การปรุงอาหารโดยใช้ Microwave
ความปลอดภัยในการใช้ Microwaves
ปัจจุบันคนไทยโดยเฉพาะคนในเมือง มีภาระกิจมากมาย จนไม่มีเวลาที่จะปรุงอาหารแบบเดิมๆ ต้องอาศัยอาหารสำเร็จรูป หรืออาหารแช่แข็งแล้วนำมาอุ่น อุปกรณ์ที่มีความจำเป็นสำหรับคนปัจจุบันได้แก่เครื่อง Microwave เครื่องไมโครเวปได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในการประกอบอาหารซึ่งทำได้ง่าย สะดวกและทำให้อาหารสุก แต่ข้อเสียคือเราไม่สามารถคน หรือผัดเพื่อทำให้อาหารมีอุณหภูมิเท่ากันตลอด ดังนั้นหากจะปรุงอาหารจะต้องระวังเรื่องอุณหภูมิที่ไม่คงที่ การเรียนรู้วิธีใช้อย่างถูกต้องจะทำให้คุณได้อาหารที่อร่อยและปลอดภัย
เคล็ดการปรุงอาหารด้วย microwave
- การเก็บหรือถนอมอาหารทำอย่างถูกต้อง
- แกะหีบห่อก่อนละลายน้ำแข็ง
- ให้ปรุงอาหารทันทีหลังละลายน้ำแข็ง
- เรียงอาหารให้ชิ้นใหญ่อยู่ริม
- ใช้ภาชนะสำหรับใน microwave
- ภาชนะที่ครอบอาหารต้องสำหรับใช้ใน microwave
- ระหว่างปรุงหรืออุ่นอาหาร
- ให้คนอาหาร
- เรียงอาหาร
- วางตำแหน่งจานใหม่
- หลังปรุงอาหารปล่อยไว้สักระยะหนึ่ง
- วิธีทดสอบว่าอาหารสุก
- เนื้อปลาไข่อุณหภูมิ 160 องศาฟาร์เรนไฮต
- ไก่เป็ดอุณหภูมิ 170-180 องศาฟาร์เรนไฮต
- น้ำจากเนื้อไม่เป็นสีเลือด
- เนื้อปลาแกะได้ง่าย
- ไข่จะสุกไม่เป็นวุ้น
- อาหารที่จะเก็บไม่ควรทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องเกิน 2 ชม.
- การอุ่นให้อุณหภูมิ 160 องศาฟาร์เรนไฮต
วิธีการปรุงอาหารด้วย Microwave
การปรุงอาหารปกติไม่ว่าจะใช้เตาอบ หรือกะทะความร้อนจะผ่านไปยังอาหารอย่างสม่ำเสมอ แต่การทำอาหารด้วย Microwave ความร้อนเกิดจากการเสียดสีโมเลกุลคลื่น Microwave จะลงลึกได้ 1-2 นิ้ว ดังนั้นชิ้นเนื้อที่หนามากๆอาจจะไม่สุก นอกจากนั้นหลังจากครบเวลาครบเวลาอบด้วย Microwave แล้ว ต้องทิ้งไว้ประมาณ1/3ของเวลาที่ใช้อบเพื่อให้ความร้อนยังขึ้นสูงสุด
การละลายน้ำแข็ง
อย่างกล่าวในเบื้อต้นว่าอาหารส่วนใหญ่จะเป็นอาหารแช่แข็ง การละลายน้ำแข็งให้ละลายในตู้ Microwave แกะวัสดุที่ใช้ห่อออกปรึกษากับบริษัทว่าจะต้องความร้อนเท่าใด และนานเท่าใด ระหว่าละลายต้องหมั่นเรีองอาหารใหม่ หมั่นพลิกอาหาร เมื่อละลายเสร็จให้รีบปรุงอาหาร เพราะยังมีความร้อนเหลือในอาหาร
การปรุงอาหาร
ก่อนปรุงอาหารต้องล้างมือ ภาชนะ อาหารให้สะอาด อาหารที่กลิ่นไม่ดีก็ไม่ควรจะนำมาปรุง ภาชนะที่ใช้ปรุงต้องระบุว่าใช้ใน Microwave ได้ หันอาหารให้มีขนาดเท่าๆกัน เรีองอาหารให้อาหารที่ชิ้นหนาอยู่ขอบเนื่องจากจะได้รับคลื่นมากกว่าส่วนกลาง ครอบด้วยภาชนะที่ทนเพื่อที่อาการรอบอาหารจะร้อนทำให้อาหารสุกเร็วขึ้น ให้คลุกอาหารและเรียงอาหารใหม่ชิ้นใหญ่อยู่ขอบจนครบกำหนดเวลา
จะรู้ได้อย่างไรว่าอาหารสุก
เมื่อปรุงอาหารครบเวลาที่กำหนดแล้วให้รอเวลาอีก1/3ของเวลาที่ปรุงอาหาร วิธีสังเกตว่าอาหารสุขหรือไม่ดังนี้
- น้ำจากเนื้อสัตว์ไม่ควรเป็นน้ำเลือด ข้อต่อของไก่ควรจะเคลื่อนไหวได้ดี เนื้อปลาควรจะแกะได้ง่าย
- ใช้ปรอทสำหรับวัดอุณหภูมิ เนื้อปลา ไข่อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 106 องศาฟาร์เรนไฮต์ เนื้อเป็ดไก่ อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 170 องศาฟาร์เรนไฮต
การวัดอุณหภูมิอาหารสำคัญมากสำหรับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เพราะหากอาหารไม่สุกจะทำให้ผู้ป่วยท้องร่วง
การเก็บอาหารที่เหลือ
แม้ว่าการเก็บอาหารที่เหลือจะไม่ปลอดภัยสำหรับรับประทาน แต่ในภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา และการซื้ออาหารสำเร็จรูปไว้รับประทานอาหารทำให้ต้องเก็บอาหารที่เหลือไว้รับประทานมื้อต่อไป หลักการเก็บมีดังนี้
- อาหารที่อยู่ในอุณหภูมิห้องเกิน 2 ชั่วโมงไม่ควรจะเก็บไว้
- อาหารที่เก็บไม่ควรเกิน 3-4 วัน
- เมื่ออาหารปรุงเสร็จใหม่ๆ ให้แบ่งใส่ภาชนะตื้นๆหลายๆใบเพื่อให้อาหารเย็นเร็ว แล้วจึงเก็บในตู้เย็น
การอุ่นอาหารด้วย microwave
ก่อนการอุ่นอาหารด้วย microwave ต้องแน่ใจว่าอาหารนั้นสะอาด ผ่านการเก็บอาหารอย่างถูกต้อง
- ความร้อนจากการอุ่นอาหารไม่สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
- ความร้อนจากการอุ่นอาหารไม่สามารถทำลาย toxin หรือสารพิษในอาหาร
- อาหารเหลวต้องหมั่นคนอาหาร
- อุณหภูมิสำหรับการอุ่นอาหารประมาณ 165 องศาฟาร์เรนไฮต หรือตรงกลางภาชนะร้อน