jrprint

หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | วัคซีน

adv

ประเทศไทยพร้อมหรือยังสำหรับการระบาดของไข้หวัดนก

ภาพยนต์เรื่องชื่อ Outbrake เป็นเรื่องที่คนติดเชื้อไวรัสที่มาจากลิง เชื้อระบาดไปทั่ว CDC ได้เข้าไปจัดการควบคุมการระบาดของเชื้อโรคซึ่งลุกลามเกินกว่าทางการจะควบคุมได้ จนกระทั่งรัฐบาลได้สั่งให้ทำลายเมืองนั้นทั้งเมืองเพื่อควบคุมโรคติดต่อ แต่โชคดีที่สามารถค้นพบวัคซีนได้ทัน เรื่องการระบาดเช่นเรื่องOutbrake จะเกิดขึ้นหรือไม่

ทั่วโลกให้ความสนใจกับเชื้อโรคไข้หวัดนก H5N1 เนื่องจากเชื้อนี้ได้ระบาดไปยังหลายประเทศทั่วโลก เชื้อก่อให้เกิดโรคที่มีอัตราการเสียชีวิตสูง และมีรายงานว่าอาจจะมีการติดต่อจากคนสู่คน การเตรียมพร้อมเพื่อรับการระบาดของไข้หวัดนกจะบรรเทาความเสียหายซึ่งเกิดจากการระบาดของไข้หวัดนก

จำลองสถานการเกิดการระบาดของโรค

มีข่าวลือว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวนมากจากโรคระบาดที่จังหวัดหนึ่ง กระทรวงสาธารณะสุขส่งทีมเข้าสอบสวนและควบคุมการติดเชื้อ พบว่าเกิดการระบาดของโรคเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา ค้นพบคนป่วย 50 คนผู้ป่วยมีทุกอายุ 20 คนยังอยู่ในโรงพยาบาล ผู้ป่วย 5 คนเสียชีวิตจากปอดบวม ได้มีการสำรวจก็สามารถพบผู้ป่วยเพิ่มเติม ได้นำสารคัดหลั่งส่งตรวจหาเชื้อพบว่าเป็นเชื้อ Influenza A แต่ไม่ทราบชนิด จึงได้ส่งสารคัดหลั่งไปตรวจที่องค์การอนามัยโลก และสามารถแยกเชื้อเป็นชนิด H6N1 ซึ่งไม่เคยพบมาก่อน จึงได้ถอดรหัสพันธุกรรม พบว่าเป็นเชื้อไข้หวัดนก ข้อมูลดังกล่าวได้ส่งไปยังองค์การอนามัยโลกและรัฐบาล

การระบาดยังไม่สิ้น ยังพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นหัวข้อข่าวพาดหัวในหนังสือพิมพ์ องค์การอนามัยโลกได้สอบถามถึงสถานการการระบาดของไข้หวัดนก รัฐบาลได้สอบสวนและสืบสวนอย่างเข้มข้น

หลังจากนั้น 2 เดือนการระบาดได้กระจายไปยังประเทศเพื่อนบ้านโดยมากเป็นในเด็และวัยรุ่น 1ใน20จะเสียชีวิต เกิดการตื่นกลัวไปทั่ว การแพร่กระจายเป็นไปอย่างรวดเร็ว มีการตรวจคนก่อนเข้าประเทศ สถานศึกษาถูกสั่งปิด คนตื่นตระหนกเนื่องจากเกิดการขาดแคลนยาต้านไวรัส และวัคซีนต้นแบบยังไม่ได้ผลิต

หนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้น มีผู้ป่วยจากประเทศที่ระบาดโดยสารเครื่องบินเข้าประเทศ ไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้นเกิดการขาดเรียน การขาดงาน เสียงโทรศัพท์ที่สาธารณสุขดังไม่ขาดสาย เชื้อได้ระบาดข้ามทวีป ผู้คนเรียกร้องหาวัคซีน ยาต้านไวรัสมีไม่พอใช้ ตำราจป่วย พนักงานขับรถป่วยทำให้เกิดปัญหากับบริการสาธารณะขั้นพื้นฐาน

โรงพยาบาลจะแออัดไปด้วยผู้ป่วยนอก เตียงจะไม่พอเพียงสำหรับผู้ป่วยจำนวนมาก เครื่องช่วยหายใจสำหรับผู้ที่เป็นโรคปอดบวมไม่พอ พ่อแม่ต้องสูญเสียลูกหลังจากป่วยไม่กี่วัน สนามบินปิด งานที่สำคัญปิดเนื่องจากขาดคนทำงาน

ท่านจะเห็นว่าเมื่อเกิดการระบาดจะเกิดปัญหาขึ้นอย่างมากมาย การวางแผนรับมือกับการระบาดจะชลอการระบาด และลดการเสียชีวิตและความสูญเสีย

ประเทศไทยพร้อมหรือยังสำหรับการระบาดของไข้หวัดนก

ประเทศไทยมีการเตียมความพร้อมในการรับมือกับไข้หวัดนกหรือยัง เพื่อลดการสูญเสียชีวิต ลดการสูญเสียทางเศรษฐกิจและลดปัญหาสังคม เรามาช่วยกันตรวจสอบรัฐบาลว่า ได้เตรียมความพร้อมสำหรับการระบาดหรือยัง

ทำไมจึงต้องเตรียมความพร้อม

การเตรียมความพร้อมของรัฐบาลในการรับกับการระบาดของไข้หวัดนกจะช่วย

การเตรียมความพร้อมในการรับมือกับการระบาดทั่วโลก

องค์การอนามัยโลกได้ออกแนวทางเพื่อให้ประเทศต่างๆได้เตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับการระบาดของไข้หวัดนก ผู้เขียนเห็นว่าบทความน่าสนใจเพื่อที่เราจะได้ตรวจสอบการทำงานของคนที่เกี่ยวข้องกับการระบาดว่าได้ทำงาน และเตรียมความพร้อมไปถึงไหน เราจะฝากชีวิตกับทางราชการได้หรือไม่ ในการเตรียมความพร้อมองค์การอนามัยโลกได้แบ่งออกเป็นหัวข้อต่างๆดังต่อไปนี้

จะเห็นว่าองค์การอนามัยโลกได้แนะนำมาตราการในการรับการระบาดของไข้หวัดนกสำหรับประเทศต่างๆ เรามาสำรวจประเทศไทยว่าได้เตรียมพร้อมในประเด็นใดบ้าง จากแผนต่างๆจะสรุปเป็นตารางข้างล่าง

 
จำเป็น
ต้องการ
1การเตรียมพร้อมในภาวะฉุกเฉิน

1.1เริ่มต้น Getting started

x

1.2 lการออกคำสังและการควบคุม Command and control

x

1.3 การประเมินความเสี่ยงRisk assessment

x

1.4 สื่อสาร Communication

x

1.5 กฎหมายและจริยธรรม Legal and ethical issues

1.5.1 กฎหมาย Legal issues

x

1.5.2 จริยธรรม Ethical issues

x

1.6 การทำแผนตามระยะการระบาดResponse plan by pandemic phaseการ

2. การสอบสวนโรค Surveillance

2.1 การสอบสวนระหว่างระบาดInterpandemic surveillance

— ทั่วๆไปGeneral

x

— สัญญาณเตือนภัยEarly warning

x

2.2 การเพิ่มมาตรการสอบสวนEnhanced surveillance

x

2.3 การสอบสวนระหว่างระบาดPandemic surveillance

x
3. การวินิจฉัยและการรักษา Case investigation and treatment

3.1 Diagnostic capacity

3.1.1ห้องปฏิบัติการ Local laboratory capacity

x

3.1.2 ห้องปฏิบัติการอ้างอิงReference laboratory availability

x

3.2 การสอบสวนทางระบาด และการกักกันEpidemiological investigation and contact management

x

3.3 การรักษาClinical management

x

4. การป้องกันการระบาดของเชื้อ Preventing spread of the disease in the community

4.1 ทางสาธารณสุขPublic health measures

x

4.2 การฉีดวัคซีน Vaccine programmes

x

4.3 การใช้ยาต้านไวรัสAntiviral use as a prevention method

x

5. กำดำรงอยู่ของบริการที่จำเป็น Maintaining essential services

5.1การบริการทางสาธารณสุข Health services

x

5.2 การบริการที่สำคัญอื่นๆ Other essential services

x

5.3 ช่วงพื้นตัว Recovery

x
6. การวิจัยและ การประเมิน Research and evaluation
x
7. การนำแผนไปปฏิบัติ ทดสอบ Implementation, testing and revision of the national plan
x

1. Preparing for an emergency

การเตรียมในภาวะฉุกเฉินหมายถึงการเตรียมพร้อมรับกับภาวะฉุกเฉินทั่วๆไป ไม่จำเป็นต้องเป็นการระบาดของไข้หวัดนก การเตรียมการนี้จะเป็นการวางโครงสร้าง แผนปฏิบัติการเพื่อให้ใช้ทรัพยากรอย่างเต็มประสิทธิภาพ

หลักการ Rationale

การเตรียมความพร้อมสำหรับการระบาดเป็นเรื่องลำบาก จะต้องใช้ทรัพยากรบุคคลในการเขียนแผน และจะต้องมีการลงทุนเพื่อการป้องกัน การตัดสินจะมุ่งเน้นที่ความสงบสุขของชุมชน การทำแผนนี้จะต้องได้รับความเห็นชอบจากทางการเมืองและสภา

คำถามที่จะต้องให้ความสนใจ

ผู้บริหารระดับสูงได้รับรู้ถึงผลกระทบที่จะเกิดกับชีวิตคน ผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจ ทางการเมืองและสภาได้เตรียมเรื่องการระบาดไว้หรือยัง ในแผนการได้มีกลยุทธจัดการกับชุมชนหรือไม่

ผู้บริหารระดับสูงได้ทราบถึงความสำคัญของแผน และเป้าหมายของแผนการเตรียมรับมือกับการระบาดของไข้หวัดนก
ได้จัดเตรียมงบประมาณสำหรับการเตรียมความพร้อม
ได้มีการจัดองค์กรหรือคนสำหรับการเขียนหรือปรับแผน
มีการกำหนดว่าแผนจะสำเร็จเมื่อไร
ผู้คนหรือองค์ที่เข้าร่วมในแผนมาจากหลากหลายอาชีพ
ต้องมีข้อตกลงและการกระจายงานให้แต่ละองค์กร
ต้องมีคณะกรรมการกลางขององค์กร
ต้องมีการประชุมเป็นระยะในขณะที่ไม่มีการระบาด หากมีสัญญาณว่าจะมีการระบาดต้องมีการประชุมเป็นประจำ
ต้องเตรียมเนื้อหาที่จะชี้แจงให้คนที่เกี่ยวข้องได้ทราบแผนการรับมือ เช่น ทางการเมือง รัฐบาล รวมทั้งประชาชน

ความเห็นของผู้เขียน

เท่ที่ติดตามข่าวสารที่ประกาศออกมาทางสื่อมวลชน ประเมินว่าการเตรียมพร้อมในข้อนี้ทางการยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ยังไม่มีกรรมการ ยังไม่มีแผนการฉุกเฉิน ยังไม่มีองค์กร รัฐบาลก็ยังไม่เห็นความสำคัญ ยังไม่มีการประชาสัมพันธ์ ยังไม่มีการตั้งงบประมาณ หากมีการระบาดจริงคงจะลำบาก

1.2 Command and control

หลักการ

เพื่อให้การตัดสินใจทันเวลาและทันเหตุการณ์จะต้องระบุีผู้รับผิดชอบในการออกคำสั่ง ให้ปฏิบัติตามแผนหากมีการระบาดของโรค รวมทั้งคำสั่งในการกักกัน การปิดสนามบิน การปิดโรงเรียน นอกจากนั้นจะต้องระบุว่าใครคือผู้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้น

คำถามที่ต้องให้ความสนใจ

เมื่อมีการระบาดของไข้หวัดนกใครคือผู้ประกาศแผนการรับมือ นายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หรือผู้ว่าราชการจังหวัด ใครคือผู้แนะนำให้ออกมาตรการ มีโครงสร้างการตัดสินใจรวมทั้งเกณฑที่ใช้ในการตัดสินใจหรือไม่ แต่ละคนที่เกี่ยวข้องได้ทราบหรือไม่

ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะมีโครงสร้างการตัดสินใจและเกณฑ์ในการตัดสินใจ และต้องมีการประสานระหว่าง
  • กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวกับภาวะฉุกเฉิน
  • ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกลางกับผู้ว่าราชการ นายอำเภอ
โครงสร้างคำสั่งและการควบคุมสำหรับภาวะฉุกเฉินต้องปฏิบัติโดยเคร่งครัด
ทุกคนที่เกี่ยวข้องต้องรู้บทบาทและหน้าที่ในช่วงที่มีการระบาดหรือยัง
มีมาตราฐานการปฏิบัติงานหรือยัง มาตราฐานดังกล่าวได้แก่
  • วิธีการเตือนให้คนตะหนักและเตือนเมื่อเกิดการระบาดของโรค
  • เกณฑ์ในการตั้งทีมฉุกเฉิน
  • เกณฑ์ในการรายงาน
  • การตัดสินใจในทางการเมือง
  • การบรรลุข้อตกลงทางการแพทย์และวิทยศาสตร์เมื่อเกิดการระบาด เช่นเกณฑ์กาารรักษา
  • วิธีการแจ้งเตือนประชาชนให้ทราบข้อมูล
  • การจัดการกับกำลังพลเมื่อมีการระบาด

ข้อคิดเห็นของผู้เขียน

เท่าที่ได้ข้อมูลยังไม่ปรากฏว่ามีการประชุมเพื่อจัดทำแผนฉุกเฉินเมื่อเกิดการระบาด ดังนั้นจึงยังไม่มีโครงสร้างการสั่งงานทั้งในระดับรัฐบาลและท้องถิ่น

1.3 Risk assessment

หลักการ

เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นนอกจากจะวิเคราะห์ถึงผลกระทบสุขภาพของประชาชน ควรจะวิเคราะห์ว่ามีผลกระทบต่อการบริการที่จำเป็นหรือไม่ อย่างไร

คำถามที่ต้องให้ความสนใจ

ทางราชการได้มีแบบจำลองถึงผลกระทบเมื่อเกิดการระบาดของไข้หวัดนกหรือยัง ผลกระทบต่อโรงพยาบาล ชุมชน คลินิค และผลกระทบต่อการบริการพื้นฐานอย่างไรบ้าง

จำลองแบบสถานการณ์ถึงผลกระทบหากเกิดการระบาดที่ความรุนแรงระดับต่างๆ ผลกระทบหมายถึง จำนวนผู้ป่วยนอก จำนวนผู้ป่วยที่ต้องนอนโรงพยาบาล จำนวนผู้เสียชีวิต
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้เห็นถึงความจำเป็นในการเตรียมความพร้อมในการรับมือของการระบาดไข้หวัดนก
คากการถึงผลการให้ยาต้านไวรัสและวัคซีนต่อกลุ่มเสี่ยงต่างๆ
มีความเข้าใจเกี่ยวกับภาษา วัฒนธรรม และสื่อสำหรับชุมชนในประเทศ

ข้อคิดเห็นของผู้เขียน

มีรูปแบบจำลองการศึกษาถึงผลกระทบของการระบาด แต่ไม่ไดนำมาวางแผนป้องกัน รวมทั้งไม่มีแผนการเรื่องการใช้ยาต้านไวรัสและการใช้วัคซีนสำหรับกลุ่มเสี่ยงต่างๆ

1.4 Communication

หลักการ

การสื่อสารเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในสถานการณ์โรคระบาด ข้อมูลที่ถูกต้องและทันเวลาสำหรับประชาชนทุกกลุ่มจะลดปัญหาทางสังคมและเศรษฐกิจ

คำถามที่ต้องให้ความสนใจ

ทางรัฐมีคณะทำงานที่ประเมินความเสี่งและแปรผลการวิจัยสู่ประชาชนหรือไม่ ทางรัฐมีแผนการสื่อสารกับคนทุกกลุ่ม เช่น เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ประชาชน รวมทั้งความก้าวหน้าของการควบคุมการระบาด การทบทวนว่าจะใช้สื่ออะไรในการประชาสัมพันธ์ ใครเป็นโฆษกที่จะแถลง

1.4.1 Public communication การสื่อสารสู่สาธารณะ

ต้องเตรียมข้อมูลสำหรับคนในสังคมแต่ละกลุ่ม(เช่น ประชาชนทั่วไป บุคลากรทางการแพทย์ การเมือง เจ้าหน้าที่) สื่อต่างๆเช่น แผ่นพับ เวป จะทำอย่างไรที่จะการกระจายสื่อไปยังกลุ่มเป้าหมาย
ได้มีการจัดทำเวปสำหรับให้ข้อมูลหรือไม่
ประสานงานกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อข้อมูลที่ถูกต้องและทันเวลา
ในช่วงที่ไม่มีการระบาดจะต้องให้ข้อมูลทั่วไป และการเตรียมพร้อมสำหรับเมื่อเกิดการระบาดแก่กลุ่มเป้าหมาย เช่นคนทั่วไป และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์
เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์จะต้องแจกจ่ายข้อมูลให้แก่กลุ่มต่างๆอย่างทั่วถึง
ช่วงที่เกิดการระบาดต้องมีการให้ข่าวแก่ชุมชนเป็นประจำ
ต้องแน่ใจว่าข้อมูลต่างๆได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่เสมอ

1.4.2 Communication among those involved in the response การสื่อสารของเจ้าหน้าที่

มีคณะทำงานที่รวมรวมและกระจายข้อมูลของการระบาดไปสู่คนทำงาน คณะทำงานประกอบไปด้วยตัวแทนจากกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงกระเกษตร ตัวแทนผู้บริโภค ตัวแทนทางการแพทย์ คณะดังกล่าวจะอยู่ในคณะทำแผนระดับชาติ
มีการประสานงานแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างตัวแทนระดับชาติและองค์การสหประชาชาติ และสามารถนำเอาข้อกำหนดนานาชาติไปปฏิบัติ
มีกลไกที่จะกระจายข้อมูลได้อย่างถูกต้องและทันเวลา ข้อมูลที่สำคัญได้แก่ เกณฑ์การวินิจฉัยโรค เกณฑ์ในการให้วัคซีนและยาต้านไวรัส แนวทางการรักษา จำนวนผู้ป่วยจำแนกตามพื้นที่ จำนวนผู้เสียชีวิต ผลกระทบของการระบาดต่อการบริการที่จำเป็น
หากยังไม่มีกลไกดังกล่าวจะต้องมีกลไกการสื่อสารระหว่างหน่วยกลางไปยังท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับภาวะฉุกเฉิน
หากยังไม่มี ต้องจัดตั้งระบบสื่อสารเช่น fax ,teleconference ,Internet and e-mail capacity.

1.5 Legal and ethical issues

หลักการและเหตุผล

ในช่วงที่มีการระบาดของโรคจำเป็นต้องจำกัดสิทธิและเสรีภาพของคน เช่นการกักกัน การใช้อาคารของเอกชนเป็นโรงพยาบาล การยกเลิกสิทธิบัตรยา การฉีดวัคซีน การปรับการบริการที่จำเป็น การออกกฎดังกล่าวต้องโปร่งใส และอยู่ภายใต้กฎหมาย

คำถามที่ต้องให้ความสนใจ

ในแผนการรับมือการระบาดได้มีกรอบการบังคับทางกฎหมายหรือไม่ กรอบดังกล่าวครอบคลุมแผนฉุกเฉินในการให้บริการทางการแพทย์หรือไม่ แผนในการบริการสาธารณที่จำเป็นหรือไม่

ต้องพิจารณาข้อดีข้อเสียของการประกาศใช้แผนฉุกเฉิน
มีเกณฑ์หรือกฎหมายรองรับในการพิจารณาควบคุมมิให้เชื้อมีการแพร่กระจาย เกณฑ์ดังกล่าวได้แก่
  • การควบคุมพื้นที่ติดเชื้อมิให้คนเข้าหรือออก
  • ปิดสถานศึกษา
  • การห้ามจัดงานที่มีคนมารวมกัน
  • การกักกันคนที่ได้รับเชื้อหรือการควบคุมคนที่สงสัยว่าจะได้รับเชื้อหรือกักคนที่มาจากบริเวณที่มีการระบาด
มีการกำหนดนโยบายให้มีการฉีดวัคซีนแก่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่บริการสาธารณะที่จำเป็น หรือกลุ่มเสี่ยงอื่นๆ
อนุญาติหรือต่อใบอนุญาติให้กับคนที่เกษียรหรือเจ้าหน้าทางแพทย์อื่นที่มาช่วยยังพื้นที่ที่มีการระบาด
มีการกำหนดความรับผิดชอบต่อผลข้างเคียงของวัคซีนและยาต้านไวรัส ที่มีการเร่งวิจัยและผลิต ความรับผิดชอบหรือการยอมรับผลข้างเคียงจะครอบคลุมถึงบริษัทผู้ผลิต เจ้าของลิขสิทะฺ์ ผู้ที่ฉีดยา
มีการกำหนดให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ
มีการกำหนดให้โรคไข้หวัดนกเป็นโรคติดต่อที่ต้องควบคุมและป้องกัน

1.5.2 Ethical issues ด้านจริยธรรม

หลักการ

ในบางครั้งด้านจริยธรรมก็ไม่สามารถแยกออกจากกฎหมาย แต่จำเป็นที่จะต้องให้สังคมยอมรับ เช่นการกักกีน การเลือกคนที่ต้องให้วัคซีนก่อนคนอื่น เป็นต้น

คำถามที่ต้องให้ความสนใจ

ในการจัดทำแผนรับมือการระบาดได้คำนึงถึงกรอบด้านจริยธรรมมากน้อยเพียงใด และมีกรอบด้านจริยธรรมที่สามารถนำมาปฏิบัติเมื่อเกิดการระบาด

มีกรอบจริยธรรมเนื่องจากการขาดทรัพยกร เช่นคนทำงาน การตรวจทางห้องปฏิบัติการ การขาดวัคซีน การขาดยาต้านไวรัส
มีคำถามทางจริยธรรมในการให้วัคซีนแก่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และบริการสาธรณะที่จำเป็นก่อนคนอื่น
มีคำถามทางจริยธรรมเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการเดินทาง
มีกรอบจริยธรรมในการวิจัยหรือไม่ โดยเฉพาะเกี่ยวกับการทดลองในคน

1.6 Response plan by pandemic phase

หลักการ

ในการตอบสนองต่อการระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันเวลา เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบจะต้องรู้ว่า ต้องทำอะไรเมื่อมีคำสั่งออกมา องค์การอนามัยโลกได้กำหนดกรอบในการปฏิบัติงาน แต่ละประเทศต้องนำไปปรับปรุงให้เข้ากับโครงสร้างของแต่ละประเทศ ดังนั้นต้องมีแผนการเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับการระบาด

คำถามที่ต้องให้ความสนใจ

มีแผนที่ตอบสนองต่อการระบาดหรือไม่ แผนนั้นต้องระบุองค์กร คน ที่เกี่ยวข้องกับการระบาดระยะต่างๆ

มีแผนการปฏิบัติตามระยะการระบาดของโรค ในแผนต้องระบุรายละเอียดถึงการตอบสนองในแต่ละยะของการระบาด
มีการระบุเหตุการณ์ที่บ่งบอกว่าการระบาดของโรคได้เปลี่ยนแปลง
ในแผนต้องระบุหน่วยงานที่ตอบสนองต่อการระบาดในแต่ละระยะ

2. Surveillance การสืบสวนและสอบสวนโรคหรือการเฝ้าระวังโรค

หลักการ

การสืบสวนและสวนโรคเป็นการรวบรวมข้อมูลและการแปรผลเพื่อที่จะได้วางแผนในการป้องกันการระบาด การสืบสวนสอบสวนมีจุดประสงค์ต่างๆกัน ในการสืบสวนสอบสวนต้องระบุวัตถุประสงค์

คำถามที่ต้องให้ความสนใจ

ประเทศของท่านจะใช้วิธีเฝ้าระวังแบบไหน ใครเป็นผู้รวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ ใครเป็นใช้ข้อมูลเพื่อสั่งการ ระบเฝ้าระวังมีความสอดคล้องระหว่างท้องที่ กับส่วนกลางและองค์การอนามัยโลกหรือไม่

มีการกำหนดเป้าหมายในการสืบสวนโรคในช่วงก่อนการระบาด สัญญาณเตือนว่าจะมีการระบาด และการสืบสวนโรคในช่วงที่มีการระบาด เป้าหมายในการเฝ้าระวังโรคต้องติดตามการระบาดของประเทศเพื่อนบ้านด้วย
มีการอบรมเจ้าหน้าที่เพื่อสืบสวนสอบสวนโรค
ในช่วงก่อนมีการระบาดต้องสืบสวนหรือเฝ้าระวังโรคอย่างใกล้ชิดและเข้มข้น
ต้องวางแผนในกรณีฉุกเฉิน เช่นต้องอบรมคนเพิ่ม การย้ายคนจากที่อื่นมาช่วย

2.1 Interpandemic surveillance

หลักการ

การเฝ้าระวังในช่วงที่ไม่มีการระบาดจุดประสงค์จะเฝ้ามีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล หรือไม่เพื่อพิจารณาในการให้วัคซีน นอกจากนั้นการเฝ้าระวังจะเป็นการคนหาว่ามีการเกิดระบาดของไข้หวัดจากเชื้อชนิดใหม่หรือไม่

คำถามที่ต้องให้ความสนใจ

ประเทศไทยมีการประเมินถึงภาระค่าใช้จ่ายจากไข้หวัดใหญ่หรือไม่ มีระบบค้นหาเชื้อชนิดใหม่ที่ระบาดหรือไม่ มีระบบค้นหาสาเหตุของคนที่ป่วยด้วยลักษณะคล้ายๆกัน

ได้มีการเฝ้าระวังกลุ่มโรคที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่หรือไม่ influenza-like illness (ILI).
ได้มีการตรวจหาเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่เป็นสาเหตุของโรคหรือไม่
ได้มีความร่วมกับเครือข่ายไข้หวัดใหญ่ขององค์การอนามัยโลก national influenza centre (NIC),เพื่อที่จะเก็บรวบรวมเชื้อที่เป็นสาเหตุของไข้หวัดใหญ่ สำหรับวางแผนในการผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่
มีการทำงานร่วมกับกองควบคุมโรคระบาดในสัตว์หรือไม่
การเฝ้าระวังสัญญาณเตือนภัยของการระบาด
ได้มีการเฝ้าระวัง และสืบสวนโรคระบบทางเดินหายใจซึ่งมีอาการไม่เป็นปกติ เพื่อที่จะได้ตรวจทางห้องปฏิบัติการและสืบค้นหาเชื้อที่เป็นสาเหตุ ภาวะที่ต้องสืบค้นได้แก่
  • ได้มีการเฝ้าระวังผู้ป่วยที่นอนโรงพยาบาลด้วยเรื่องโรคทางเดินหายใจ
  • การเฝ้าระวังผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากโรคระบบทางเดินหายใจที่ไม่ปกติ
  • การเฝ้าระวังผู้ป่วยที่มาด้วยเรื่องระบบทางเดินหายใจที่มาเป็นกลุ่ม
  • การเฝ้าระวังเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่ป่วยหรือเสียชีวิตจากโรงระบบทางเดินหายใจ
  • มีการติดตามอัตราการใช้ยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษาโรคปอดบวม หรือยาที่ใช้รักษาไวรัสไข้หวัดใหญ่
ได้มีการแจ้งเจ้าหน้าที่อื่นเพื่อติดตาม กลุ่มโรคที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่หรือไม่ influenza-like illness (ILI)

2.2 Enhanced surveillance (phase 2 and beyond)

หลักการ

เมื่อมีเหตุการณ์ที่บ่งชี้ว่าอาจจะเกิดการระบาดของโรค การเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดจะทำให้การค้นพบการระบาดได้อย่างรวดเร็ว

คำถามที่ต้องให้ความสนใจ

มีการเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงเป็นพิเศษหรือไม่ การเฝ้าระวังจะเฝ้าระวังอะไร ใครเป็นคนสั่งให้เฝ้าระวัง ใครเป็นคนเก็บข้อมูล ใครเป็นคนแปลผล

ให้ตั้งวัตถุประสงค์ของการเฝ้าระวังอย่างเข็มงวดและอธิบายวิธีการเก็บข้อมูลนั้น
ให้แน่ใจว่ามีระบบที่จะเปลี่ยนคำนิยามของโรค เพื่อที่จะได้ทราบหากมีการระบาด
  • สัญญาณเตือนภัยเมื่อมีคนป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจร่วมกับการตายผิดธรรมชาติของสัตว์
  • สัญญาณเตือนภัยเมื่อมีกลุ่มคนที่ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ หรือมีการเสียชีวิตจากโรคทางเดินหายใจ หรือมีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ป่วยด้วยโรคทางเดินระบบทางเดินหายใจ

การเฝ้าระวังจะเน้นเป็นพิเศษในกลุ่มต่อไปนี้

การเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด อาจจะทำให้ตรวจพบเชื้อที่เป็นสาเหตุของการระบาดได้เร็ว

2.3 Pandemic surveillance การเฝ้าระวังช่วงที่มีการระบาดของโรค

หลักการ

เมื่อมีการระบาดไปทั่วโลกตามที่องค์การอนามัยโลกประกาศ หน่วยงานสาธารณสุขจะต้องทำงานหนัก การเก็บข้อมูลควรจะทำตามความจำเป็น เพื่อี่ติดตามการเปลี่ยนแปลงของตัวเชื้อและติดตามการระบาดของโรค ไม่จำเป็นต้องส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการทุกคน

ตรวจสอบว่ามีเกณฑ์การปรับระดับของการระบาดตามเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลกหรือไม่
เมื่อมีการระบาดไปทั่วโลกจำเป็นต้องมีการเฝ้าระวังโรคหรือไม่
ในช่วงท้ายของการระบาดจะมีอัตราการติดเชื้อสูงมาก จึงไม่มีความจำเป็นต้องเฝ้าระวัง จะส่งตรวจเชื้อเพื่อเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของตัวเชื้อ
มีระบบที่จะปรับคำจำกัดความของโรคตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก
การเฝ้าระวังในช่วงที่มีการระบาดจะเฝ้าดู
  • ติดตามการนอนโรงพยาบาลของผู้ที่สงสัยจะติดเชื้อ
  • ติดตามจำนวนผู้ป่วยที่เสียชีวิต
  • ติดตามการขาดงานของงานบริการที่สำคัญ
  • ติดตามการใช้วัคซีน
  • ติดตามผลข้างเคียงจากการใช้วัคซีน
  • รวบรวมข้อมูลเพื่อใช้คำนวณประสิทธิภาพของการใช้วัคซีน
  • ติดตามการใช้ยาต้านไวรัสและผลข้างเคียงของยา
ติดตามผู้ที่ฝื้นจากโรคเพื่อนำมาทำงานบริการที่จำเป็น เนื่องจากเชื่อว่าคนกลุ่มนี้จะมีภูมิต่อโรค
มีกลไกที่รวบรวมข้อมูลและแปลผลเพื่อการตัดสินใจ

3. การวินิจฉัยและการรักษา Case investigation and treatment

หลักการ

การวินิจฉัยโรคระบาดได้รวดเร็วจะช่วยในการควบคุมการระบาดของโรค จึงจำเป็นต้องมีห้องปฏิบัติการที่ทันสมัย สำหรับประเทศที่ยังไม่พร้อมจำเป็นต้องอาศัยเครือข่ายช่วยในการวินิจฉัย

คำถาม

ประเทศของท่านมีห้องปฏิบัติการที่สามารถตรวจสอบหาเชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคระบาดหรือไม่ การตรวจนี้จะครอบคลุมทั้งคนและสัตว์ แพทย์หรือเจ้าหน้าที่รู้ว่าจะต้องตรวจอะไร การเก็บตัวอย่างส่งตรวจทำอย่างไร จะนำเชื้อโรคใส่ภาชนะอะไร วิธีการนำส่งทำอย่างไร

ก่อนที่จะมีการระบาด ทุกประเทศควรจะมีการเตรียมความพร้อมทางห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจหาเชื้อไข้หวัดใหญ่ มาตราฐานขั้นต่ำต้องตรวจหาต้องใช้วิธี immunofluorescence (IF) and reverse
transcriptase polymerase chain reaction (RT-PCR).
ต้องจัดงบประมาณเพื่อให้ดำเนินงานตรวจทางห้องปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
หากไม่สามารถจัดห้องปฏิบัติการได้ ให้จัดซื้อ commercial rapid antigen detection kits.
จัดทำคู่มือในการเก็บสารที่จะส่งตรวจโดยยึดถือคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก
จะต้องจัดระบบให้มีความปลอดภัย ระวังการแพร่เชื้อ
แต่ละประเทศต้องจัดสร้างห้องปฏิบัติการที่มีความปลอดภัยระดับ 3-4 biosafety security levels (BSL)
3 and 4 หากประเทศไหนไม่มี ก็ไปใช้ประเทศที่มีความพร้อม
ในช่วงเริ่มต้นของการระบาดให้ตรวจหาชนิดของไวรัสทุกรายที่สงสัย และเตรียมความพร้อมในเรื่องงบประมาณ น้ำยาที่ใช้ตรวจ รวมทั้งการฝึกอบรบเจ้าหน้าที่
เมื่อโรคได้ระบาดเรียบร้อยแล้วก็ไม่มีความจำเป็นต้องตรวจหาเชื้อทุกราย
ต้องมีที่เก็บสารคัดหลั่งที่นำมาตรวจ หรือเลือด น้ำเหลืองผู้ป่วย เพื่อใช้ตรวจวิเคราะห์ภายหลังจากการระบาดได้ยุติ
ต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลอาการของผู้ป่วยที่เป็นโรคกับเจ้าหน้าที่ในประเทศและต่างประเทศ และพันธุกรรมของเชื้อที่เป็นสาเหตุ
ต้องมีการให้ข้อมูลที่ทันสมัยเกี่ยวกับการตรวจหาเชื้อ รวมทั้งการแปลผลการตรวจ โดยอาจจะเผยแพร่ทางเวปไซต์
สำหรับประเทศที่ใช้ยาต้านไวรัสในการป้องกันการระบาด จะต้องติดตามว่าเชื้อมีการพัฒนาจนกระทั่งเชื้อดื้อยาหรือยัง

3.1.2 ห้องปฏิบัติการอ้างอิง Reference laboratory availability

หลักการ

แม้ว่าจะได้มีการสร้างห้องปฏิบัติการที่ทันสมัย แต่ก็ยังมีความจำเป็นที่จะต้องส่งตัวอย่างเชื้อหรือสารคัดหลั่งไปยังองค์การอนามัยโลก เพื่อการยืนยันการวินิจฉัยและประเมินความเสี่ยง

คำถาม

ประเทศมีแนวทางที่จะรวบรวมสารคัดหลั่หรือเชื้อโรคจากสัตว์และคน ส่งให้องค์การอนามัยโลกได้อย่างปลอดภัยหรือยัง

ทุกประเทศควรจะส่งตัวอย่างเชื้อหรือสารคัดหลั่งไปยังห้องปฏิบัติการขององค์การอนามัยโลก
ห้องปฏิบัติการในประเทศควรจะคู่มือหรือแนวทางที่จะนำสารคัดหลั่งหรือเชื้อโรคส่งไปยังองค์การอนามัยโลก โดยเน้นความปลอดภัย

3.2 การสอบสวนทางระบาดและการจัดการ Epidemiological investigation and contact management

หลักการ

ในระหว่างที่รอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ การสอบสวนทางระบาดจะสอบว่าคนติดเชื้อโรคได้อย่างไร ผลกระทบของโรคต่อคนป่วย ต่อสิ่งแวดล้อมและความเสี่ยงของการติดเชื้อจากคนสู่คน เพื่อเป็นแนวทางป้องกันการระบาด

คำถาม

การติดเชื้อของคนมาจากแหล่งอะไร การติดเชื้อสามารถติดต่อจากคนสู่คนหรือไม่ ถ้าสามารถติดต่อจากคนสู่คน จะจัดการอย่างไร การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเปลี่ยนจากเดิมมากน้อยแค่ไหน และต้องเปลี่ยนแปลงวิธีการจัดการหรือไม่

การสอบสวนโรคเมื่อสงสัยว่าจะมีการติดต่อจากคนสู่คน ควรจะสอบสวนลักษณธของโรคด้วย
ต้องมีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่สอบสวนทางระบาด
มีกลไกการรายงานผู้ป่วยไปยังระดับชาติและองค์การอนามัยโลก
มีการพัฒนาแบบสำรวจการระบาดและนำไปใช้
มีแนวทางในการดูแลผู้ที่สัมผัสกับผู้ป่วย และได้อธิบายถึงความจำเป็นและวิธีการปฏิบัติตัว รวมทั้งการศึกษาของประชาชน สุขอนามัย การกักกัน การใช้ยาต้านไวรัส
มีการทบทวนการศึกษาการระบาดว่าได้ผลมากน้อยแค่ไหน เพื่อจะปรับคำนิยาม และการป้องกันการระบาด

3.3 Clinical management

3.3.1 ด้านการดูแลและรักษา Case management and treatment

หลักการ

เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพจึงต้องจัดทำแนวทางการรักษาและการควบคุมโรคติดต่อไปยังสถานบริการทุกระดับ รวมทั้งได้มีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ในการควบคุมโรคติดต่อ

คำถาม

ผู้ป่วยนี้ได้เชื้อโรคอย่างไร จำเป็นต้องรักษาหรือไม่ จำเป็นต้องตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมหรือไม่ หากจำเป็นจะต้องตรวจอะไร เก็บตัวอย่างอะไร และนำส่งอย่างไร

มีการพัฒนาคู่มือในการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อหรือสงสัยว่าจะติดเชื้อ แนวทางต้องครอบคลุมเรื่องดังต่อไปนี้
  • จะให้ผู้ป่วยรักษาที่ไหน ที่บ้านหรือโรงพยาบาล
  • เกณฑ์ในการรับตัวผู้ป่วยไว้ในโรงพยาบาล
  • การเก็บสารคัดหลั่งส่งตรวจ การนำส่ง และการตรวจทางห้องปฏิบัติการอย่างเหมาะสม
  • แนวทางการรักษา การใช้ยาต้านไวรัส การใช้ยาปฏิชีวนะ การใช้เครื่องหายใจ การลดไข้
มีคณะทำงานซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากภาครัฐและเอกชน
3.3.2การควบคุมโรคติดเชื้อในโรงพยาบาล Infection control in health-care settings

หลักการ

การควบคุมโรงติดเชื้อจะต้องรู้ว่าเชื้อสามารถติดต่อทางไหน และมีวิธีการที่จะควบคุมการติดเชื้ออย่างไร การควบคุมการติดต่อเป็นหัวใจของการป้องกันการแพร่ของเชื้อในโรงพยาบาล

คำถาม

ประชาชนโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือไม่ พวกเข้ามีความรู้ถึงวิธีการติดเชื้อรวมทั้งวิธีป้องกันหรือไม่

แผนการควบคุมโรคติดต่อได้ถูกนำไปใช้ในทุกระดับหรือไม่
  • ศูนย์การแพทย์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • คลินิคชุมชน
  • สถานีอนามัย
  • โรงพยาบาล
  • สถานดูแลผู้ป่วยระยะยาว
  • การเผาหรือฝังศพ
ปรับแผนควบคุมการระบาดเป็นส่วนหนึ่งของแผนในการป้องกันการระบาดใหญ่
ตรวจสอบความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ
ให้การศึกษาและอบรมเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ทุกระดับ
ตรวจอุปกรณ์สำหรับป้องกันการติดเชื้อรวมทั้งปริมาณให้มีอย่างเพียงพอ

4. Preventing spread of the disease in the community

4.1 Public health measures

หลักการ

ในช่วงการระบาดใหญ่ยังไม่มีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและปริมาณอย่างเพียงพอ รวมทั้งยาต้านไวรัส การป้องกันการกระจายของโรคจึงเป็นวิธีที่จะชลอการแพร่กระจาย แต่การกระทำดังกล่าวอาจจะกระทบต่อสิทธิส่วนบุคคล กระทบต่อความเป็นอยู่ การกระทำดังกล่าวบางครั้งก็ขาดเหตุผลทางวิชาการรองรับ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องให้การศึกษา รวมทั้งการตัดสินใจอย่างโปร่งใส

คำถาม

ประชาชนรู้วิธีป้องกันตัวเองจากโรคหรือไม่ และรู้วิธีลดการแพร่ระบาดของเชื้อหรือไม่ การลดการแพร่ระบาดโดยการกักกัน หรืออย่างกระทำโดยสมัครใจหรือมาตราการทางกฎหมาย มีเกณฑ์ในการให้หยุดเรียนหรือหยุดงานหรือไม่ มีการประชาสัมพันธ์ถึงมาตราการต่างๆหรือไม่

ผู้บริหารทั้งท้องถิ่นและรัฐบาลกลางต้องตรวจสอบว่ามาตราการดังกล่าวขัดกับกฎหมายหรือไม่
ผู้ที่ได้รับผลจากมาตราการดังกล่าวจะต้องได้รับคำชี้แจงถึงความจำเป็นและผลที่คาดว่าจะ ได้รับจากมาตราการดังกล่าว
ตรวจสอบมาตราการดังกล่าวมีความสอดคล้องกับมาตราการที่องค์การอนามัยโลกได้แนะนำไว้หรือไม่
4.1.1 สุขอนามัยส่วนบุคคล General personal hygiene
สอนประชาชนเกี่ยวกับสุขอนามัยส่วนบุคคลในการป้องกันโรคติดต่อทางเดินหายใจ
จัดทำแหล่งข้อมูลให้ผู้ป่วยหรือคนทั่วไปสามารถค้นหาข้อมูล
4.1.2 การควบคุมโรคระบาดในชุมชน Community infection-control measures
ให้ปฏิบัติแนวทางควบคุมโรคตามที่กระทรวงเกษตรแนะนำก่อนการระบาดในคน
ป้องกันการติดไข้หวัดนกในกลุ่มเสี่ยง(คนเลี้ยงไก่ คนฆ่าไก่ เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์)โดย
  • ให้ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ เพื่อป้องกันเชื้อกลายพันธ์
  • ให้ยาต้านไวรัสแก่ประชาชนที่สัมผัสไก่ที่เป็นโรค(ถ้ามียาเพียงพอ)
มีมาตราการควบคุมโรคระบาดในชุมชนที่คนอยู่รวมกันเช่น สถานเลี้ยงเด็ก ที่พักคนชรา คุก ทหาร
4.1.3 การกักกันหรือการควบคุม Social distancing and quarantine
ตั้งเกณฑ์ในการปิดหรือเปิดสถานศึกษา
หาวิธีการลดการรวมกันของคน เช่น ปิดโรงภาพยนตร์ งดจัดเลี้ยง งดการประชุม
มีเกณฑ์ในการตรวจสอบผู้สัมผัสโรค และเกณฑ์ในการควบคุมผู้สัมผัสโรค
  • มีสถานที่สำหรับควบคุมหรือกักตัวผู้สัมผัสโรค
  • สถานที่ดังกล่าวต้องให้มีบริการทางการแพทย์ อาหาร และการให้คำปรึกษา
  • มีระบบขนส่งที่เพียงพอและมีประสิทธิภาพ ส่งผู้ป่วยไปรักษายังโรงพยาบาลศูนย์ หรือไปฝัง
4.1.4 การจำกัดการท่องเที่ยวTravel and trade restrictions
ได้ประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศ และการท่องเที่ยวถึงความจำเป็นในการจำกัดการท่องเที่ยวและการค้า
สายการบินรู้แนวทางปฏิบัติเมื่อเกิดการระบาดในระยะต่างๆ

4.2 การให้วัคซีนVaccine programmes

4.2.1 การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ Routine vaccine programmes

หลักการ

การให้วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่จะสามารถลดอัตราการเจ็บป่วยและอัตราการเสียชีวิต แต่การให้วัคซีนก็มีข้อจำกัดในเรื่องปริมาณการผลิตและโครงสร้างของระบบสาธารณสุขของแต่ละประเทศ

คำถาม

ประเทศมีทรัพยากรเพียงพอที่จะฉีดวัคซีนให้กับคนในประเทศ

สำหรับประเทศที่ไม่มีโครงการฉีดวัคซีนประจำปี

ให้สำรวจคนป่วยเป็นดรคไข้หวัดใหญ่ อัตราการเสียชีวิต การต้องนอนโรงพยาบาล เพื่อพิจารณาความคุ้มค่าของการฉีดวัคซีนโดยดูจากความสูญเสียที่เกิดจาก
  • อัตราการป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่แยกตามอายุ
  • อัตราการนอนโรงพยาบาลแยกตามอายุ
  • อัตราการเสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่

สำหรับประเทศที่ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่

กำหนดกลุ่มเป้าหมายในการให้วัคซีน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง
จัดหาวัคซีนอย่างเพียงพอ
กระจายวัคซีนไปยังกลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถึง
ขยายกลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้น
ติดตามผลข้างเคียงของวัคซีน และครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย
4.2.2 การฉีดวัคซีนสำหรับเชื้อที่เป็นสาเหตุของการระบาด Pandemic strain influenza vaccine programme

หลักการ

หลังจากการระบาดแล้วประมาณ 5-6 เดือนจึงจะมีการผลิตวัคซีน ซึ่งช่วงแรกยังไม่เพียงพอ เมื่อเกิดการระบาดทุกประเทศต้องรีบเร่งผลิตให้มากที่สุด สำหรับประเทศที่ผลิตวัคซีนไม่ได้ต้องเตรียมโปรแกรมสำหรับการฉีด เมื่อวัคซีนมาถึงจะได้ฉีดทันที

สำหรับประเทศที่สามารถผลิตวัคซีนได้ ต้องกำหนดระยะเวลาการผลิตวัคซีนให้เพียงพอ
สำหรับประเทศที่ไม่ได้ผลิต ต้องหาแหล่งจัดซื้อวัคซีน หรือต้องใช้วิธีอื่นป้องกันการระบาดก่อน
ให้จัดลำดับความสำคัญก่อนหลังในการให้วัคซีน เช่น คนทำลายไก่ ผู้เลี้ยงสัตว์ เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่บริการที่สำคัญ
จัดลำดับความสำคัญก่อนหลังสำหรับผู้ที่ชำระเงินเพื่อซื้อวัคซีน
ให้วัคซีนแก้ไข้หวัดนกแก่บุคคลที่มีความจำเป็นก่อนได้แก่ เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่บริการที่จำเป็น
จัดทำแผนฉุกเฉินการเก็บ การกระจาย และการฉีดวัคซีน
  • วางแผนการฉีดวัคซีนแก่กลุ่มประชากร
  • กลวิธีในการกระจายวัคซีนให้แก่กลุ่มเสี่ยงก่อน
  • ความปลอดภัยในการนำส่ง การเก็บวัคซีน
มีการบันทึกผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน
ร่วมมือกับท้องถิ่นในการกระจายวัคซีน
มีการเฝ้าระวังผลข้างเคียงของวัคซีน
มีการประเมินว่าการฉีดวัคซีนได้ผลหรือไม่

4.3 Antiviral use as a prevention method

หลักการ

การใช้ยาต้านไวรัสสามารถใช้ได้ทั้งการรักษาและการป้องกันการติดเชื้อ ยาต้านไวรัสจะลดการแพร่เชื้อโรคในผู้ป่วยที่ติดเชื้อ

คำถาม

ประเทศมียาต้านไวรัสเพียงพอหรือไม่ และจะใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร

ให้เขียนนโยบายการใช้ยาต้านไวรัสในภาวะที่ยังไม่มีการระบาดใหญ่และในภาวะที่มีการระบาด ซึ่งครอบคลุมทั้การรักษาและการป้องกัน
มีกลไกจัดหายาต้านไวรัสให้มีใช้อย่างเพียงพอ
มีวิธีการกระจายยาอย่างทั่วถึงกลุ่มเป้าหมาย
ติดตามผลข้างเคียงของยา และการดื้อยา

5. การดำรงการให้การบริการที่จำเป็น Maintaining essential services

5.1การบริการทางการแพทย์ Health services

หลักการ

การที่ระบบสาธารณสุขยังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยลดความสูญเสียเมื่อเกิดการระบาด ดังนั้นจะต้องเตรียมแผนฉุกเฉินเตรียมไว้

คำถาม

เมื่อเกิดการระบาดมีผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขอย่างไร มีการเตรียมแผนฉุกเฉินเมื่อเกิดภาวะขาดคนหรือไม่ หากเตียงไม่พอจะทำอย่างไร การควบคุมการติดเชื้อทำได้อย่างไร

การตรวจสอบ

จะต้องเตรียมคนหากเกิดการขาดแคลนเจ้าหน้าที่เนื่องป่วย คนอาจจะมาจากอาษาสมัครหรือองกรการกุศล

5.1.1 ความพร้อมของสถานบริการ Health service facilities
ได้มีการแบ่งโรงพยาบาลออกเป็นระดับ เช่นบางโรงใช้สำหรับกักกันผู้ที่สัมผัส บางโรงรักษาผู้ป่วยที่มีอาการเบา บางโรงรักษาผู้ที่มีอาการหนัก รวมทั้งห้องicu
ร่างรายละเอียดว่าโรงพยาบาลแต่ละแห่งจะมีบทบาทหน้าที่อย่างไร รักษาผู้ป่วยประเภทไหน
จะต้องมีศูนย์ลงทะเบียนผู้ป่วย รวมทั้งการบริหารเตียง การขนส่งและรายละเอียดว่าผู้ป่วยประเภทไหนจะนอนโรงพยาบาลไหน
หากเตียงเต็มต้องเตรียมแหล่งอื่น เช่นโรงเรียน โรงยิม
มีความร่วมมือกันระหว่างท้องถิ่นและส่วนกลางเพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายคนจากส่วนท้องถิ่นมายังส่วนกลาง
5.1.2 การเตรียมความพร้อมเรื่องคน Health service personnel
จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในแต่ระดับให้เพียงพอ
เตรียมเสริมบุคลากร เช่นคนที่เกษียร
มอบหมายหน้าทพิเศษี่ให้กับอาสาสมัคร หน้าที่ดังกล่าวต้องได้รับความเห็นชอบจากองคกรวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง
ติดต่อองค์กรการกุศลที่สามารถหาอาสาสมัครเพื่อปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมาย
จัดการฝึกอบรมคนเหล้านั้น พร้อมทั้งการขอใบอนุญาต
ให้คำปรึกษาทางจิตแก่ผู้ที่ปฏิบัติงานเนื่องจากต้องสัมผัสเชื้อโรคชนิดใหม่
5.1.3การสำรองอุปกรณ์ทางการแพทย์ Health service supplies
สำรวจอุปกรณ์ทางการแพทย์ น้ำเกลือ ยา และอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลให้มีอย่างเพียงพอ และสามารถจัดหาแหล่งสำรองจากแหล่งอื่นเมื่อยามขาดแคลน
ให้จัดหายาปฏิชีวนะที่คาดว่าจะใช้ให้มีอย่างเพียงพอ และหาแหล่งสำรองเมื่อยาขาด
จัดหาอุปกรณ์สำหรับสถาพยาบาลสำรอง
วางแผนการกระจายยาและเวชภัณฑ์
5.1.4 เมื่อมีผู้เสียชีวิตมาก Excess mortality
พิจารณาถึงความสามารถของวัดในการเผาศพ
เตรียมที่เก็บศพก่อนนำไปฝัง
เตรียมวิธีการจัดการเกี่ยวกับศพโดยที่ไม่ขัดกับศาสนาและวัฒนธรรม

5.2 การบริการสาธารณที่จำเป็น Other essential services

หลักการ

การบริการสาธารณที่จำเป็นเช่น ไฟฟ้า ประปา ขนส่ง การสื่อสาร เพราะหากขาดการบริการเหล่านี้ คนจะไม่สามารถดำรงชีวิตอย่างปกติสุข

ให้แจ้งข้อดีและข้อเสียของการประกาศแผนฉุกเฉิน
กำหนดให้หน่วยงานเช่นสำนักนายกมีหน้าที่ทำให้บริการสาธารณสามารถดำเนินงานอย่งต่อเนื่อง
ให้เรียงลำดับความสำคัญของหน่วยงานบริการ เพื่อจัดลำดับการให้วัคซีนหรือการให้ยาป้องกันไข้หวัดนก
จัดหากำลังสำรอง หากคนในหน่วยบริการเกิดการเจ็บป่วย ซึ่งอาจจะเป็นทหาร หรือพวกเกษียร
ให้แต่ละหน่วยบริการจัดทำแผนฉุกเฉินหากเกิดการระบาดของไข้หวัดนก
จัดการอบรมเจ้หน้าที่เพื่อจะไปปฏิบัติงาน

5.3 Recovery

หลักการ

หลังจากการระบาดจะต้องมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องฟื้ฟูด้านจิตใจ และทางเศรษฐกิจ

คำถาม

มีแผนฟื้นฟูทางเศรษฐกิจหรือยัง การบริการสาธารณะมีแผนฉุกเฉินและแผนฟื้นฟูหรือยัง ใครเป็นผู้มีหน้าที่ฟื้นฟูทางด้านจิตใจ และสังคม มีกลไกที่จะช่วยเหลือทางด้านเศรษฐกิจ

ให้หน่วยงานบริการสาธารณะที่จำเป็น เช่นไฟฟ้า ประปา ทำแผนฟื้นฟู
กำหนดหน่วยงานที่จะฟื้นฟูด้านจิตใจ ทางด้านสังคมและเศรษฐกิจ
รัฐกำหนดเกณฑ์การช่วยเหลือ

6. Research and evaluation

หลักการ

การวิจัยจะทำให้เราและโลกรู้จักโรคดีขึ้น และสามารถดำเนินมาตราการป้องกันการแพร่ระบาด

ต้องศึกษาตัวเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของการระบาด
หากมีการใช้ยาต้านไวรัส ต้องมีการติดตามตัวเชื้อว่ามีการดื้อยาหรือไม่
หากมีการใช้วัคซีนต้องมีการเก็บข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ถึงประสิทธิภาพของวัคซีน
เมื่อเชื้อยังระบาดในสัตว์ ต้องศึกว่าวิธีการติดต่อจากสัตว์สู่คนและจากคนสู่คน เพื่อวางแผนป้องกันการระบาด
เมื่อเกิดการระบาดต้องวิจัยถึงผลกระทบต่อสังคม ความเป็นอยู่ เศรษฐกิจ
  • ผลกระทบของการระบาดต่อการเสียชีวิต และคนต้องเข้าโรงพยาบาล
  • ประสิทธิภายของมาตราการทางการแพทย์ในการยับยั้งการระบาด
  • ประสิมธิภาพของวัคซีน
  • ประสิทธิภาพของยาป้องกันไวรัส
  • ผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจ