ยาลดความดันโลหิต Perindopril

ข้อบ่งชี้ในการใช้ยา

  1. ความดันโลหิตสูง
  2. โรคหัวใจล้มเหลว
  3. ใช้ป้องกันการกลับเป็นซ้ำของอัมพาต
  4. ใช้ป้องกันการกลับเป็นซ้ำโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด

ขนาดยาลดความดันโลหิต Perindopril ที่ใช้

ความดันโลหิตสูง

  • เริ่มต้นให้วันละ 5 มก วันละครั้ง และหากคุมความดันไม่ดีให้เพิ่มเป็น 10 มกหลังจากให้ยาไปแล้ว 1 เดือน
  • ผู้สูงอายุให้เริ่มวันละ 2.5 มก หากยังคุมไม่ได้ให้เพิ่มเป็น 5 มกให้ประเมินหลังจากรับประทานยาไปแล้ว 1 เดือน
  • สำหรับผู้ที่ไตเสื่อมให้ปรับยาตามสภาพของไต และต้องตรวจเลือดเพือ่ติดตามการทำงานของไต และเกลือโพแทสเซี่ยม

หัวใจวาย

  • ให้เริ่มต้นวันละ 2.5 มกและค่อยเพิ่มจนวันละ 5 มก ต้องติดตามเรื่องความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้

การป้องกันอัมพาต

  • เริ่มต้นให้วันละ 2.5 มกสองสัปดาห์เพิ่มเป็น 5 มกอีก 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นจึงให้ยา  indapamide

การป้องกันโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด

  • ให้วันละ 5 มก สองสัปดาห์หลังจากนั้นจึงเพิ่มเป็น 10 มก ต่อสัปดาห์
  • สำหรับผู้สูงอายุให้เริ่ม 2.5 มก สัปดาห์แรก สัปดาห์ที่สองให้ 5 มก หลังจากนั้นค่อยปรับยาให้ 10 มก ขึ้นกับการทำงานของไต

หากได้ยาลดความดันโลหิต Perindopril เกินขนาดจะมีอาการอย่างไร

  • หากได้ยาเกินขนาดจะมีอาการหน้ามืดเมื่อเปลี่ยนท่านั่งหรือนอนมาสู่ท่ายืน หากพบอาการดังกล่าวให้นอนราบ และยกเท้าสูง หากไม่ดีขึ้นให้พบแพทย์

ความปลอดภัยในคนตั้งครรภ์

จัดอยู่ในกลุ่ม D มีผลเสียในทารก หากจะใช้จะต้องเทียบประโยชน์และโทษ และไม่สามารถใช้ยาอื่นแทนได

ข้อห้ามในการใช้ยาลดความดันโลหิต Perindopril

  • ยานี้ไม่ควรใช้ร่วมกับยาขับปัสสาวะที่มีลดการขับเกลือโพแทสเซี่ยม เช่น Moduretic,Dyazide ,Spironolactone
  • ยานี้ไม่ควรรับประทานร่วมกับวิตามินที่มีเกลือโพแทสเซี่ยม
  • ไม่ให้ยานี้ในผู้ป่วยตั้งครรภ์โดยเฉพาะในไตรมาศแรก รวมทั้งไตรมาศ2และ3
  • ระหว่างให้ยานี้ห้ามให้นมบุตร
  • ห้ามให้ในเด็กอายุน้อยกว่า 15 ปี

ข้อควรจะระวังระหว่างใช้ยาลดความดันโลหิต Perindopril

  • ให้หยุดยานี้ทันทีหากมีอาการ หน้า หนังตา ปาก คอบวมและหายใจลำบาก
  • หากมีอาการไอให้ปรึกษาแพทย์ว่าจะให้ยานี้ต่อหรือหยุดยานี้

การใชยาลดความดันโลหิต Perindopril

  • รับประทานยานี้ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมงตอนท้องว่าง และควรรับประทานยาให้ตรงเวลาทุกครั้ง
  • ห้ามหยุดใช้ยาด้วยตัวเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ผู้รักษาก่อน
  • หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในระหว่างที่รับประทานยานี้อยู่
  • การรับประทานยานี้อาจทำให้มีอาการเวียนศีรษะ หรือง่วงซึมได้ ดังนั้นไม่ควรขับขี่ยานพาหนะหรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล และควรเปลี่ยนท่าทางอย่างช้าๆ
  • ไม่ควรซื้อยาบรรเทาอาการไอ เจ็บคอ หรือหวัด หรือยาบรรเทาอาการเจ็บปวด มารับประทานโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ผู้รักษาก่อน

อาการอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาลดความดันโลหิต Perindopril

ยานี้มีผลข้างเคียงไม่มาก อาการที่พบได้แก่

  • ปวดศีรษะ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับ
  • มึนงง รับรสอาหารไม่ดี
  • อาจจะมีผื่นขึ้น
  • อาจจะมีอาการแพ้ หนังตา ปากบวม
  • ไอบ้างแต่ไม่มาก
  1. อาการอันไม่พึงประสงค์ที่ต้องแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทันที  มีดังนี้ 
  • ปริมาณปัสสาวะลดลง
  • หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ หรือเต้นเร็วกว่าปกติ เจ็บหน้าอก
  • ชานิ้วมือ นิ้วเท้า หน้า คอ ตา ริมฝีปาก ลิ้น มือ เท้า
  • ขาหรือข้อเท้าบวม น้ำหนักขึ้น
  • เวียนศีรษะ รู้สึกเหมือนจะเป็นลม
  • มีไข้ หนาวสั่น เจ็บคอ
  • ผื่นคัน หายใจลำบาก กลืนอาหารลำบาก
  • ผิวซีดเลือดออกง่าย
  1. อาการอันไม่พึงประสงค์อื่นที่อาจเกิดระหว่างใช้ยา หากเป็นต่อเนื่อง หรือ รบกวนชีวิตประจำวัน ให้ แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ  มีดังนี้ ไอ เหนื่อย อ่อนเพลียผิดปกติ ปวดศีรษะ

การเก็บรักษายา

  • เก็บยานี้ในภาชนะบรรจุเดิมที่บรรจุมา ปิดภาชนะให้สนิท และเก็บให้พ้นมือเด็ก
  • เก็บยานี้ที่อุณหภูมิห้องโดยไม่ให้อยู่ในที่ร้อนมากกว่า 30 องศาเซลเซียส เช่น บริเวณที่ถูกแสงแดดโดยตรง และไม่เก็บยาในบริเวณที่เปียกหรือชื้น
  • ทิ้งยานี้เมื่อยาหมดอายุ

Captopril | Enalapril | Lisinopril | Perindopril | Ramipril |

ACE Inhibitor