โรคไขมันพอกตับที่ไม่ใช่แอลกอฮอล์ (NAFLD): คำแนะนำที่ครอบคลุม
โรคไขมันพอกตับแบบไม่ดื่มแอลกอฮอล์ (NAFLD) ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม
โรคไขมันพอกตับแบบไม่ดื่มแอลกอฮอล์ (Nonalcoholic fatty liver disease: NAFLD) คือ ภาวะที่มีไขมันสะสมในตับมากเกินไป โดยไม่ได้เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ เป็นโรคตับที่พบได้บ่อยที่สุด โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะอ้วน หรือมีน้ำหนักเกิน โรคนี้มักไม่แสดงอาการในระยะแรก แต่หากปล่อยทิ้งไว้ อาจนำไปสู่ภาวะตับอักเสบ ตับแข็ง และมะเร็งตับได้
สาเหตุของ NAFLD
- ภาวะอ้วน: โดยเฉพาะไขมันสะสมในช่องท้อง
- ภาวะดื้อต่ออินซูลิน: ร่างกายไม่ตอบสนองต่ออินซูลิน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง
- ไขมันในเลือดสูง: ระดับไตรกลีเซอไรด์สูง และระดับ HDL cholesterol ต่ำ
- พันธุกรรม: มีประวัติคนในครอบครัวเป็น NAFLD
- ยาบางชนิด: เช่น สเตียรอยด์ ยาต้านไวรัสบางชนิด
- โรคบางชนิด: เช่น โรคเบาหวาน โรคไทรอยด์ โรคหยุดหายใจขณะหลับ
โรคไขมันพอกตับที่ไม่มีแอลกอฮอล์ (NAFLD) เป็นภาวะร้ายแรงที่ไขมันส่วนเกินสะสมอยู่ในเซลล์ตับ ทำให้เกิดภาวะไขมันพอกตับ ซึ่งอาจพัฒนาไปสู่ภาวะไขมันพอกตับที่ไม่มีแอลกอฮอล์ และเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งเซลล์ตับ ทั่วโลก ความชุกของ NAFLD ในผู้ใหญ่อยู่ที่ประมาณ 25.2%
- ตั้งแต่ระดับต่ำที่ 13.5% ในแอฟริกาไป
- จนถึงสูงถึง 31.8% ในตะวันออกกลาง
- และอเมริกาเหนือที่ 24.1%
ความเสี่ยงของ NAFLD สูงขึ้นอย่างมากในผู้ที่มีโรคอ้วนหรือเบาหวานชนิดที่ 2 (43–92%)
ไตรเอซิลกลีเซอรอลในตับมาจากสามแหล่ง:
- ในคนที่มีสุขภาพดีร้อยละ5ของไขมันเกิดจากการสร้างจากกลูโคสที่เรียกว่า de novo lipogenesis ส่วนผู้ที่เป็นไขมันพอกตับ NAFLD ไขมัน Triglyceride มาจาก de novo lipogenesis สูงกว่ามากร้อยละ26
- การสลายไขมันของไตรกลีเซอไรด์ที่เก็บไว้จากเนื้อเยื่อไขมันไตรกลีเซอไรด์ส่วนใหญ่ (60–80%) มาจากเนื้อเยื่อไขมัน เนื้อเยื่อไขมันถูกเร่งโดยการดื้อต่ออินซูลิน
- และไขมันที่ได้จากอาหาร 15% มาจากอาหาร
อาการของ NAFLD
- ส่วนใหญ่มักไม่มีอาการ: โดยเฉพาะในระยะแรก
- บางรายอาจมีอาการ: อ่อนเพลีย ปวดหรือรู้สึกไม่สบายบริเวณชายโครงขวา ตับโต
ภาวะแทรกซ้อนของ NAFLD
- ตับอักเสบ: ไขมันที่สะสมในตับ ทำให้เกิดการอักเสบ
- ตับแข็ง: เกิดพังผืดในตับ ทำให้ตับทำงานผิดปกติ
- มะเร็งตับ: เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งตับ
- โรคหัวใจและหลอดเลือด: เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ หลอดเลือดสมอง และโรคหลอดเลือดส่วนปลาย
การวินิจฉัย NAFLD
- ซักประวัติ: สอบถามประวัติการดื่มแอลกอฮอล์ ประวัติโรคประจำตัว และยาที่ใช้
- ตรวจร่างกาย: คลำดูขนาดของตับ
- ตรวจเลือด: ตรวจการทำงานของตับ ระดับน้ำตาลในเลือด ไขมันในเลือด
- อัลตราซาวนด์: ตรวจดูไขมันที่สะสมในตับ
- การตรวจชิ้นเนื้อตับ: เป็นการวินิจฉัยที่แน่นอนที่สุด
การรักษา NAFLD
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม: ลดน้ำหนัก ควบคุมอาหาร ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- รักษาโรคประจำตัว: เช่น โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง
- ยา: แพทย์อาจพิจารณาให้ยา เช่น วิตามินอี ในบางกรณี
การป้องกัน NAFLD
- รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: ลดอาหารหวาน อาหารมัน อาหารแปรรูป เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี และโปรตีน
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
หมายเหตุ: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลความรู้ทั่วไปเท่านั้น ไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ หากมีข้อสงสัย ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
ทบทวนวันที่
โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว