แพทย์ทางเลือก

 

แพทย์ทางเลือกถือกำเนิดจากประเทศทางตะวันออกโดยเฉพาะประเทศจีน ประชาชนชาวไทยและประชากรทั่วโลก ได้หันมาสนใจการรักษาแบบแผนโบราณทั้งการฝังเข็ม โยคะ รำไทเก๊ก การทำสมาธิ สมุนไพร ชีวจิต ฯลฯ ปัญหามีอยู่ว่าการรักษาแพทย์ทางเลือกชนิดใดที่มีประสิทธิภาพเหมาะสมกับราคา

โรคชนิดไหนที่ใช้การรักษาแบบแพทย์ทางเลือก ใครเป็นผู้เชี่ยวชาญ การรักษานั้นมีผลข้างเคียงหรือข้อห้ามอย่างไรบ้าง สมุนไพรนั้นใช้รักษาโรคอะไรใช้ขนาดแค่ไหน และนานแค่ไหน

เมืองนอกจะมีคำสองคำที่เกี่ยวกับแพทย์ทางเลือกคือ

  • complementary treatment หมายถึงการรักษาร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบัน เช่นการรำไทเก็กร่วมกับการจ่ายยาคลายเครียด
  • Alternative หมายถึงการรักษาโรคโดยใช้แผนโบราณอย่างเดียว เช่นใช้การรักษาแบบ Homeopathy

ปรัชญาของการรักษาโดยแพทย์ทางเลือก

ปรัชญาของการรักษาโดยแพทย์ทางเลือกแต่ละชนิดจะมีลักษณะที่คล้ายกันดังนี้

  1. หลักข้อแรกคือร่างกายสามารถที่รักษาตัวเอง เมื่อคุณเป็นหวัดมีไข้ปวดตามตัวคุณไม่จำเป็นต้องใช้ยาลดไข้ แต่ให้หาวิธีที่จะกระตุ้นให้ภูมิของร่างกายมาจัดการกับเชื้อโรค
  2. การป้องกันเป็นวิธีที่ดี แพทย์ทางเลือกมักจะเน้นเรื่องการป้องกันโรคมากกว่าการรักษา การรักษาที่แพทย์ทางเลือกให้นั้นมุ่งเน้นที่ป้องกันโรคมากกว่า
  3. เรียนรู้และร่วมกันรักษา แพทย์ทางเลือกมักจะศึกษาร่วมกับผู้ป่วยเพื่อหาทางรักษาตามความต้องผู้ป่วย

เราแบ่งการรักษาแพทย์ทางเลือกได้กี่แบบ

การบำบัด Healing

หมายถึงการระบบการรักษาที่ต้องอาศัยวิธีการหลายอย่างมารักษาโรค เพื่อให้พลังจากธรรมชาติหรือพลังในร่างกายมารักษาโรคเช่น

  • การรักษาแบบ The ayurveda system ซึ่งเป็นการรักษาของประเทศอินเดียตั้งแต่อดีตโดยมีปรัชญาว่าคนมีความแตกต่างทั้งร่างกายและจิตใจ ดังนั้นผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องเดียวกันอาจจะได้รับการรักษาที่ไม่เหมือนกัน กาารักษาจะอาศัยสัมผัสทั้ 5 ได้แก่ การมองเห็น การได้ยิน การสัมผัส การรับรส การได้กลิ่น มาปรับสมดุลของร่างกาย ดังนั้นในการรักษาอาจจะต้องประกอบด้วย aromatheraphy, sound therapy , massage อาหาร การเข้าสมาธิ
  • Homeopathy การรักษาวิธีนี้เปรียบถูกหนามตำต้องเอาหนามบ่ง หากคุณเป็นโรคและเกิดอาการ การรักษาจะเอาพืชหรือสัตว์ที่ทำให้เกิดอาการนั้นมาให้กับผู้ป่วยเพื่อเร่งกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิต่อโรค
  • Naturopathic ธรรมชาติบำบัด เป็นการรักษาที่คล้ายกับการรักษาในแผนปัจจุบัน แพทย์จะใช้หลักโภชนา การออกกำลังกาย การใช้สมุนไพรในการรักษาโรค

 

กายและจิต

เชื่อว่าการที่มีสุขภาพที่ดีร่างกายและจิตใจต้องติดต่อถึงกันและสื่อสารกัน การรักษาชนิดนี้จะเป็นการเชื่อมระหว่างร่างกายและจิตใจเพื่อให้สุขภาพดี

  • การทำสมาธิ Meditationจะเป็นการเชื่อมระหว่างร่างกายและจิตใจ ระหว่างการทำสมาธิเราจะสนใจเพียงอย่างเดียวอาจจะเป็นการหายใจเข้าออก หรือการสวดมนต์
  • Yogaโยคะ เป็นการใช้ท่าและสมาธิเพื่อให้ร่างกายและจิตเชื่อมถึงกัน หลักของโยคะจะอาศัยส่วนประกอบที่สำคัญ 4 อย่างได้แก่ การหายใจ (breathing), การผ่อนคลาย (relaxation), ท่า( poses)และการทำสมาธิ (meditation)
  • Biofeedback เป็นการใช้จิตใจควบคุมร่างกาย เช่นการเต้นของหัวใจ อุณหภูมิ ความดันโลหิต การฝึกจะทำโดยการติด monitor ไว้เพื่อบอกความดัน อุณหภูมิ เพื่อเราตอบสนองต่อสิ่งเร้า ร่างกายเราตอบสนองออกมาอย่างไรเมื่อเกิดการเรียนรู้เราก็สามารถควบคุมการตอบสนองของร่างกาย

อาหารเสริมและสมุนไพร

การรักษาวิธีนี้จะใช้สารสังกัดจากธรรมชาติ เช่นสมุนไพร โสม แป๊ะก๊วย selenium, glucosamine มาใช้เพื่อการรักษา หลายคนคิดว่าสมุนไพรเป็นสารจากธรรมชาติไม่มีพิษไม่มีผลข้างเคียง แต่ความคิดเหล่านี้ผิด ผลข้างเคียงของสมุนไพรบางชนิดอาจจรุนแรง บางชนิดอาจจะมีปฏิกิริยากับยาแผนปัจจุบัน วิธีการใช้สมุนไพรมี 3 วิธี(อ่านที่นี่)

  • การใช้น้ำร้อนลาดไปยังใบไม้สดหรือแห้งเหมือนการชงชา
  • การนำสมุนไพรมาต้ม
  • สมุนไพรที่ทำเป็นผง เม็ด แคปซูล

การสัมผัสและการจัดกระดูก

การรักษาวิธีจะทำโดยการสัมผัสเช่นการนวด การจัดกระดูกส่วนที่เป็นปัญหา

  • Chiropractic เชื่อการที่เรามีอาการส่วนหนึ่งเกิดจากการที่กระดูหลังของเราเรียงไม่ถูกต้อง ทำให้มีการกดทับเส้นประสาท อวัยวะที่เส้นประสาทไปเลี้ยงจึงเกิดอาการ การรักษาจะทำโดยการจัดกระดูก
  • Osteopathy เป็นการจัดกระดูกและกล้ามเนื้อให้เข้าที่ แพทย์จะยกแขนหรือขาส่วที่ปวดไปมา บางครั้งอาจจะกดไปยังบริเวณที่ปวด อาจจะทำให้รู้สึกปวดในบริเวณนั้น แต่หลังจากที่ได้ขยับไปมาคุณอาจจะได้พบการเปลี่ยนแปลง
  • การนวด เป็นการนวดกล้ามเนื้อ เอ็นและผิวหนังเพื่อการผ่อนคลายของกล้ามเนื้อ

การเสริมสร้างพลังภายใน

เชื่อร่างกายเรามีพลังที่จะรักษาตัวเอง การรักษามุ่งเน้นใหร่างกายมีพลังเต็มที่จุดใดที่ไม่สมดุลหรือพลังงานถูกกั้นก็จะใช้วิธีการ เพื่อให้พลังนั้นเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ เช่นการฝังเข็ม

สิ่งต่างๆเหล่านี้ผู้ที่จะใช้บริการต้องศึกษาหาความรู้เนื่องจากโรคบางโรครอไม่ได้เมื่อพบต้องรีบรักษาหากเสียเวลา จะทำให้การรักษาไม่ได้ผล และอาจจะเกิดผลเสียต่อสุขภาพ แพทย์ทางเลือกที่เป็นที่นิยมมีดังนี้