำให้ระวังเรื่องการบริโภคไข่ แต่ปัจจุบันคนปกติสามารถรับประทานไข่ได้ แต่สำหรับผู้ป่วยที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดเช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูงที่ควบคุมไม่ได้ให้รับประทานไม่เกินวันละฟอง และควรจะตรวจระดับไขมัน รับประทานผักให้มากขึ้น
จะรับประทานไข่ดิบ หรือไข่สุกดี
จะรับประทานไข่ดิบหรือไข่สุก
จากการสำรวจไข่ที่ประเทศอังกฤษพบว่าไข่ที่ได้จากฟามร์จะพบว่ามีการปนเปื้อนเชื้อ salmonella ประมาณร้อยละ 23 เมื่อเทียบกับไข่ไก่ที่เลี้ยงแบบธรรมชาติ pasture egg พบว่ามีการปนเปื้อนเพียงร้อยละ 4.4-6.5 เท่านั้น จึงแนะนำให้รับประทานไข่ที่ปรุงสุกแล้วเท่านั้น ในไข่แดงจะมีสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งงจะเสียคุณภาพไปร้อยละ50หากถูกความร้อนหรือเข้าไมโครเวฟ ดังนั้นหากรับประทานไข่ดิบหรือกึ่งสุกเช่นไข่ลวก ไข่ต๋น หรือไข่ดาวสุกๆดิบจะได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ แต่ต้องเป็นไข่ที่ผ่านการ pasturized
รับประทานไข่ไม่สุกจะเป็นอันตรายหรือไม่
หลายท่านจะเชื่อว่าการรับประทานไข่ดิบจะมีประโยชน์กับร่างกายเนื่องจากเชื่อว่าความร้อนจะทำลาย enzymes,สารอาหารต่างๆและโปรตีน และรู้สึกว่าย่อยง่าย แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานว่าการรับประทานไข่ดิบจะมีประโยชน์มากกว่าไข่สุก นอกจากนั้นการรับประทานไข่ขาวดิบซึ่งมีสารที่จะลดการทำงานของน้ำย่อย trypsin ซึ่งจะส่งผลทำให้การย่อยโปรตีนลดลง และยังมีสาร Avidin ซึ่งจะลดการดูดซึมวิตามินบีซึ่งจะมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด
ไข่อาจจะมีเชื้อ salmonella ข้างในก็ได้แม้ว่าเปลือกไข่จะปกติ ดังนั้นการรับประทานไข่ที่ปรุงไม่สุกหรือไข่ดิบอาจจะทำให้เกิดอาหารเป็นพิษ ดังนั้นกลุ่มคนเหล่านี้ไม่ควรที่จะรับประทานไข่ดิบหรือไข่ไม่สุก
- เด็กหรือทารก
- ผู้สูงอายุ
- คนตั้งครรภ์
- คนป่วย
หากจะรับประทานไข่ดิบหรือปรุงไม่สุกจะต้องรับประทานไข่ที่ผ่านการทำ pasteurised เนื่องจากเชื้อโรค salmonellaจะถูกทำลาย
ข้อควรระวังเกี่ยวกับการการปรุงไข่ การพาสเจอร์ไรซ์คือการใช้ความร้อนในการฆ่าเชื้อโรค ไข่ที่ขายตามท้องตลาดจะเป็นไข่ที่ไม่ผ่านขบวนการพาสเจอร์ไรซ์ ไข่ Pasteurised มักจะอยู่ในรูปของเหลวแห้งหรือรูปแบบแช่แข็ง สำหรับผู้ที่ปรุงอาหารให้กลุ่มที่เสี่ยง และต้องปรุงไข่ที่ไม่สุข ให้เลือกซื้อไข่ที่ผ่านขบวนการ พาสเจอร์ไรซ์ เมื่อคุณเลือกซื้อไข่ที่ไม่ผ่านขบวนการ พาสเจอร์ไรซ์ ท่านจะต้องให้ความสำคัญเกี่ยวกับการ
- การเก็บไข่อย่างปลอดภัย
- ระวังการแพร่เชื้อจากไข่ไปสู่อาหารอื่น
- ปรุงไข่ให้สุกทั้งไข่แดง และไข่ขาว
ไข่ดาว
ไข่สดจะมีพลังงานและไขมันน้อยกว่าไข่ดาว แต่สารอาหารทั้งไข่สดและไข่ดาวไม่ต่างกัน ไข่ดาวจะมีพลังงาน 90 แคลอรี่และมีไขมัน 6.8 กรับเมื่อเทียบกับไข่สดจะมีพลังงาน 72 แคลอรีและมีไขมัน 4.8 กรัม นอกจากนั้นจะต้องระวังเครื่องปรุงอื่นๆเช่นเกลือ ซอส ที่สำคัญควรจะเป็นไข่สุกทั้งฟองเพื่อลดการติดเชื้อ salmonella
ประโยชน์ของไข่ต้ม
ไข่ที่ต้มสุกจะสามารถแยกไข่ขาวและไข่แดง สำหรับผู้ที่มีไขมันในเลือดสูง อาจจะแยกไข่แดง และรับประทานไข่แดงเพียงครึ่งฟองซึ่งจะทำให้ได้รับคอเลสเตอรอลไม่เกิน ส่วนไข่ขาวอาจจะนำไปตกแต่สลัดหรือรับประทานกับข้าวเพื่อเพิ่มโปรตีน
ความปลอดภัยในการรับประทานไข่
ควรจะรับประทานไข่ที่ปรุงสุกแล้วเท้านั้น หากจำเป็นต้องใช้ไข่สดในการปรุงอาหารควรจะเลือกซื้อไข่ที่ผ่านขบวนการ pasteurized ก่อน และควรจะใช้กะทะไร้ไขมันในการทอด
รับประทานไข่ไม่สุกจะเป็นอันตรายหรือไม่
หลายท่านจะเชื่อว่าการรับประทานไข่ดิบจะมีประโยชน์กับร่างกายเนื่องจากเชื่อว่าความร้อนจะทำลาย enzymes,สารอาหารต่างๆและโปรตีน และรู้สึกว่าย่อยง่าย แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานว่าการรับประทานไข่ดิบจะมีประโยชน์มากกว่าไข่สุก นอกจากนั้นการรับประทานไข่ขาวดิบซึ่งมีสารที่จะลดการทำงานของน้ำย่อย trypsin ซึ่งจะส่งผลทำให้การย่อยโปรตีนลดลง และยังมีสาร Avidin ซึ่งจะลดการดูดซึมวิตามินบีซึ่งจะมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด
ไข่อาจจะมีเชื้อ salmonella ข้างในก็ได้แม้ว่าเปลือกไข่จะปกติ ดังนั้นการรับประทานไข่ที่ปรุงไม่สุกหรือไข่ดิบอาจจะทำให้เกิดอาหารเป็นพิษ ดังนั้นกลุ่มคนเหล่านี้ไม่ควรที่จะรับประทานไข่ดิบหรือไข่ไม่สุก
- เด็กหรือทารก
- ผู้สูงอายุ
- คนตั้งครรภ์
- คนป่วย
หากจะรับประทานไข่ดิบหรือปรุงไม่สุกจะต้องรับประทานไข่ที่ผ่านการทำ pasteurised เนื่องจากเชื้อโรค salmonellaจะถูกทำลาย
ข้อควรระวังเกี่ยวกับการการปรุงไข่ การพาสเจอร์ไรซ์คือการใช้ความร้อนในการฆ่าเชื้อโรค ไข่ที่ขายตามท้องตลาดจะเป็นไข่ที่ไม่ผ่านขบวนการพาสเจอร์ไรซ์ ไข่ Pasteurised มักจะอยู่ในรูปของเหลวแห้งหรือรูปแบบแช่แข็ง สำหรับผู้ที่ปรุงอาหารให้กลุ่มที่เสี่ยง และต้องปรุงไข่ที่ไม่สุข ให้เลือกซื้อไข่ที่ผ่านขบวนการ พาสเจอร์ไรซ์ เมื่อคุณเลือกซื้อไข่ที่ไม่ผ่านขบวนการ พาสเจอร์ไรซ์ ท่านจะต้องให้ความสำคัญเกี่ยวกับการ
- การเก็บไข่อย่างปลอดภัย
- ระวังการแพร่เชื้อจากไข่ไปสู่อาหารอื่น
- ปรุงไข่ให้สุกทั้งไข่แดง และไข่ขาว
มีอาหารอะไรบ้างที่ใช้ไข่ดิบปรุงอาหารโดยที่ไม่ปรุงไข่ให้สุก
- homemade mayonnaise
- hollandaise and Béarnaise sauces
- salad dressings
- ice cream
- icing
- mousse
- tiramisu
หากท่านต้องการปรุงอาหารเหล่านี้ควรจะใช้ไข่ที่ผ่านการ pasteurised