ยารักษาเชื้อราคีโตโคนาโซล Ketoconazole
ยาคีโตโคนาโซล เป็นยาต้านเชื้อราที่มีประสิทธิภาพสูง มีทั้งรูปแบบยาเม็ด ยาทา และแชมพู ใช้รักษาโรคติดเชื้อราที่หลากหลายชนิด เช่น
- กลาก เช่น กลากเกลื้อน กลากแดด กลากขาหนีบ
- รังแค
- เชื้อราในช่องปาก
- เชื้อราในช่องคลอด
- เชื้อราที่ผิวหนัง เช่น โรคเท้าฮ่องกง
- การติดเชื้อราในระบบทางเดินปัสสาวะ
- เชื้อราในเลือด
กลไกการออกฤทธิ์
ยาคีโตโคนาโซลออกฤทธิ์โดยยับยั้งการสังเคราะห์เออร์กอสเตอรอล ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์เชื้อรา ส่งผลทำให้เชื้อราเจริญเติบโตช้าลงและตายในที่สุด
วิธีใช้ยา
- ยาเม็ด: ควรทานยานี้พร้อมอาหาร เพื่อเพิ่มการดูดซึม ยาเม็ดมักมีขนาด 200 มิลลิกรัม ทานวันละ 1-2 ครั้ง ขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของการติดเชื้อ
- ยาทา: ทายาบริเวณที่ติดเชื้อ วันละ 1-2 ครั้ง
- แชมพู: สระผมด้วยแชมพู 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ทิ้งไว้ 5 นาทีแล้วล้างออก
ผลข้างเคียง
ยาคีโตโคนาโซลโดยทั่วไปมีความปลอดภัย แต่สามารถพบผลข้างเคียงได้ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย มึนงง คัน
ข้อควรระวัง
- ห้ามใช้ยาในผู้ที่มีภาวะตับทำงานผิดปกติ
- ห้ามใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ควรแจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาอื่นๆ ที่รับประทานอยู่ เพราะอาจมีปฏิกิริยากับยาคีโตโคนาโซล
การเก็บรักษา
เก็บยาที่อุณหภูมิห้อง ปิดฝาขวดให้มิดชิด เก็บให้พ้นมือเด็ก
เป็นยาเม็ดขนาด 200 มิลิกรัม ในผู้ใหญ่จะใช้วันละ 200 มิลิกรัมถ้าหากตอบสนองไม่ดีอาจจะเพิ่มขนาดยาได้เป็น
400-600 มิลิกรัมต่อวัน สำหรับเชื้อราที่ช่องคลอด vaginal candiasis จะเริ่มต้นด้วยขนาด
200 มิลิกรัมวันละ 2 ครั้งเป็นเวลา 5 วัน ระยะเวลาที่ให้ยาขึ้นกับชนิดของการติดเชื้อ
ข้อบ่งชี้ในการใช้ยาKetoconazole
- ใช้ยาเม็ดในการรักษาเชื้อราที่ศีรษะ ผิวหนัง เล็บ กลากเกลื้อน
- ราที่เกิดในทางเดินอาหาร
- ตกขาวจากเชื้อรา
- ใช้ป้องกันการติดเชื้อราในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง
ข้อบ่งชี้ในการใช้ครีมKetoconazole
- ใช้ทารักษากลาก
- ใช้ทารักษาเกลื้อน
- ใช้ทารักษาสังคัง
- ใช้ทารักษาเชื้อรา
ข้อบ่งชี้ในการใช้แชมพูKetoconazole
- ใช้รักษาอาการคันเนื่องจากโรค seborrheic dermatitis
- ใช้รักษารังแค
- ใช้รักษาเกลื้อน
ระยะเวลาในการให้ยาKetoconazole
ชนิดของการติดเชื้อ |
ระยะเวลาการใช้ยา |
การติดเชื้อราที่ผิวหนัง |
|
เชื้อราที่แขนขา |
4-8 สัปดาห์ |
เชื้อราที่ผมและหนังศีรษะ |
4-8 สัปดาห์ |
เกลื้อน tenea vesicolor |
3-6 สัปดาห์ |
เชื้อราในปาก thrush |
1-2 สัปดาห์ |
เชื้อราในช่องคลอด |
5 วัน |
เชื้อราที่เล็บ |
6-12 เดือน |
การติดเชื้อราชั้นลึก Deep mycoses |
|
systemic candiasis |
2-4 สัปดาห์ |
candiuria |
2-4สัปดาห |
Histoplasmosis |
2-4 เดือน |
coccidioidomycosis |
มากกว่า 6 สัปดาห์ |
Chromomycosis |
มากกว่า 6 เดือน |
การให้ยาในเด็กหรือผู้ที่มีน้ำหนักตัวน้อย
ผู้ที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 15 กิโลกรัมให้ยา 20 มิลิกรัมวันละ 3 ครั้ง
น้ำหนัก 15-30 กิโลกรัมให้วันละ 100 มิลิกรัมวันละครั้ง
น้ำหนักมากกว่า 30 กิโลกรัมให้ยาวันละ 200 มิลิกรัมวันละครั้ง
ควรจะรับประทานยาพร้อมอาหาร
ผลข้างเคียงของยาKetoconazole
อาการข้างเคียงที่พบบ่อยได้อาการทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้องท้องเสีย
อาการคันหรือมีผื่นที่ผิวหนัง บางคนอาจจะนอนไม่หลับ อาการเหล่านี้พบได้ร้อยละ
1-3 บางคนเกิดอาการเจ็บนมและนมโตขึ้นที่เรียกว่า gynecomastia เกิด 2-3
สัปดาห์หลังรับประทานอาหารเมื่อหยุดยาอาการจะหายไป นอกจากนั้นยังทำให้เกิดการอักเสบของตับ
เมื่อหยุดใช้ยาจะกลับสู่ปกติ
ข้อควรระวังและข้อห้ามในการใช้ยาKetoconazole
- หากต้องใช้ยาระยะยาวหรือผู้ที่มีโรคตับต้องตรวจการทำงานของตับเป็นระยะ
และหากมีอาการตัวเหลืองตาเหลือง หรือคลื่นไส้อาเจียนให้แจ้งแพทย์
- หากต้องใช้ยาชนิดอื่นต้องแจ้งแพทย์ โดยเฉพาะยาแก้โรคกระเพาะอาหาร
เช่น cimetidine ranitidine
- ไม่ควรใช้ในคนท้องหรือให้นมเด็ก
ข้อแนะนำสำหรับผู้ป่วย
- ยานี้จะให้ได้ผลต้องรับประทานยาอย่างต่อเนื่องห้ามหยุดยาด้วยตัวเอง
- ควรจะรับประทานยาเวลาเดียวกันทุกวัน และไม่ควรลืมยา
- เมื่อลืมรับประทานยา ให้รับประทานยาทันทีที่นึกได้ และหากใกล้ยามื้อต่อไปก็ให้เลื่อนยามื้อต่อไป
- ควรรับประทานยาพร้อมอาหาร
- หากใช้ยาไปแล้ว 2 สัปดาห์ให้ปรึกษาแพทย์
- ควรสวมแว่นกันแดดและหลีกเลี่ยงแสง เนื่องอาจจะมีการแพ้ยา
- อาจจะมีอาการง่วงหรือซึม
- เนื่องยาจะทำให้ตับอักเสบดังนั้นต้องสังเกตอาการอ่อนเพลีย ปัสสาวะเข็ม
ตัวเหลืองตาเหลือง
- ควรจะมีการเจาะเลือดเพื่อตรวจการทำงานของตับหลังจากใช้ยา 2 สัปดาห์
- หากเคยใช้ยา griseofluvin ต้องหยุดยาอย่างน้อย 1 เดือนจึงจะเริ่มใช้
ketoconazole
ผู้ที่เสี่ยงต่อการแพ้ยา
- ผู้หญิงอายุมากกว่า 52 ปี
- เคยได้รับการรักษาเชื้อราด้วยยา griseofluvin
- มีประวัติโรคตับ
- ใช้ยานี้ร่าวกับยาที่มีพิษต่อตับ
การใช้ยาในคนท้อง
- ไม่ควรใช้ยานี้ในคนท้อง หากจะใช้ต้องมีความจำเป็นจริงๆ
- สำหรับยาทาใช้ในคนท้องได้เนื่องจากยานี้ไม่ถูกดูดซึม
การทำปฏิกิริยากับยาชนิดอื่น
- ยานี้ควรจะรับประทานขณะรับประทานอาหารเพื่อให้ยาดูดซึมดีขึ้น
- ยาลดกรดจะลดการดูดซึมของยานี้ ดังนั้นไม่ควรจะรับประทานยาลดกรด หากจำเป็นต้องรับประทานยาลดกรดให้รับประทานยาลดกรดหลังจากรับประทานketoconazole
ไปแล้ว 2 ชั่วโมง
- ไม่ควรได้รับยานี้ร่วมกับ rifampicine เพราะระดับยา ketoconazole
จะมีระดับยาลดลง
- ไม่ควรได้รับยานี้ร่วมกับยาละลายลิ่มเลือด
การติดเชื้อรา เชื้อราที่หนังศีรษะ เชื้อราตามลำตัว สังคัง เชื้อราที่เล็บ เชื้อราที่หน้า เชื้อราในปาก ฮ่องกงฟุต เกลื้อน ยารักษาเชื้อรา
ทบทวนวันที่
โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว