หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | วัคซีน

ยารักษาเบาหวาน Glibenclamide

ยานี้ลดน้ำตาลในเลือดโดยกระตุ้นตับอ่อนให้หลั่งอินซูลิน และช่วยให้ร่างกายใช้อินซูลินอย่างมีประสิทธิภาพ

ให้หยุดยานี้และไปพบแพทย์ทันทีหากมีอาการแพ้ยารุนแรง


ข้อบ่งชี้ในการใช้ยาGlibenclamide

ยานี้ใช้รักษาเบาหวานประเภท 2 (ไม่ต้องใช้อินซูลิน) ซึ่งไม่สามารถควบคุมได้ด้วยอาหาร

ขนาดและวิธีการใช้ยาGlibenclamide


ข้อห้ามในการให้ยาGlibenclamide


ผลข้างเคียงของยาGlibenclamide

ผลต่อระบบโลหิต

พบน้อยอาจจะรุนแรงเสียชีวิตได้ ผลข้างเคียงที่พบได้แก่ เกล็ดเลือดต่ำ เม็ดเลือดขาวต่ำ โลหิตจาง ซึ่งจะมีอาการ จ้ำเลือด เลือดออกง่ายเช่นเลือดกำเดา หรือเลือดออกตามไรฟัน เป็นหวัดง่าย

ผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน

แพ้ยาทำให้เกิดอาการหอบหืด ริมฝีปาก คอ ลิ้นบวม

ผลต่อระบบต่อมไร้ท่อ

ผลต่อการมองเห็น

การเปลี่ยนแปลงระดับน้ำตาลอย่างรวดเร็วอาจจะทำให้เกิดอาการตาพร่ามัว

ผลต่อระบทางเดินอาหาร

อาจจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน รู้สึกจุกเสียดแน่นท้อง อาจจะท้องร่วง

ผลต่อตับ

อาจจะทำให้เกิดตับอักเสบ เมื่อหยุดยาอาการจะดีขึ้น

ผลต่อผิวหนัง

อาจจะเกิดแพ้ยาชนิดรุนแรง เช่น erythema multiforme, Stevens-Johnson syndrome, erythema nodosum and exfoliative dermatitis หรือที่รุนแรงน้อยได้แก่ ผื่นคัน แพ้แสงแดด


สิ่งที่ต้องระวังมิให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ


การใช้ยานี้ร่วมกับยาอื่น

ทำให้ยา Glibenclamide ออกฤทธิ์มากขึ้นซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดภาวะน้ำตาลต่ำ

ยาที่เสริมฤทธิ์ได้แก่ ยารักษาโรคติดเชื้อ (เช่น: chloramphenicol, fluconazole, miconazole, sulphonamides ),ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAID (เช่น.:phenylbutazone, salicylates),ยาต้านการแข็งตัวของเลือด warfarin ,ยาลดไขมัน (เช่น.clofibrate), ยาต้านซึมเศร้า(monoamine oxidase inhibitors, doxepin, nortriptyline), ยาลดความดันโลหิตกลุ่ม ACE-inhibitors เช่น captopril, enalapril,ยารักษาโรคกระเพาะอาหาร H2- blockers, cimetidine, ranitidine,


เมื่อเกิดอาการข้างเคียงควรทำอย่างไร


ข้อควรระวัง

ความปลอดภัยของยานี้ในสตรีมีครรภ์

สำหรับสตรีมีครรภ์ ยานี้จัดอยู่ในประเภท C