หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | วัคซีน
อาการที่พบได้บ่อยในโรคSLE ได้แก่ อาการทางข้อ อาการทางผิวหนัง อาการทางไต อาการทางระบบประสาท ความผิดปกติของเม็ดเลือด เยื่อบุอักเสบ ฯลฯ ความชุกของอาการแสดงในผู้ป่วยโรคSLEในคนไทยจากการสำรวจของหน่วยโรคข้อและรูมาติสซั่ม
อาการทางข้อมักจะเป็นอาการเริ่มแรกของผู้ป่วย SLE ความรุนแรงของข้อมีได้หลายระดับตั้งแต่มีเพียงอาการปวดข้อแต่ไม่มีอาการอักเสบ หรืออาจจะมีอาการอักเสบให้เห็น เช่นปวด บวม แดง ร้อน นอกจากนั้นยังอาจจะพบความพิการของข้อ หรืออาจจะพบว่ามีการกัดกร่อนของข้อ
ผื่นผิวหนังใน SLE มีได้หลายรูปแบบตั้งแต่ผื่นผิวหนังแพ้แสงแดดผื่นจะเป็นมากบริเวณที่ถูกแสงแดด และจะกำเริบหากถูกแสงแดด มักจะเป็นบริเวณแก้ม นอกจากนั้นยังมีผื่นที่เป็นรูปวงกลมมีขุยแต่ตรงกลางจะไม่มีผื่น และมีผื่นเรื้อรังที่เรียกว่า Discoil ตำแหน่งที่พบได้แก่ แก้ม แก้มก้น
นอกจากนั้นยังพบผื่นที่เกิดจากหลอดเลือดอักเสบที่ผิวหนังมักจะพบที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรือผื่นนูน หรือพบลมพิษมีแผลในปาก และพบผมร่วง
ภาวะไตอักเสบเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในโรคSLE พบเป็นอาการนำของโรคSLEร้อยละ 16 และพบภาวะไตอักเสบตลอดระยะเวลาของโรคมากกว่าร้อยละ 50 โดยอาการและอาการแสดงของภาวะไตอักเสบที่พบได้บ่อยคือ
อาการทางระบบประสาทของผู้ป่วยโรคเอสแอลอีมีได้หลายรูปแบบ ตั้งแต่ความผิดปกติทางจิต เช่นเห็นภาพหลอน ความผิดปกติด้านอารมณ์ สับสน ชัก โรคแทรกซ้อนจากภาวะหลอดเลือดอุดตัน
ในโรคSLEสามารถพบความผิดปกติของเม็ดเลือดเป็นภาวะที่พบได้บ่อย และสามารถพบความผิดปกติในโรคSLEได้ทั้ง เม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดง และเกล็ดเลือด โดยความผิดปกติที่พบคือมี
อาการทางหัวใจ และปอดที่พบได้บ่อยคืออาการเยื่อหุ้มปอดหรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบพบได้ร้อยละ 20-50 ณ ขณะใดขณะหนึ่งของโรค อาการแสดงอื่นที่พบได้ไม่บ่อย เช่น ปอดอักเสบ (pneumonitis) ความดันในเส้นเลือดไปปอดสูง (pulmonary artery hypertension) กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ฯลฯ ในการวินิจฉัยแพทย์ควรตรวจแยกสาเหตุอื่นออกไปก่อน เช่น การติดเชื้อ การเกิดภาวะแทรกซ้อนจากกลุ่มโรคแอนติฟอสโฟไลปิด (antiphospolipid syndrome) หรือจากยา ฯลฯ ก่อนให้การวินิจฉัยภาวะผิดปกตินั้นเป็นผลจากโรคSLE
อาการโรคSLE | การวินิจฉัยโรคSLE |
---|