เมื่อโพแทสเซี่ยมในเลือดสูง
- โพแทสเซี่ยม
- โพแทสเซี่ยมในเลือดสูง
- โพแทสเซี่ยมในเลือดต่ำ
- ปริมาณโพแทสเซี่ยมในอาหาร
- ภาวะโพแทสเซี่ยมในเลือดต่ำ
- ภาวะโพแทสเซี่ยมในเลือดสูง
- โพแทสเซี่ยมและความดันโลหิต
โพแทสเซี่ยมเป็นแร่ธาตุที่พบได้ในอาหารทั่วๆไป โพแทสเซี่ยมจะช่วยทำให้หัวใจเต้นปกติ กล้ามเนื้อทำงานปกติ ไตมีหน้าที่ควบคุมปริมาณโพแทสเซี่ยมในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เมื่อเกิดภาวะไตเสื่อมทำให้ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ผู้ที่มีภาวะดังกล่าวจะต้องลดปริมาณอาหารที่มีโพแทสเซี่ยมลง เนื่องจากหากดพแตสเซี่ยมในเลือดสูงจะมีอาการอ่อนเพลีย ชา และอาจจะเกิดหัวใจเต้นผิดปกติ
ค่าปกติของโพแทสเซี่ยมในเลือด
- ค่าปกติของโพแทสเซี่ยมในเลือดคืออยู่ระหว่าง 3.5- 5.0
- หากค่าโพแทสเซี่ยมอยู่ระหว่าง 5.1-6.0 ต้องระวัง
- หากค่าโพแทสเซี่ยมมากกว่า 6 เป้นค่าที่อาจจะเกิดอันตราย
สาเหตุที่ค่าโพแทสเซี่ยมในเลือดสูง Hyperkalemia
ภาวะโพแทสเซี่ยมในเลือดสูง( Hyperkalemia) มักเกิดจากความผิดปกติของไต เช่น โรคไตเรื้อรัง หรือไตวายเฉียบพลัน ทว่าอาจมีปัจจัยอื่นนอกเหนือจากสาเหตุข้างต้นได้เช่นกัน ดังนี้
- โรคความผิดปกติทางเมตาบอลิซึมหรือระบบเผาผลาญพลังงาน
- โรคทางพันธุกรรมบางชนิด
- โรคแอดดิสัน (Addison's Disease) ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของต่อมหมวกไต
- โรคเบาหวานชนิดที่ 1
- ภาวะเม็ดเลือดแดงแตกตัวเนื่องจากโรคหรือการรักษาบางชนิด
- ภาวะเซลล์กล้ามเนื้อเกิดการสลายตัวเนื่องจากโรคหรือการรักษาบางชนิด
- การรับประทานยาบางชนิด ได้แก่ ยาต้านความดันโลหิตสูง เช่น กลุ่มยาขับปัสสาวะโพแทสเซียมสแปริ่ง ยากลุ่ม AceI ยา beta- blocker เป็นต้น รวมถึงยา NSAIDs ต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ยาซักซินิลโคลีน ยาเฮพาริน ยาดิจิทาลิส และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมโพแทสเซียม
- การเจาะเลือดที่ไม่ถูกวิธี เช่น สายยางรัดแขนแน่นจนเกินไป หรือระยะเวลาการเจาะนานเกินไป
ยาที่หากใช้ร่วมกันอาจจะทำให้เกลือแร่โพแทสเซี่ยมสูงขึ้น
- ยาแก้ปวดกลุ่ม Nonsteroidal anti-inflammatory drugs (NSAIDs):เช่น diclofenac ,ibuprofen,piroxicam,ยาในกลุ่ม COX2 หากผู้ป่วยมีโรคไตอยู่เก่า และรับยาในกลุ่มนี้จะมีความเสี่ยงต่อเกลือโพแทสเซี่ยมสูง
- ยาลดความดันกลุ่ม ACE inhibitors: ใช้รักษาความดันโลหิตสูง และหัวใจวาย หากผู้ป่วยมีโรคไตอยู่จะทำให้ระดับเกลือแร่สูงขึ้น
- Heparin (used for blood clots)
- Cyclosporine (used to suppress the immune system)
- Trimethoprimand sulfamethoxazole,
- Beta-blockers: ใช้รักษาความดันโลหิตสูง
ระดับโพแทสเซียมสูงมักจะค่อยๆพัฒนาขึ้น ผู้ที่มีโพแทสเซียมในระดับสูงจะมีอาการ
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ความมึนงง
- การรู้สึกเสียวซ่า
- ความเกลียดชัง
หากระดับโพแทสเซียมเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและรวดเร็วบุคคลอาจประสบปัญหาต่อไปนี้:
- คลื่นไส้และอาเจียน
- เจ็บหน้าอก
- หัวใจวาย
- หายใจถี่
อาการเหล่านี้ควรปรึกษาแพทย์ี
วิธีป้องกันมิให้โพแทสเซี่ยมในเลือดสูงเกินไป
- ให้จำกัดอาหารที่มีโพแทสเซี่ยมสูง
- รับประทานอาหารให้ครบหมู่ แต่ลดปริมาณพอควร
- หากต้องการรับประทานอาหารที่มีโพแทสเซี่ยมสูงจะต้องทำการชะล้างเอาโพแทสเซี่ยมบางส่วนออกก่อน
- งดเครื่องดิ่มบรรจุกระป๋องหรือกล่อง เช่นน้ำผลไม้ ผัก น้ำซุปจากการต้มเนื้อ
- แม้ว่าอาหารที่รับประทานจะมีปริมาณโพแทสเซี่ยมต่ำ แต่หากเรารับประทานมากก็จะได้รับปริมาณโพแทสเซี่ยมสูง
อาหารที่มีโพแทสเซียมสูงควรหลีกเลี่ยง
ผู้ที่เป็นโรคไตเรื้อรังหรือโรคไตวายเรื้อรัง ผู้ที่มีโพแทสเซี่ยมในเลือดสูงควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารกลุ่มนี้
- ถั่ว
- ถั่วและพืชตระกูลถั่ว
- มันฝรั่ง
- กล้วย
- นมและผลิตภัณฑ์จากนม
- อะโวคาโด
- อาหารรสเค็ม
- อาหารจานด่วน
- เนื้อสัตว์แปรรูปเช่นเนื้ออาหารกลางวันและhot dog
- ผักขม
- แคนตาลูปและน้ำเกรวี่
- มะเขือเทศ
- น้ำผัก
- ทุเรียน
- ลำไย
- ผลไม้แห้งต่างๆ เช่น ลูกเกด ลูกพรุน
- แครอท
- มะเขือเทศ
- หน่อไม้ฝรั่ง
- คะน้า
- หัวปลี
- ผักชี
อาหารที่มีโพแทสเซียมปานกลาง
ได้แก่ สับปะรด ฝรั่ง แอปเปิ้ล เงาะ ส้ม องุ่น ลิ้นจี่ แคนตาลูป ส้มโอ มะม่วงดิบ มะเขือยาว หอมหัวใหญ่ ผักบุ้งจีน มะละกอดิบ ถั่วพู (ฝักอ่อน) พริกหวาน
อาหารที่มีโพแทสเซียมต่ำ (กลุ่มผักสีซีด)
ได้แก่
อาหารที่มีโพแทสเซียมต่ำเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยสำหรับผู้ที่มีภาวะไตเสื่อมตามที่ American Kidney Foundation โดยรับประทานโพแทสเซียมเป็นประจำทุกวัน 2, 000 มิลลิกรัม แต่ต้องระวังหากรับประทานอาหารหลายชนิดหรือปริมาณมากก็ทำให้โพแทสเซี่ยมสูงได้
อาหารที่มีโพแทสเซียมต่ำประกอบด้วย:
- แอปเปิ้ลน้ำแอปเปิ้ลและแอปเปิ้ล
- ผลเบอร์รี่มากที่สุด ได้แก่ blackberries, blueberries, สตรอเบอร์รี่และราสเบอร์รี่
- องุ่นและน้ำองุ่น
- สับปะรดและน้ำสับปะรด
- แตงโม
- หน่อไม้ฝรั่ง
- บร็อคโคลี
- แครอท
- ผักคะน้า
- กะหล่ำปลี
- แตงกวา
- ข้าวขาวก๋วยเตี๋ยวและขนมปัง (ไม่ใช่ธัญพืช)
- บวบและสควอชสีเหลือง
- ชมพู่
- องุ่นเขียว
- แตงโม
- บวบเหลี่ยม
- เห็ดหูหนู
- ฟักเขียว
- แฟง
- ผักกาดขาว
- กะหล่ำปลี
- แตงกวา
เรามาพิจารณากันดีกว่าว่าอาหาร 10 อันดับที่มีปริมาณโปแทสเซียมสูงมีอะไรบ้าง
อันดับ | ชนิดอาหาร (ขนาดบริโภค 100 กรัม ) | ปริมาณโปแทสเซียม (มิลลิกรัม) |
1 | ผงโกโก้ | 1.5 กรัม |
2 | ลูกพรุน (อบแห้ง) | 1.1 กรัม |
3 | ลูกเกด | 892 |
4 | เมล็ดทานตะวัน | 850 |
5 | อินทผาลัม | 696 |
6 | ปลาแซลมอน | 628 |
7 | ผักโขม (สด) | 558 |
8 | เห็ด | 484 |
ผลไม้(ขนาดบริโภค 100 กรัม ) | ||
9 | ทุเรียนชะนี | 406 |
10 | กล้วยหอม | 374 |
11 | กล้วยไข่ | 310 |
12 | ทุเรียนหมอนทอง | 292 |
13 | แก้วมังกร | 271 |
14 | ส้มสายน้ำผึ้ง | 229 |
15 | น้อยหน่าหนัง | 214 |
16 | ฝรั่งแป้นสีทอง | 210 |
17 | ขนุน | 207 |
18 | กล้วยน้ำว้า | 204 |
19 | มะละกอแขกดำ | 199 |
20 | ลองกอง | 192 |
21 | ลิ้นจี่จักรพรรดิ | 165 |
22 | สตรอเบอรี่ | 132 |
23 | ลิ้นจี่ฮงฮวย | 131 |
24 | องุ่นเขียว | 130 |
25 | แตงโจินตราแดง | 120 |
26 | สละ | 114 |
วิธีการชะล้างโพแทสเซี่ยมออกจากอาหาร
หากผู้ป่วยดรคไตเสื่อมอยากจะรับประทานอาหารที่มีโพแทสเซี่ยมสูงซึ่งไม่ควรจะรับประทานบ่อยหรือในปริมาณมาก ก่อนนำมาปรุงอาหารให้ชะล้างโพแทสเซี่ยมบางส่วนออกโดยการทำดังนี้
สำหรับมันฝรั่ง แครอท บีท
- ปลอกเปลือกผลไม้และนำไปแช่น้ำเย็นเพื่อไม่ให้ผิวผลไม้ดำ
- หั่นผลไม้เป็นชิ้นหนาประมาณ 1/8นิ้ว
- ใช้น้ำอุ่นไหลผ่านผลไม้.
- ใช้น้ำอุ่นปริมาณประมาณ10เท่าของผลไม้แช่ผลไม้ที่หั่นไว้ แช่ไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง
- รินน้ำอุ่นผ่านผลไม้ 4-5วินาที
- เวลาปรุ่งอาหารใช้ปริมาณน้ำประมาณห้าเท่าของปริมาตรผัก
(References: Bowes & Church Food Values of Portions Commonly Used, 17th Ed., Pennington, JA, Lippincott, 1998. Diet Guide for Patients with Kidney Disease, Renal Interest Group-Kansas City Dietetic Association, 1990.)
ทั้งนี้ การรักษาภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูงอาจแตกต่างกันไปในแต่ละราย ขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรค ความรุนแรงของอาการ และสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย แพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตควบคู่ไปกับการใช้ยาบางชนิด ดังนี้
- รับประทานอาหารที่มีโพแทสเซียมต่ำ ควรจำกัดปริมาณโพแทสเซียมที่ได้รับไม่เกิน 2,000-3,000 มิลลิกรัมต่อวัน
- งดใช้ยาที่ส่งผลให้ปริมาณโพแทสเซียมในเลือดสูงขึ้น
- รับประทานยาที่มีสรรพคุณช่วยลดปริมาณโพแทสเซียมในเลือด ได้แก่ ยาขับปัสสาวะเพื่อขับโพแทสเซียมออกจากร่างกายทางการปัสสาวะ ยาโซเดียมพอลิสไตรีนซัลโฟเนตเพื่อขับโพแทสเซียมออกจากทางเดินอาหาร หรือยาแพทไทโรมเมอร์เพื่อลดปริมาณโพแทสเซียมในเลือด
- ฉีดกลูโคสและฮอร์โมนอินซูลินเข้าเส้นเลือดเพื่อช่วยพาโพแทสเซียมจากภายนอกเซลล์กลับเข้าสู่ภายในเซลล์ ในกรณีที่โพแทสเซี่ยมจนเกิดความผิดปกติของการเต้นของหัวใจ
- เข้ารับการรักษาโรคที่เป็นสาเหตุของภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูง เช่น โรคไต เป็นต้น
นอกจากนั้น แพทย์อาจแนะนำให้ผู้ที่มีปริมาณโพแทสเซียมในเลือดอยู่ในระดับที่เป็นอันตรายฉีดแคลเซียมเข้าเส้นเลือด เพื่อป้องกันหัวใจและกล้ามเนื้อจากการได้รับผลกระทบจากภาวะนี้ด้วย
ตารางแสดงผักและผลไม้(1000 กรัม)ที่มีปริมาณโพแทสเซี่ยมสูงมาก
ปริมาณโฑแตสเซี่ยม | ||
ผัก | เห็ดกระดุม เห็ดโคน ผักชี ผักโขม ชะอม หัวปลี ต้นกระเทียม ใบขี้เหล็ก ใบชะพลู ผักกระโดน ผักกระถิน เห็ดเป๋าฮื้อ | 447-540 มิลิกรัม |
ผลไม้ | ทุเรียนทุกชนิด ขนุน แห้ว | 437-442 |
ตารางแสดงผักและผลไม้(1000 กรัม)ที่มีปริมาณโพแทสเซี่ยมมาก
ปริมาณโฑแตสเซี่ยม | ||
ผัก | ยอดขี้เหล็ก แขนงกะหล่ำ ผักหวาน ฟักทอง ยอดฟักทอง ยอกกระถิน กำหล่ำดอก กะหล่ำปลี ดอกและใบกุยช่าย คะน้า ขึ้นฉ่าย บร็อคโดลี่ แครอท ตับเต่า เห็ดฟาง เห็ดนางรม เห็ดหอม ถั่วฝักยาว ผักกะเฉด ผักกาดหอม ผักกวางตุ้ง มะเขือพวง ผักบุ้ง | 200-400 มิลิกรัม |
ผลไม้ | กล้วยไข กล้วยหอม กล้วยน้ำว้า มะละกอ ลำไย น้อยหน่า | 200-300 |
ตารางแสดงผักและผลไม้(1000 กรัม)ที่มีปริมาณโพแทสเซี่ยมปานกลาง
ปริมาณโฑแตสเซี่ยม | ||
ผัก | เห็ดนางฟ้า เห็ดเผาะ แตงกวา ฝักเขียว พริกหวาน มะระจีน หัวผักกาดขาว มะเขือยาว มะละกอดิบ มะเขือเทศ มะเขือเทศสีดา ตำลึง ผักกาดขาวใบเขียว ต้นหอม ถั่วงอก ถั่งลันเตา บวบ | 100-200มิลิกรัม |
ผลไม้ | ส้มเขียวหวาน ส้มเช้ง ฝรั่ง ชมพู่ มะม่วง ละมุด ลิ้นจี่ เงาะ สัปรด องุ่น แอปเปิล สาลี่ | 100-200 |
ตารางแสดงผักและผลไม้(1000 กรัม)ที่มีปริมาณโพแทสเซี่ยมน้อย
ปริมาณโฑแตสเซี่ยม | ||
ผัก | บวบเหลี่ยม ถั่วพู หอมหัวใหญ่ | <100 |
ผลไม้ | แตงโม ลูกท้อสด | <100 |
กลับหน้าที่ 1 การให้โพแทสเซี่ยมในการรักษาความดันโลหิต โพแทสเซี่ยมในเลือดต่ำ โพแทสเซี่ยมในเลือดสูง