หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | วัคซีน

Glycemic Index: ทำความรู้จักและวิธีการปรับเปลี่ยนการบริโภคอาหาร

เมื่อพูดถึงการดูแลสุขภาพและความเป็นมาตรฐานของอาหารที่เราบริโภคทุกวัน คำว่า "Glycemic Index" จะเป็นหนึ่งในคำศัพท์ที่น่าสนใจและสำคัญอย่างมาก ด้วยความเข้าใจเกี่ยวกับ Glycemic Index และวิธีการปรับเปลี่ยนแบบการบริโภคอาหารของคุณ คุณจะสามารถดูแลระดับน้ำตาลในเลือดและสุขภาพทางด้านอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

Glycemic Index (GI) คืออะไร?

Glycemic Index (GI) คือตัวชี้วัดระดับน้ำตาลในเลือดที่เพิ่มขึ้นหลังจากที่เราบริโภคอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต หรือคาร์บส์ ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลักของร่างกาย เมื่อเราทานอาหารที่มี GI สูง ระดับน้ำตาลในเลือดจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจทำให้เกิดความรู้สึกหิวอีกครั้งในระยะเวลาสั้น ๆ รวมถึงส่งผลกระทบต่อการควบคุมน้ำหนักและสุขภาพรวมของร่างกายด้วย



วิธีการคำนวน Glycemic Index:

ในการคำนวณหา Glycemic index จะทดลองใช้คนปกติโดยการรับประทานแป้ง Carbohydrate 50 กรัม และเจาะน้ำตาลในเลือดทุก 15 นาทีเพื่อที่จะดูอัตราการเพิ่มของน้ำตาลทั้งความเร็วและปริมาณที่เพิ่มหากน้ำตาลขึ้นเร็วและมากแสดงว่าสารนั้นมี Glycemic index สูง ค่า Glycemic index มีค่า 1-100 หากค่าน้อยกว่า 55 ถือว่ามีค่า GI ต่ำ ค่าอยู่ระหว่า 55-70 ถือว่ามีค่า GI ปานกลาง หากมีค่ามากกว่า 70 ถือว่ามีค่าสูง

ปัญหาของการหาค่า GI อยู่ที่การวัดจะต้องมีปริมาณ Carbohydrate 50 กรัม หากเราจะรับประทานอาหารบางชนิดที่มี Cabohydrate 50 กรัมจะต้องรับประทานอาหารเป็นจำนวนมาก ดังนั้นในการทดลองอาจจะรับประทานอาหารไม่ถึง 50 กรัมจึงทำให้ต่าที่วัดได้มีการแปรปรวน

นอกจากนั้นในการทดลองหลายแห่งค่าที่ได้ไม่ใกล้เคียงกันดังนั้นจึงอาจจะใช้ค่าเฉลี่ย

GI คำนวนโดยเปรียบเทียบกับระดับน้ำตาลในเลือดหลังจากที่บริโภคคาร์บส์จากอาหารทดแทนที่มี GI 100% (เช่น น้ำตาลปีโป้) การคำนวน GI ของอาหารมีขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้:

อาหารที่ไม่มีค่า GI หรือค่า GI ต่ำมาก

สามารถรับประทานได้โดยเป็นส่วนหนึ่งของอาหารระดับน้ำตาลในเลือดต่ำที่สมดุล พวกเขารวมถึง: