ยาลดกรดยูริก Allopurinol

ยา Allopurinol เป็นยาที่ใช้รักษาภาวะกรดยูริกสูง และนิ่วในไต นอกจากนั้นยังป้องกันการเพิ่มของกรดยูริกในผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัด ยานี้จะลดการสร้างกรดยูริกในร่างกาย

วิธีการใช้ยา Allopurinol

  • ให้รับประทานหลังอาหารทันทีเพื่อลดอาการเสียดท้อง
  • หากรับประทานมากกว่าวันละ 300 มก ก็ให้แบ่งรับประทานยาวันละหลายครั้ง
  • ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
  • โดยทั่วไปแพทย์จะเริ่มให้ยาขนาดต่ำก่อนแล้วดูการตอบสนองของยา
  • ยานี้จะรับวันละครั้ง หรือสองครั้ง ห้ามรับประทานยาเกินแพทย์สั่ง
  • หากลืมยาไม่จำเป็นต้องรับประทาน2เท่าในมื้อต่อไป
  • เมื่อรับประทานยานี้ไปหลายเดือนจึงจะเกิดผล
  • ในช่วงเริ่มต้นของการรับยา อาการของโรคเกาต์อาจจะกำเริบ ต้องให้ยา colchicine ป้องกันอาการปวดข้อ

จะต้องแจ้งแพทย์เรื่องอะไรบ้างก่อนการใช้ยา Allopurinol

เนื่องจากยานี้อาจจะทำให้เกิดอาการแพ้ที่รุนแรง และยานี้มีปฏิกิริยากับยาอื่นได้ง่ายดังนั้นจะต้องแจ้งข้อมูลให้แก่แพทย์มากที่สุด

ข้อมูลที่ควรแจ้งได้แก่

  • หากท่านเคยแพ้ยา Allopurinol มาก่อน
  • จะต้องแจ้งชื่อยาที่รับประทานเอง สมุนไพร
  • หากท่านรับประทานยาดังต่อไปนี้ต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบ
    • ยาปฏิชีวนะได้แก่ amoxicillin ampicillin
    • ยาต้านการแข็งตัวของเลือด warfarin
    • ยาเคมีบำบัด เช่น cyclophosphamide (Cytoxan) และ mercaptopurine (Purinethol)
    • ยารักษาเบาหวาน chlorpropamide tolbutamide
    • ยาขับปัสสาวะ
    • ยากดภูมิเช่น azathioprine (Imuran) และ cyclosporine
    • ยาลดกรดยูริกเช่น probenecid และ sulfinpyrazone
  • หากท่านเป็นโรคประจำตัวเช่นโรคไต โรคตับ หรือโรคหัวใจ ต้องแจ้งแพทย์
  • หากตั้งครรภ์หรือวางแผนจะตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตรต้องแจ้งให้แพทย์ทราบ
  • ยานี้อาจจะทำให้ง่วงดังนั้นไม่ควรขับรถหรือทำงานกับเครื่องจักร
  • ไม่ควรดื่มสุราระหว่างรับประทานยานี้
  • ให้ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว นอกมีข้อห้ามดื่ม

ผลข้างเคียงของยา

ผลข้างเคียงของยาที่รุนแรงซึ่งพบไม่บ่อย หากมีอาการดังต่อไปนี้ให้หยุดยาและพบแพทย์

  • มีผื่น
  • ปัสสาวะเสบขัด
  • ปัสสาวะเป็นเลือด
  • หนังตา ริมฝีปากบวม
  • ไข้สูง หนาวสั่น เจ็บคอ
  • เบื่ออาหาร
  • น้ำหนักลด
  • คันตามตัว

อาการแพ้ยาที่พบบ่อยได้แก่

  • จุกเสียดแน่นท้อง
  • ท้องร่วง
  • มึนงง