ชื่อสามัญ  Promethazine [hydrochloride]

 

คำเตือนก่อนใช้ยา Promethazine

ยา Promethazine จะทำให้หายใจช้าลง หรืออาจจะหยุดหายใจและอาจจะเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตในเด็ก ดังนั้นยา Promethazine ไม่ควรจะให้ในเด็กที่อายุน้อยกว่า 2 ปี สำหรับยาแก้ไอที่มีส่วนผสมของ promethazine และ codeineไม่ควรให้ในเด็กที่อายุน้อยกว่า 16 ปี ยา Promethazine ไม่ควรให้ในเด็กที่มีอาการอาเจียนโดยไม่ทราบสาเหตุ และควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ กรุณาแจ้งต่อแพทย์หากมีโรคหอบหืด นอนกรน และแจ้งแก่แพทย์และเภสัชหากรับประทานยา barbiturates เช่น phenobarbital (Luminal),ยารักษาความวิตกกังวล, ยาแก้ปวดกลุ่ม mophine,ยานอนหลับ ให้หยุดยาทันทีและพาผู้ป่วยพบแพทย์หากมีอาการ หายใจลำบาก หายใจเสียงดังหวีด หรือหยุดหายใจ

ชื่อการค้า Decos,Nordyl,Nortuss,Phencodin,Phenergan,Poly-cof,Teradyl

ยานี้จัดในกลุ่ม :ยาแก้แพ้Antihistamines & Antiallergics และยากล่อมประสาท Hypnotics & Sedatives

ความปลอดภัยในคนท้อง : Class C ยานี้มีการศึกษาในสัตว์ว่ามีผลเสีย แต่ยังขาดหลักฐานการศึกษาในคน หากจะใช้ยานี้ต้องคำนึงถึงประโยชน์และผลเสีย

รูปแบบยา  

  • ยาฉีด
  • ยาน้ำเชื่อม มีตัวยา  Promethazine 3.6mg ต่อยา 5 ml

ข้อบ่งชี้ในการใช้ยา

  • ยานี้เป็นสารต้านฮิสตามีน ใช้เพื่อบรรเทาอาการแพ้ต่างๆ เช่น อาการเยื่อจมูกอักเสบ หรือเยื่อตาอักเสบ อาการแพ้ทางผิวหนัง และการให้เลือดหรือผลิตภัณฑ์ของเลือด
  • ใช้สำหรับอาการหวัด (เช่น อาการไอ จาม น้ำมูกไหล)
  • ใช้ร่วมกับยาอื่นในการรักษาอาการการแพ้อย่างรุนแรง (เช่นAnaphylaxis)
  • ใช้สำหรับช่วยสงบระงับผู้ป่วยก่อนและหลังการผ่าตัด
  • ช่วยป้องกัน และควบคุมอาการคลื่นไส้อาเจียนหลังจากการผ่าตัด และการใช้ยานี้ร่วมกับยาอื่นๆ ในการบรรเทาอาการเจ็บปวดหลังจากการผ่าตัด
  • ใช้สำหรับป้องกันและรักษาอาการเมารถ เมาเรือ

วิธีใช้ยา 

  • ยานี้อยู่ในรูปแบบยาน้ำสำหรับรับประทาน
  • รับประทานยานี้แล้วอาจมีอาการง่วงซึม ควรหลีกเลี่ยงการขับรถหรือการทำงานเกี่ยวข้องกับเครื่องจักร และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อาจเพิ่มฤทธิ์ทำให้ง่วงซึมของยาได้ จึงควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในระหว่างรับประทานยานี้
  • การใช้ยาในเด็กจะต้องมีการปรึกษากุมารแพทย์ ซึ่งอาจจำเป็นต้องมีการดูแลเป็นพิเศษ และโดยทั่วไปยานี้ไม่ควรใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี
  • ควรใช้ช้อนสำหรับตวงยาโดยเฉพาะ ไม่ควรใช้ช้อนชาที่ใช้ในบ้านตวงยา
  • ช่วงที่ใช้ยานี้ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวหนังสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง โดยการสวมใส่เสื้อผ้าปกคลุมผิวหนังหรือทายากันแดด
  • ยานี้อาจมีผลกับผลการทดสอบการตั้งครรภ์ ดังนั้น จึงไม่ควรทดสอบการตั้งครรภ์เองที่บ้าน แต่ควรไปโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาลเพื่อทำการทดสอบ โดยแจ้งให้แพทย์และเจ้าหน้าที่ทราบว่าท่านกำลังรับประทานยานี้อยู่ด้วย

สิ่งที่ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบก่อนใช้ยา promethazine

  • ประวัติแพ้ยา promethazine หรือยาอื่นๆ ในกลุ่ม phenothaizines ส่วนประกอบใดๆ ในยานี้ รวมถึงการแพ้ยาอื่นๆ
  • ใช้หรือกำลังจะใช้ ยาอื่นๆ ทั้งยาที่แพทย์สั่งจ่ายและยาที่ใช้เอง วิตามิน อาหารเสริม และสมุนไพร
  • มีหรือเคยมีโรคหืด ถุงลมโป่งพอง หลอดลมอักเสบเรื้อรัง หายใจลำบาก ต้อหิน แผลในกระเพาะอาหาร ปัสสาวะลำบาก โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ลมชัก ต่อมไทรอยด์ทำงานมากผิดปกติ ต่อมลูกหมากทำงานผิดปกติและโรคเรื้อรังอื่นๆ
  • ตั้งครรภ์ วางแผนจะตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
  • หากกำลังจะเข้ารับการผ่าตัด หรือการทำทันตกรรมใดๆ ควรแจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบว่ากำลังใช้ยานี้อยู่
  • ไม่ควรดื่มสุราเพราะจะทำให้อาการข้างเคียงของยาเพิ่มขึ้น
  • ไม่ควรขับรถหรือทำงานกับเครื่องจักรเมื่อรับประทานยานี้อยู่
  • ไม่ควรจะถูกแสงนาน

ไม่ควรรับประทานยานี้ร่วมกับยา

  • หากท่านรับประทานยาต้านซึมเศร้า เช่น amitriptyline (Elavil), amoxapine (Asendin), clomipramine (Anafranil), desipramine (Norpramin), doxepin (Adapin, Sinequan), imipramine (Tofranil), nortriptyline (Aventyl, Pamelor), protriptyline (Vivactil), and trimipramine (Surmontil);
  • ยารักษาภูมิแพ้ antihistamines; azathioprine (Imuran)
  • ยากดประสาทเช่น barbiturates such as phenobarbital (Luminal)
  • cancer chemotherapy
  • epinephrine (Epipen)
  • monoamine oxidase (MAO) inhibitors เช่น isocarboxazid (Marplan), phenelzine (Nardil),tranylcypromine (Parnate), and selegiline (Eldepryl, Emsam, Zelapar)
  • ยาแก้ปวดกลุม narcotics and other pain medication
  • ยานอนหลับ และยาคลายเครียด

ทำอย่างไรหากลืมรับประทานยาหรือใช้ยา  

  • โดยทั่วไปถ้าลืมรับประทานยา ให้รับประทานยาทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าเป็นเวลาที่ใกล้กับการรับประทานยาครั้งต่อไป ให้ข้ามไปรับประทานยาในครั้งต่อไปเลยโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า

ผลข้างเคียงของยา

ผลต่อระบบประสาท

ผลข้างเคียงต่อระบบประสาทจะพบเด่นที่สุด อาการที่พบได้แก่ ง่วงซึม หลับๆตื่น มึนงง สับสน คอเอียง ตากระตุกขึ้นลงเรียก oculogyric crisis ลิ้นจุกปาก เสียงดังในหู มือสั่น เห็นภาพซ้อน

ระบบหัวใจและหลอดเลือด

ยานี้ทำให้ความดันโลหิตสูงและความดันโลหิตต่ำ ชีพขจรมี่ทั้งเร็ว และช้า

ผิวหนัง

ทำให้เกิดผิวหนังอักเสบ แพ้แสง เกิดลมพิษ

ผลต่อระบบโลหิต

ยานี้ทำให้เกิดเม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือดต่ำ

ระบบทางเดินอาหาร

ยานี้จะทำให้ปากแห้ง คลื่นไส้ อาเจียน และมีดีซ่าน

หากเกิดอาการดังต่อไปนี้ให้หยุดยาและพบแพทย์

  1. มองเห็นภาพไม่ชัด เป็นลม หัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอเต้นเร็วผิดปกติ ใจสั่น หรือเจ็บหน้าอก
  2. กล้ามเนื้อหรือใบหน้าแข็งเกร็ง ฝันร้าย กระสับกระส่าย ตื่นเต้นเป็นกังวลมากจนนอนไม่หลับ (พบบ่อยในเด็ก)
  3. ปัสสาวะลำบากหรือมีอาการเจ็บในขณะปัสสาวะ ลมชัก มีไข้ เจ็บคอ หนาวสั่นหรือเกิดอาการอื่นที่แสดงให้เห็นว่ามีการติดเชื้อ
  4. ไม่สามารถตอบสนองต่อผู้คนรอบข้าง ตัวเหลือง ตาเหลือง มีแผลที่ปาก เหงือก หรือในลำคอ เลือดออกผิดปกติ เกิดจ้ำเลือด รอยช้ำที่ผิดปกติ
  5. หายใจหวีด (wheezing) หายใจช้าลงหรือหยุดหายใจชั่วคราว
  6. ลิ้นคับปาก ประสาทหลอน หวาดกลัวอย่างควบคุมไม่ได้
  7. บางส่วนของร่างกายมีอาการสั่นที่ควบคุมไม่ได้ สับสน มีอาการประสาทหลอน เห็นภาพหรือได้ยินเสียงที่ไม่มีอยู่จริง
  8. หายใจหรือกลืนไม่สะดวก เสียงแหบ ตำแหน่งของคอผิดปกติ เหงื่อออกมาก ไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของลูกตาได้ มีอาการบวมที่บริเวณใบหน้า ลำคอ ลิ้น ริมฝีปาก ตา มือ เท้า ข้อเข่า และขาช่วงล่าง ผื่นลมพิษ ผื่นคัน
  9. อาการอันไม่พึงประสงค์อื่นที่อาจเกิดระหว่างใช้ยา หากเป็นต่อเนื่อง หรือรบกวนชีวิตประจำวันให้แจ้งแพทย์ หรือเภสัชกรทราบมีดังนี้ ปากแห้ง ง่วงซึม วิงเวียนศีรษะ ปวดศีรษะ มีความไวต่อแสงแดดและรังสีอัลตราไวโอเลตมากยิ่งขึ้น คัดจมูก

ข้อห้ามใช้ยา

  1. เด็กที่อยุน้อยกว่า 2 ขวบ
  2. ผู้ป่วยที่ไม่ได้สติ
  3. ไม่ควรใช้รักษาโรคหลอดลมอักเสบในผู้ป่วยโรคหอบหืด

การดูแลเมื่อได้รับเกินขนาด

อาการของการได้รับเกินขนาดมีอาการทั้งระบบประสาท และหัวใจ อาการเริ่มตั้งแต่ซึม จนกระทั่งความดันโลหิตต่ำ การดูแลส่วนใหญ่จะประคับประคอง

  • ล้างท้อง และให้ผงถ่าน
  • ให้ยาระบาย
  • หากความดันโลหิตต่ำจะให้น้ำเกลือ และให้ผู้ป่วยอยู่ในท่านอน หากไม่สามารถเพิ่มความดันโลหิตจะต้องให้ยาเพิ่มความดันโลหิตได้แก่ norepinephrine หรือ phenylephrine ไม่ควรให้ยา EPINEPHRINE เพราะจะทำให้ความดันโลหิตต่ำ

การเก็บรักษายา 

  • เก็บยานี้ในภาชนะบรรจุเดิมที่บรรจุมา ปิดภาชนะให้สนิท และเก็บให้พ้นมือเด็ก
  • เก็บยานี้ที่อุณหภูมิห้องโดยเก็บในที่ระหว่างอุณหภูมิ 15-25 องศาเซลเซียส เก็บยาให้พ้นแสงแดดและไม่เก็บยาในบริเวณที่เปียกหรือชื้น
  • ทิ้งยานี้เมื่อยาหมดอายุ

ยาต้านฮีสตามิน