การคุมกำเนิดโดยใช้เครื่องป้องกัน

การคุมกำเนิดวิธีนี้จะป้องกันมิให้เชื้อเดินทางไปผสมกับไข่วิธีการที่ใช้มีดังนี้

  • ยาฆ่าเชื้อ sperm
  • ถุงยางอนามัยสำหรับผู้ชาย
  • ถุงอนามัยสำหรับผู้หญิง
  • ฟองน้ำคุมกำเนิด
  • หมวกครอบปากมดลูก
  • Diaphragm

ยาฆ่าเชื้อ sperm [Spermicides]

ในการหลั่งแต่ละครั้งจะมีพลทหาร(sperm)จำนวนหลายร้อยล้านตัวออกมาแต่จะมีเพียงร้อยละ1ที่ถึงเป้าหมาย คือปากมดลูกที่เหลือตายหมดเนื่องจากความเป็นด่างของช่องคลอด และจะมีเพียง 1 ตัวที่เข้าผสมกับไข่ ได้มีการผลิตสารเคมีที่มีส่วนประกอบที่สำคัญคือ Nonoxynol-9 สามารถฆ่าเชื้อ sperm ได้โดยทำเป็นหลายรูปแบบคือ foam.gell film หรือชนิดเหน็บ การใช้ยาฆ่า sperm ควรกระทำก่อนที่จะมีการสอดใส่อวัยวะเพศชาย ชนิดที่ได้ผลดีที่สุดคือชนิด foam การใช้ foam ควรใช้ก่อนมีเพศสัมพันธ์โดยสอดเข้าให้ใกล้ปากมดลูก ยาเหน็บควรเหน็บก่อนร่วมเพศ 15 นาที หากไม่ได้ร่วมเพศเกิน 15 นาทีต้องเพิ่มยาฆ่าเชื้อโดยเฉพาะชนิด foam ไม่ควรสวนล้างช่องคลอดเนื่องจากทำให้ยาเสื่อม ยานี้ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ อ่านที่นี่์

ถุงยางอนามัยคุมกำเนิด condom

เป็นการคุมกำเนิดที่แพร่หลาย ใช้ได้ผลดีสามารป้องกันการตั้งครรภ์ และยังป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ถุงยางอนามัยอาจจะทำจากยางธรรมชาติ polyurethan หนังแกะ ถุงยางที่ทำมาจากยางธรรมชาติจะป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ได้ดีที่สุด ต้องเลือกถุงยางที่มีขนาดพอดีกับองคชาต หากถุงยางเล็กไปก็อาจจะมีโอกาศที่ถุงยางจะแตก หากหลวมไปก็มีโอกาศที่ถุงยางจะหลุด ถุงยางอนามัยอาจจะมีสารหล่อลื่นเคลือบอยู่ บางชนิดก็มีย่าฆ่าเชื้อ sperm ข้อควรระวัง

  • ถุงยางอนามัยมีอายุเฉลี่ย 5 ปี ก่อนใช้ต้องตรวจวันหมดอายุ
  • ต้องเลือดขนาดให้พอดีกับอวัยวะเพศขณะแข็งตัว
  • ถุงยางอนามัยที่เหมาะสมจะต้องเหลือปลายประมาณครึ่งนิ้วเพื่อเก็บน้ำเชื้อ
  • ห้ามกลับด้านถุงยาง
  • ห้ามใช้สารหล่อลื่นที่เป็นไขมันเช่น vaseline ,mineral oil เพราะอาจจะทำให้ถุงยางอนามัยเสียหายได้
  • การแกะซองถุงยางห้ามใช้เล็บหรือของมีคมเพราะอาจจะทำให้ถุงยางฉีกขาด
  • ก่อนใส่ถุงยางให้บีบไล่อากาศในถุงยางออกให้หมด
  • ใส่ถุงยางโดยเอาปลายถุงยางติดกับหัวองคชาต แล้วม้วนลงไปหาโคนองคชาต อย่าใส่กลับด้าน
  • หากปลายถุงอนามัยไม่มีถุงสำหรับใส่น้ำเชื้อ ให้เลื่อนถุงยางออกไปครึ่งนิ้ว
  • ไล่อากาศที่อยู่ในถุงยางให้หมดเพื่อที่ถุงยางจะได้แนบสนิทกับผิวองคชาต
  • สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ขลิบปลายองคชาต ก่อนใส่ถุงยางต้องรูดหนังให้เปิดปลายองคชาต
  • ให้ใช้ถุงยางอนามัยครั้งเดียวแล้วทิ้ง
  • เก็บภุงยางไว้ในที่เย็นและแห้ง เพราะหากถุงยางเมื่อเจอความร้อนหรือแสงถุงยางจะเสื่อมง่ายไม่ควรเก็บถุงยางไว้ในกระเป๋ากางเกง

อ่านที่นี่

การฉีกหรือขาดส่วนใหญ่เกิดจากเล็บที่ยาวและเครื่องตกแต่ง เมื่อมีการฉีกขาดให้มือจับขอบถุงยางแล้วถอนอวัยวะเพศออก ระวังอย่าให้น้ำเชื้อหกใส่ช่องคลอด หากแพ้ถุงยา latex ก็สามารถใช้ชนิด polyurethane หรือลำไส้สัตว์ ถุงยางที่ทำจาก atex ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ดีที่สุด อย่างไรก็ตามการป้องกันการตั้งครรภ์ด้วยวิธีใส่ถุงยางสามารถกันได้ร้อยละ 87-90 มีโอกาศที่ถุงยางจะรั่ว 2/100 การใส่ถุงยางคุมกำเนิด

ถุงยางอนามัยสำหรับสุภาพสตรี

ถุงยางอนามัยสำหรับสุภาพสตรีทำจาก polyurethane บางกว่าถุงยางสำหรับผู้ชายผู้ใช้ต้องได้รับการฝึกใส่ก่อน ปลายข้างหนึ่งของถุงจะอยู่ติดปากมดลูกปลายอีกข้างหนึ่งจะอยู่ภายนอก สามารถใส่ก่อนร่วมเพศได้ 8 ชั่วโมง เมื่อสวมถุงยางอนามัยแล้วผู้ชายก็ไม่จำเป็นต้องสวมถุงยาง เพราะจะทำให้เกิดการฝืดและถุงยางเสียหายได้ อัตราความสำเร็จร้อยละ 79 อ่านที่นี่

Contraceptive Sponge ฟองน้ำคุมกำเนิด

ลักษณะเหมือนโดนัท มีสารฆ่า sperm ผสมอยู่ วิธีใช้ให้สอดฟองน้ำให้ลึกที่สุด สามารถสอดก่อนมีเพศสัมพันธ์ได้ 24 ชั่วโมง และต้องคาไว้ในช่องคลอดอย่างน้อย 6 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ และควรนำออกภายใน 30 ชั่วโมงหลังจากสอดเนื่องจากอาจจะเกิดการติดเชื้อ อ่านที่นี่

Diaphragm

เป็นขอบยางรูปถ้วยใส่เข้าในช่องคลอดก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ 4 ชั่วโมงและรอบๆขอบจะต้องทายาฆ่าเชื้อด้วย diaphram จะป้องกันไม่ให้เชื้อไปสู่ปากมดลูก หลังมีเพศสัมพันธ์จะต้องทิ้ง diaphram ไว้ 6 ชั่วโมงจึงนำออกและควรยาฆ่าเชื้อทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ การใช้ diaphram สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ร้อยละ 82 อ่านที่นี่

Cervical Cap

รูปร่างเหมือน diaphram แต่มีขนาดเล็กกว่า จะต้องใช้ร่วมกับยาฆ่า sperm และสามารถใส่ไว้ได้นาน 48ชั่วโมงแต่ต่างจาก diaphram ที่ไม่ต้องใส่ยาฆ่า sperm ทุกครั้งที่ร่วมเพศ และใช้ยาฆ่า sperm น้อยกว่า สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ร้อยละ80 ไม่แนะนำให้ใช้ cervjcal capในผู้ป่วยที่เป็นเด็กสาวเพราะใส่ยากและหลุดง่ายหากใส่ไม่ดี ห้ามใส่ในกรณีทีตรวจปากมดลูกพบเซลล์ผิดปกติ การใช้ diaphram และหมวกครอบปากมดลูกไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ข้อเสียการใส่ Cervical Cap ต้องใส่โดยแพทย์ และหลังร่วมเพศต้องคาไว้ 6 ชั่วโมง นอกจากนั้นยังหลุดได้ นอกจากนั้นยังอาจแพ้ยาฆ่าเชื้อ และแพ้ยาง หลังการใช้ให้ลางและตากแห้งสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ห้ามใส่แป้ง ห้ามใส่น้ำมันทุกชนิดเพราะจะทำให้เสียหาย