การป้องกันแผลเป็น
การป้องกันแผลเป็นจะต้องเริ่มต้นจากการทำความสะอาดแผล การป้องกันโรคติดเชื้อ ไม่แกะสะเก็ดแผล
การป้องกันไม่ให้เป็นแผลเป็น
หากท่านได้รับบาดแผลจากการหกล้ม หรือถูกมีดมาด แผลน้ำร้อนลวก ไฟลวก หากท่านดูแลไม่ถูกต้องก็อาจจะทำให้แผลเป็นมีขนาดใหญ่ ข้อแนะนำนี้จะเป็นวิธีการที่ลดขนาดของแผลเป็น
- ล้างแผลให้สะอาดด้วยน้ำเปล่า และทำความสะอาดเอาสิ่งสกปรกออกจากแผล หากมีอุปกรณ์เช่นคีมคีบต้องทำความสะอาดด้วยalcohol หากไม่มีอุปกรณ์ต้องฟอกมือให้สะอาดด้วยสบู่ และหยิบเอาสิ่งสกปรกออก สำหรับขอบแผลให้ใช้สำลี หรือผ้าสะอาดชุบสบู่ทำความสะอาดขอบแผล ไม่ควรใช้สารที่ระคายเคืองต่อแผล เช่น สบู่ที่เป็นด่างมาก Hydrogen peroxide,iodine ,alcohol เพราะสารเหล่านี้จะทำให้แผลหายช้า
- ใช้ผ้าก๊อซสะอาดปิดแผลเพื่อป้องกันเชื้อโรค การเสียดสีของเสื้อผ้า
- อย่าแกะสะเก็ด เมื่อแผลเริ่มหาย เม็ดเลือดขาวจะทำลายเชื้อโรค มีเม็ดเลือดแดง เกล็ดเลือด น้ำเหลืองมาปิดปากแผล หากเราแกะสะเก็ดออกจะทำให้แผลเปิดเชื้อโรคจะลุกลาม
เมื่อทำดีแล้วทำไมยังเกิดแผลเป็น
แม้ว่าคุณจะทำแผลได้ดีแล้ว และแผลไม่ลึกก็ยังเกิดแผลเป็นได้ทั้งนี้เนื่องจาก คนบางคนจะเกิดแผลเป็นได้ง่าย และบางตำแหน่งที่ที่เกิดแผลได้ง่าย เช่น ลำตัว หลัง ไหล่ เพราะเป็นบริเวณที่มีแรงตึงผิวสูง และเมื่อเกิดแผลเป็นเรียก kelloid
การป้องกันแผลเป็น
ควรจะปรึกษาแพทย์ในกรณีดังต่อไปนี้
- แผลเลือดออกไม่หยุดแม้ว่าจะกดแผลแล้วเป็นเวลานาน 10 นาที
- แผลลึกหรือยาวเกินกว่าครึ่งนิ้ว
- แผลใกล้ตาหรืออยู่บริเวณใบหน้า
- แผลสกปรก
- แผลรุ่งริ่ง
- คนหรือสัตว์กัด
- ปวดแผลมาก หรือแผลมีบวมแดงร้อนซึ่งหมายถึงมีการติดเชื้อ
การรักษาอะไรบ้างที่ได้ผลและไม่ได้ผล
- การใช้ครีมกันแสง UVA,UVB ที่มีค่ากรองแสงมากกว่า 30 สามารถลดการเกิดแผลเป็นและทำให้สีจางลง
- ครีมที่ประกอบด้วยวิตามินอี ยังไม่มีหลักฐานว่าได้ผล
- การฉีดไขมันและcollagenไม่ได้ช่วย
- การฉีดsteroid จะต้องฉีดในระยะยาว
- dermabrasion หากใช้ microdermabration จะช่วยขัดผิวที่นูนออก
- การใช้ laser ซึ่งสามารถลอกผิวออก หรือลด collagen โดยไม่ต้องเปิดผิว