หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | วัคซีน
การฉีดวัคซีนในผู้ที่ติดเชื้อเอดส์ HIV จะมีความคล้ายคลึงกับคนปกติ แต่ต้องคำนึงถึงประโยชน์ และผลเสียที่จะเกิดเนื่องจากผู้ที่ติดเชื้อเอดส์ HIV จะมีการสร้างภูมิลดลงทำให้ประสิทธิภาพและผลข้างเคียงไม่เหมือนกับคนปกติ
เชื้อ HIV จะอาศัยเซลล์ CD4ในการแบ่งตัว การฉีดวัคซีนจะทำให้เซลล์ CD4มีปริมาณเพิ่มขึ้นทำให้เชื้อ HIV มีการแบ่งตัวมากขึ้น จนถึงปัจจุบันยังไม่มีรายงานถึงผลของการฉีดวัคซีนต่อการแบ่งตัวของไวรัส แนะนำว่าควรที่จะได้รับยาต้านไวรัส HIV ระหว่างที่ฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสแบ่งตัว นอกจากนั้นยังมีรายงานถึงผลเสียของการฉีดวัคซีนจากเชื้อที่ทำให้อ่อนแรงattenuated virus vaccinesว่ามีการแพร่กระจายของเชื้อโรคโดยเฉพาะการให้วัคซีน BCG และ Smallpox vaccination ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้วัคซีนสองชนิดนี้แก่ผู้ป่วย
ผู้ที่ติดเชื้อ HIV จะมีอุบัติการณ์การติดเชื้อปอดบวมสูงกว่าคนปกติ 300 เท่า ดังนั้นจึงแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันปอดอักเสบแต่มีข้อต้องพิจารณาเพราะการฉีดวัคซีนให้ผู้ที่ติดเชื้อ HIV จะมีการสร้างภูมิน้อยกว่าปกติเวลาที่เหมาะสมในการฉีดคือเซลล์ CD4มากกว่า500จะมีการสร้างภูมิคุ้มกันสูง มีรายงานว่าแม้ว่าการสร้างภูมิจะไม่เต็มที่แต่ก็สามารถลดอัตราการตายลงได้ร้อยละ 8
การติดต่อของเชื้อ HIV และไวรัสตับอักเสบ บีจะเหมือนกันดังนั้นผู้ที่ติดเชื้อ HIV จะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี และนอกจากนั้นผู้ที่ติดเชื้อ HIV ที่มีไวรัสตับอักเสย บีจะเกิดโรคตับอักเสบเรื้อรังได้มากกว่าคนปกติ มีรายงานว่าเมื่อฉีดวัคซีนแล้วผู้ป่วยร้อยละ75 จะมีภูมิขึ้นจึงแนะนำให้ฉีดวัคซีน
เนื่องชายรักร่วมเพศและผู้ที่ติดยาเสพติดจะมีอัตราการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ เอ สูงกว่าคนปกติจึงแนะนำให้กลุ่มคนเหล่านี้ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัวตับอักเสบ เอ
แม้ว่าจะไม่มีรายงานว่าเชื้อไวรัสไขหวัดใหญ่จะก่อให้เกิดอัตราการตายเพิ่มขึ้นในผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV แต่ผู้เชี่ยวชาญก็แนะนำให้ฉีดด้วยเหตุผลสองประการคือ หนึ่งการป้องกันไขหวัดใหญ่จะป้องกันโรคแทรกซ้อนเช่นปอดบวมได้ สอง อาการของไข้หวัดใหญ่จะเหมือนกับอาการของการติดเชื้อฉวยโอกาสทำให้มีปัญหาในการวินิจฉัย นอกจากนั้นจากการศึกษาพบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่มีภูมิขึ้นหลังจากได้รับวัคซีน