Apixaban
เป็นยาที่ละลายลิมเลือดมีโรคหลายโรคที่เกิดจากลิ่มเลือดอุดหลอดเลือดทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะส่วนปลายไม่ได้ อวัยวะส่วนปลายนั้นก็จะตาย ยาละลายลิ่มเลือดจะเป็นตัวละลายลิ่มเลือดเพื่อให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะได้เราใช้ยาละลายลิ่มเลือดในการรักษาโรคดังต่อไปนี้
ใช้รักษาโรคที่เกิดลิ่มเอือดอุดหลอดเลือด
-
โรคสมองขาดเลือด ให้ยาเพื่อป้องกันการเกิดลิ่มเลือดในผู้ป่วยที่มีหัวใจเต้นสั่นพริ้ว ซึ่งมีความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้แก่
- เคยเป็นโรคหลอดเลือดสมองมาก่อน
- อายุมากกว่า 75 ปี
- ความดันโลหิตสูง
- เป็นโรคเบาหวาน
- มีอาการของโรคหัวใจ
หากท่านมีปัจจัยเซียนมากกว่าหนึ่งข้อต้องได้รับยาละลายลิมเลือด
-
โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายจะขาดเลือด
-
โรคลิ่มเลือดอุดหลอดเลือดที่ขาหรือโรคชั้นประหยัด
-
โรคลิ่มเลือดอุดที่ปอด
ใช้ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดหลอดเลือดได้แก่
วิธีการใช้ยา Apixaban
-
ยาชนิดนี้ให้รับประทานวันละสองครั้ง
-
อาจจะรับประทานพร้อมอาหารหรือหลังอาหารก็ได้
-
ผลข้างเคียงของยาที่สำคัญคือเลือดออกง่ายกว่าปกติเช่นมีเลือดออกทางจมูก ประจำเดือนมามากกว่าผิดปกติ เลือดออกตามไรฟัน อาการเลือดออกมักจะเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์แรกแรกของการใช้ยา
-
ที่สำคัญคุณควรมีบัตรพกติดตัวว่าได้กินยาละลายลิมเลือดเพื่อที่คุณจะแสดงให้กับทันตแพทย์และแพทย์
ข้อควรระวังก่อนการใช้ยา
หากท่านเป็นโรคหัวใจเต้นพริ้ว ซึ่งเป็นโรคที่มีโอกาสเกิดลิ่มเลือดไปอุสหลอดเลือดสมองทำให้เกิดอัมพฤกษ์อัมพาต ท่านจะมีความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมองหักท่านหยุดยาดังนั้นไม่ควรหยุดยาเองหากจำเป็นต้องหยุดแพร่จะใจยาอื่นแทน
-
ท่านจะต้องแจ้งแพทย์และทันตแพทย์เมื่อเข้าไปรักษาโดยเฉพาะการใส่สายเข้าน้ำไขสันหลัง เพราะอาจจะทำให้เกิดอ่อนแรงของขาทั้งสองข้าง
-
เมื่อจะไปพบแพทย์หรือซื้อยาจากร้านขายยาจะต้องแจ้งเภสัชกรให้ทราบว่าท่านรับประทานยานี้
-
ไม่ควรรับประทานยายาแก้ปวดกลุ่ม NSAID ที่ใช้ระยะยาวเพราะจะเสริมฤทธิ์ ทำให้เลือดออกง่ายและ
-
หากมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงเฉพาะบริเวณขามีชาที่เท้าหรือการอุจจาระปัสสาวะไม่ได้ให้แจ้งแพทย์
-
ท่านต้องแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบว่าท่านแพ้ยาอะไรหรือเคยแพ้ยานี้หรือไม่
-
แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชชกรทราบว่าท่านรับประทานยาอะไรบ้างโดยเฉพาะยาดังต่อไปนี้
-
แจ้งให้แพทย์ทราบว่าท่านรับประทานสมุนไพรอะไรบ้าง
-
แจ้งให้แพทย์ทราบว่าอายุมากกว่า 80 ปี หรือน้ำหนักน้อยกว่า 60 กิโลกรัม
-
แจ้งให้แพทย์ทราบว่าท่านเพิ่งได้รับการเจาะหลังเพื่อตรวจวินิจฉัย หรือการวางยาชาผ่านทางช่องไขสันหลัง
-
บอกสมาชิกในครอบครัวให้ทราบว่าท่านรับประทานยานี้อยู่และจะต้องแจ้งให้แพทย์ทราบ
-
แจ้งให้แพทย์ทราบว่าท่านมีโรคประจำตัวอะไรบ้างเช่นโรคตับโรคไต
-
แจ้งให้แพทย์ทราบว่าท่านกำลังวางแผนตั้งครรภ์ กำลังตั้งครรภ์ หรือกำลังเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
-
อย่าทุกชนิดที่ใช้สำหรับรักษาเรื่องลิ่มเลือด
-
อย่าอะไรริมเลือดเช่นแอสไพรินว่าเฟอริน
-
ยาต้านซึมเศร้าเช่นยา carbamazepine
ให้พบแพทย์ทันทีหากมีอาการดังต่อไปนี้
-
มีจำเลือดที่ผิวหนังมีเลือดออกทางจมูกปากช่องคลอดหรือถ่ายแดงเลือดที่ออกจากแผลแล้วไม่หยุด
-
มีประจำเดือนมามากและหลายวันติดต่อกัน
-
มีอาการปวดศีรษะมึนงงอ่อนแรงคล้ายจะเป็นลม
-
ปัสสาวะสีออกแดงน้ำตาล
-
ถ่ายอุจจาระดำเหมือนอย่างมาตอยด์
ใครไม่ควรใช้ยาละลายลิมเลือด Epixaban
-
ผู้ที่มีประวัติแพ้ยานี้
-
ผู้ที่จะตั้งครรภ์หรือวางแผนจะตั้งครรภ์
ผู้ที่มีโรคตับ
-
ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดกระดูกสันหลังหรือผ่าตัดใหญ่
-
ผู้ที่ได้รับยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดเช่นยาวาฟาร์ริน
-
ผู้ได้รับอุบัติเหตุและมีการเสียเลือดเช่นแผล หรือมีแผลที่กระเพาะ
-
ผู้ที่รับประทานยาสมุนไพร
-
ผู้ที่เป็นโรคแอนตี้ฟอร์ดโฟไลท์ปิดซินโรม
วิธีการรับประทานยา Epixaban
-
จะต้องรับประทานยาตามแพทย์สั่ง
-
ยานี้รับประทานวันละสองครั้งและให้รับประทานยาเวลาเดียวกันทุกครั้ง
-
ให้กลืนยาและดื่มน้ำตาม
-
ยานี้อาจจะทานพร้อมอาหารหรือหลังอาหารก็ได้
-
ในกรณีที่ไม่สามารถรับประทานยาเม็ดให้ปรึกษาเภสัชกร หรือแพทย์อาจจะนำยาเม็ดมาบดและผสมด้วยน้ำหรือน้ำผลไม้แล้วกลืนน้ำนั้นลงไป
ขนาดของยาที่รับประทาน
-
สำหรับผู้ที่เป็นหัวใจเต้นสั่นพริ้ว Atrial fibrillation ขนาดของยาที่ให้คือเม็ดละ 5 มิลลิกรัม รับประทานวันละสองครั้งแต่สำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 80 ปีหรือผู้ที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 60 กิโลกรัม หรือผู้ป่วยซึ่งมีโรคไตจะให้ยาขนาดเม็ดละ 2.5 มิลลิกรัมวันละสองครั้ง
-
สำหรับผู้ป่วยซึ่งเกิดลิ่มเลือดภายในระยะเวลาหกเดือนขนาดยาที่ให้คือให้ขนาดเม็ดละ 5 มิลิกรัมรับประทานครั้งละสองเม็ดวันละสองครั้งเป็นเวลาเจ็ดวัน หลังจากนั้นจึงให้รับประทานหนึ่งเม็ดวันละสองครั้ง
-
สำหรับคนที่เสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือด และภายในหกเดือนไม่เคยเกิดลิ่มเลือดจะให้ขนาดยา 2.5 บริกรรมวันละสองครั้ง
-
การให้ยาละลายลิมเลือดในผู้ป่วยที่ผ่าตัดเข่าและสะโพกจะให้ยาขนาดเม็ดละ 2.5 มิลลิกรัม วันละสองครั้งจะให้ยาหลังจากผ่าตัดไปแล้ว 12 ถึง 24 ชั่วโมง
หากลืมรับประทานยา
ให้รีบรับประทานยาเร็วเท่าที่จำได้เว้นแต่ว่าใกล้ถึงเวลาที่จะทานยาเม็ดยาต่อไปไม่จำเป็นต้องรับประทานเพิ่ม
หากรับประทานยามากเกินไป
ให้ปรึกษาเภสัชกรพบว่าการรับประทานยามากเกินไปจะเสี่ยงต่อเลือดออก
จะรับประทานยานี้นานแค่ไหน
การจะรับประทานยานี้นานแค่ไหนขึ้นกับโรคหรือภาวะที่ต้องรับประทานยา
- หากรับประทานยานี้เพื่อป้องกันการเกิดลิ่มเลือดสำหรับผู้ที่เปลี่ยนเข่าจะรับประทานยานี้ 10 ถึง 14 วัน
- หากรับประทานยานี้ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดในผู้ที่เปลี่ยนข้อสะโพกให้รับประทานยานี้ 32 ถึง 38 วัน
- สำหรับผู้ที่มีลิ่มเลือดอุดหลอดเลือดติดเท้า หรือหลอดเลือดปอดแต่ต้องเอาประธานยานี้อย่างน้อยสามเดือนสำหรับ ผู้ที่เป็นหัวใจเต้น ซันอายุอาจจะต้องรับประทานยาตลอดชีวิต
การเปลี่ยนยาจากยาวาฟารินไปสู่ยา Apixaban
หากมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนยาวาฟารีนไปเป็น Apixaban แพทย์ที่รักษาจะแนะนำให้หยุดยาวาฟารีนซักสองสามวันก่อนให้ยา Apixaban ในบางแห่งอาจจะต้องเจาะเลือดดูการแข่งตัวของเลือดเพื่อที่จะกะเวลาที่จะให้ยาApixaban
การเปลี่ยนยา Apixaban ไปสู่ว่าเฟอริน
แต่หากจำเป็นต้องเปลี่ยน Apixaban ไปเป็นวาฟาริน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรับประทานยาทั้งสองร่วมกันซักสองสามวัน หลังจากนั้นแพทย์ก็จะตรวจว่าเลือดมีการแข็งตัวอยู่ในเกณฑ์หรือไม่ เพื่อดูว่ายาว่าวาฟารินออกฤทธิ์หรือยัง หากยาฟารินออกฤทธิ์์ก็สามารถหยุด Apixaban
การจัดการกับภาวะเลือดออกง่ายในขณะรับประทานยา Apixaban
ผู้ที่รับประทานยานี้จะมีปัญหาเรื่องเลือดออกง่ายซึ่งได้แบ่งออกเป็นเป็นกรณีดังนี้
-
ประจำเดือนจะออกมากและนานกว่าคนปกติ ไม่ต้องทำอะไรนอกจากรับประทานธาตุเหล็กเพิ่มเติม
-
เลือดออกจากแผลจะหยุดยากกว่าปกติ ให้กดบริเวณแผลประมาณ 10 นาทีเลือดก็จะหยุด
-
มีเลือดกำเดาไหลนานกว่าปกติ วิธีแก้ไขต้องใจเย็นให้นั่งโน้มตัวมาข้างหน้าเพื่อให้เลื่อนไหลออกทางจมูก หลังจากนั้นใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้บีบที่ปีกจมูกทั้งสองข้างสักพักนึงเลือดก็จะหยุด หากเลือดยังไม่หยุดไอบีสอีกครั้งประมาณอย่างน้อย 5 นาทีหลังจากเลือดหยุดรอซักสอง 3 ชั่วโมงค่อยไปทำอย่างอื่นได้ตามปกติ ให้ไปพบแพทย์หากหากเลือดออกมากกว่า 20 นาทีหรือมีอาการหายใจลำบากหรือในเด็กอายุน้อยกว่าสองขวดหรือเลือดออกทางจมูกบ่อยนะ
-
มีเลือดออกตามร่องเหงือกขณะแปรงฟัน ให้เลือกแปลงที่นุ่มและทำความสะอาดซอกฟันให้ดี
-
และรอยจ้ำเขียวที่ผิวหนังเกิดง่ายและนานกว่าจะจางหาย
หากมีเลือดออกมากตามอาการดังต่อไปนี้ให้ไปพบแพทย์
ผลข้างเคียงของยาApixaban อื่นๆที่อาจจะพบได้
-
มีอาการอ่อนเพลียหายใจเร็วหัวใจเต้นเร็วผิวซีดซึ่งอาจจะเป็นอาการแสดงของโลหิตจาง การแก้ไขให้พบแพทย์
-
เวียนหัวมึนงง
-
มีผื่น การแก้ไขให้รับประทานยาแก้แพ้
-
คลื่นไส้อาเจียน ให้ตัดเรื่องอาหารทานแต่น้อยไม่ทานอาหารรสจัดรบ
อาการแพ้ยาแบบรุนแรงที่จะต้องไปพบแพทย์ได้แก่
จะต้องระวังเมื่อรับประทานยาละลายลิมเลือดร่วมกับยาดังต่อไปนี้
-
อย่าหายละลายลิมเลือดอื่นเช่นว่าเฟอริน
-
ยารักษาเชื้อราและแบคทีเรียเช่นยาคีโตโคนาโซอาริโทรมัยซินอะไรแฟ้มปิ่น
-
อย่ารักษาหัวใจเต้นผิดปกติเช่นนอนดีดาโลนกินไอดินผู้รับเหมาเมล์ยากดภูมิเช่นใส่โค้ดปริญยารักษาโรคลมชักเช่น ค่าบ้านมาสี่ปีรฟีนิกซ์ตัวอินฟิโนบีทายาแก้ปวดต่างๆไม่ควรกินยาละลายลิมเลือดร่วมกับสมุนไพร
จะทำฟันต้องหยุดยา apixaban หรือไม่
- กิจกรรมที่เสี่ยงต่อการมีเลือดออกต่ำเช่น การขูดหินปูน การถอนฟัน การผ่าตัดเล็กน้อย กลุ่มนี้ไม่ต้องหยุดยา หรืออาจจะงดยาในตอนเช้าวันทำฟัน หรือหากกลัวก็หยุดยา 24 ชั่วโมงก่อนทำฟัน และเมื่อทำฟันเสร็จก็ให้ทานยาต่อได้เลย
- สำหรับกิจกรรมที่เสี่ยงต่อเลือดออกมากก็ให้หยุดยา 48 ชั่วโมงก่อนทำการผ่าตัด
- สำหรับผู้ป่วยไตเสื่อมที่มีอัตราการกรองของไตน้อยกว่า 50จะต้องหยุดยา 24 ชั่วโมงก่อนผ่าตัดในกลุ่มที่เสี่ยงต่อเลือดออกต่ำ สำหรับกลุ่มที่เสี่ยงต่อเลือดออกสูงให้หยุดยา 48 ชั่วโมง
- สำหรับผู้ที่มีอัตรากรองน้อยกว่า50 ก็ให้หยุดยา 48 ชั่วโมงก่อนผ่าตัดในผู้ป่วยที่เสี่ยงต่อเลือดออกต่ำ สำหรับผู้ที่เสี่ยงต่อเลือดออกสูงจะต้องหยุดยา 72-96 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด
สอบถามเพิ่มเติม
https://www.nhs.uk/medicines/apixaban/