เร่งสอบสาเหตุการติดหวัดนกผู้ป่วยนนทบุรี โดย ผู้จัดการออนไลน์

ปศุสัตว์ประสานสาธารณสุขลงพื้นที่บางบัวทอง เร่งสอบสวนโรคว่าระบาดถึงคนได้อย่างไร สันนิษฐานติดจากการกวาดมูลไก่ในวันที่มีการเข้าทำลาย ด้านอธิบดีปศุสัตว์กังวลหวัดนกระบาดนอกพื้นที่จากการอุ้มไก่ไปชนแล้วติดกลับมา หวั่นสังเวียนเถื่อนทำให้ระบาดหนักขึ้น ขณะที่มีรายงานหวัดนกเพิ่มอีก 3 จุดที่สุพรรณฯ ระบุการห้ามเคลื่อนย้ายทำให้สัตว์ปีกราคาสูงขึ้นจนน่าเสี่ยงเคลื่อนย้าย อย่างไรก็ตาม วันนี้ปลดการเฝ้าระวังอีก 2 จุด ใน 2 จังหวัดแล้ว
นายยุคล ลิ้มแหลมทอง อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยถึงกรณีที่มีการพบผู้ป่วยโรคไข้หวัดนกเพิ่มอีก 1 ราย ที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ว่า หลังจากมีข้อมูลยืนยันชัดเจน เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขก็ลงไปสอบสวนทางระบาดวิทยาในพื้นที่ตั้งแต่ค่ำเมื่อวานนี้แล้ว (31 ต.ค.) รวมทั้งทางกระทรวงสาธารณสุขหรือแพทย์ก็จะได้เข้าไปสอบสวนโรคจากผู้ป่วยด้วย เพื่อนำข้อมูลมาสรุปหาสาเหตุที่แน่ชัดว่ามีการติดเชื้อมาได้อย่างไร ซึ่งการสอบสวนโรคคงจะใช้เวลาไม่นานนัก

ขณะนี้จึงยังไม่สามารถสรุปสาเหตุชัดเจนได้ เบื้องต้นทราบเพียงจากการพูดกันว่าผู้ป่วยเป็นหญิงอายุประมาณ 50 ปี ไม่ได้อาศัยอยู่ที่นนทบุรีเป็นประจำ แต่ในวันที่กรมปศุสัตว์เข้าไปทำลายไก่ที่มีเชื้อไข้หวัดนก หญิงคนนี้ได้เข้าไปช่วยสามีกวาดมูลไก่ กลับมารู้สึกไม่สบายจึงไปพบแพทย์จนตรวจพบเชื้อในที่สุด และขณะนี้อาการป่วยยังไม่รุนแรงนัก
"เราไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วบ้านเขาอยู่ตรงไหนจากตรงนั้น บ้านเขามีอยู่หรือเปล่า แล้วเขารับเชื้อได้อย่างไร เพราะบางบัวทองเป็นสวน ต้องไปสอบสวนทางระบาดวิทยาว่าเขาไปสัมผัสไก่ได้อย่างไร ซึ่งเบื้องต้นตั้งข้อสงสัยไว้ว่าไปกวาดมูลไก่หรือไม่ ผมก็ยังไม่รู้ ซึ่งต้องให้เจ้าหน้าที่เข้าไปสอบถามข้อมูลลึก ๆ มา และทางหมอก็เข้าไปดูแลแล้ว" นายยุคล กล่าวและว่า สำหรับจุดที่คาดว่าผู้ป่วยจะได้รับเชื้อนั้น คือ หมู่ที่ 3 ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งพบไก่พื้นเมืองป่วยตาย 40 ตัว กรมปศุสัตว์ได้รับแจ้งจึงเข้าไปทำลายไก่พื้นเมืองที่เหลืออีก 2 ตัว และประกาศเป็นเขตโรคระบาดสีแดงเฝ้าระวัง 21 วันแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา

นายยุคล ยังกล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์ปัจจุบันที่ตนยังมีความเป็นห่วงอยู่นั้น คือการพบโรคไข้หวัดนกนอกพื้นที่การระบาด คือที่ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ซึ่งการสอบสวนเบื้องต้นได้ความว่าเจ้าของไก่นำไก่ไปชนในภาคกลางและติดเชื้อมา แต่เจ้าของไก่กลัวความผิดจึงยังไม่ยอมเปิดเผยว่านำไก่ไปชนที่ไหน ซึ่งกรณีนี้มีความผิดแทบทุกขั้นตอน ตั้งแต่การลักลอบเคลื่อนย้ายไก่ออกนอกพื้นที่ การลักลอบเปิดสังเวียนชนไก่ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดได้สั่งห้ามไปแล้ว ทั้งนี้ มีความจำเป็นที่จะต้องทำให้เจ้าของไก่ยอมเปิดเผยข้อมูลออกมาให้ได้โดยเร็ว เพราะหวั่นเกรงว่าอาจยังมีการแอบชนไก่อยู่ และจะทำให้เกิดการระบาดเพิ่มขึ้น

นายยุคล เปิดเผยอีกว่า เมื่อวานนี้ (31 ต.ค.) มีรายงานผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันการพบเชื้อไข้หวัดนกในสัตว์ปีกเพิ่มอีก 3 จุดที่ จ.สุพรรณบุรี โดย 1 ใน 3 จุดนั้นเป็นเป็ดไล่ทุ่งที่ลักลอบนำเข้าพื้นที่ อ.อู่ทอง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินคดีอยู่ด้วย ทั้งนี้ ตั้งแต่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ออกประกาศกระทรวงเกษตรฯ ห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์ปีกและได้มีการตั้งด่านสกัดจับผู้ลักลอบเคลื่อนย้ายนั้น ในแต่ละวันจะจับกุมได้มากประมาณ 3 - 7 ราย และยืนยันว่าผู้ลักลอบเหล่านั้นน่าจะทราบข้อห้ามดีแล้ว แต่ยังต้องการเสี่ยงเพราะของมีราคาดี

"ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ ตอนนี้หมายถึงว่ามันเคลื่อนย้ายยาก ของราคาก็ดี อย่างเช่นลูกเป็ดไล่ทุ่ง เขาก็รู้ว่ามันขายได้ราคา เมื่อวานก็จับได้ตั้ง 7 ราย เป็นลูกเป็ดไข่ 20,000 กว่าตัว เป็ดไข่ 8,000 กว่าตัว และไก่ชน 2 ตัว" นายยุคล กล่าวและว่า ข่าวออกขนาดนี้แล้วจะไม่รู้ได้อย่างไร พวกนี้เจตนาทั้งนั้น

จากข้อมูลทางเว็บไซต์ของกรมปศุสัตว์ เปิดเผยรายละเอียดจุดที่พบไข้หวัดนกเพิ่มเติมทั้ง 3 จุด ใน จ.สุพรรณบุรี ว่า เป็นเป็ดเนื้อ จำนวน 4,500 ตัว ที่หมู่ 1 ต.บ้านดอน อ.อู่ทอง เป็นไก่ชน จำนวน 11 ตัว ที่หมู่ 1 ต.หนองผักนาก อ.สามชุก และเป็นไก่ไข่ จำนวน 2,000 ตัว ที่หมู่ 6 ต.หนองสะเดา ต.สามชุก ซึ่งกรมปศุสัตว์ได้เข้าทำลายสัตว์ปีกทั้งหมดแล้วตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา และประกาศเป็นเขตเฝ้าระวังโรคระบาด 21 วัน

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ได้มีการปลดการเฝ้าระวัง 21 วัน ในอีก 2 จุด ใน 2 จังหวัด ได้แก่ หมู่ 11 ต.วังชะโอน อ.บึงสามัคคี จ.กำแพงเพชร และ หมู่ 9 ต.ลำพยา อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม เนื่องจากครบกำหนดการเฝ้าระวังแล้วเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม

    ประมวลข่าว - หวัดนกระบาด 2548