นายยืนยง โอภากุล หรือแอ๊ด คาราบาว นายกสมาคมส่งเสริมอาชีพไก่ชนไทย ชุมนุมกลุ่มผู้รักษ์ไก่ชนจากทั่วประเทศ 20,000 คน เพื่อแสดงพลังเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศใช้วัคซีนป้องกันไข้หวัดนก

แพทยศาสตร์ จุฬาฯ ถอดรหัสเชื้อไข้หวัดนกพบกลายพันธุ์ 2-3% ยันเป็นเรื่องปกติ ยังไม่ถึงขั้นติดคนสู่คน ด้าน"สมศักดิ์"โผล่สุพรรณบุรีอ้างเป็นสักขีพยาน "สุดารัตน์"รับ 3 ข้อเรียกร้องของม็อบไก่ชน เจอกันครึ่งทางเปิดช่องให้ศึกษาวิจัยใช้วัคซีนในสัตว์ปีกได้

เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่สนามกีฬาหน้าลานพระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี กลุ่มสมาคมส่งเสริมอาชีพไก่ชนไทย ชมรมเป็ดไล่ทุ่ง และกลุ่มผู้สนับสนุนราว 20,000 คน จัดตั้งเวทีเรียกร้องให้รัฐบาลผ่อนผันให้มีการใช้วัคซีนในสัตว์ปีก โดยแกนนำผลัดเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัยการทำงานของนายยุคล ลิ้มแหลมทอง อธิบดีกรมปศุสัตว์ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐบาล ที่ไม่ให้ความสำคัญต่ออาชีพและความเป็นอยู่ของประชาชน แต่สนับสนุนเกื้อกูลกลุ่มนายทุน

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 09.30 น. นายยืนยง โอภากุล หรือแอ๊ด คาราบาว นายกสมาคมส่งเสริมอาชีพไก่ชนไทย เดินทางไปถึงที่ชุมนุมจากนั้นนำขบวนทั้งหมดไปทำพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่หน้าพระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ โดยมีพระสงฆ์ พราหมณ์ พร้อมเครื่องเซ่นไหว้ ขอพรให้มีชัยชนะในการเรียกร้องครั้งนี้ จากนั้นพากันเคลื่อนขบวนไปยังเวทีในสนามกีฬา

แอ๊ด คาราบาว ขึ้นเวทีปราศรัยว่า ไก่ชนเป็นวิถีชีวิตคู่คนไทย มีตำนานมาตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช แต่จะมาถูกทำลายในยุคลูกหลานสมัยนี้ ด้วยการทำงานที่มีวิสัยทัศน์คับแคบไม่กว้างไกล โดยเฉพาะอธิบดีกรมปศุสัตว์ หากเป็นสมัยก่อนความผิดพลาดครั้งนี้ต้องถูกตัดคอสถานเดียว การรวมตัวครั้งนี้เพราะไม่มีเวทีให้พูด ทุกวันนี้สังคมจะทราบข่าวจากฝ่ายเดียวคือจากรัฐบาล เพราะสื่อยังถูกควบคุมในรูปแบบต่างๆ จากอำนาจรัฐ ส่วนที่บอกให้ขึ้นทะเบียนไก่ชนและจะเปิดบ่อนไก่ชนได้ในปีใหม่นั้น เป็นเอาขนมมาล่อเด็ก ไม่ใช่เพราะรัฐบาลชุดนี้หรือที่สั่งปิดบ่อนไก่ ทั้งที่ยังไม่เคยมีใครเคยตายในบ่อนไก่

"จะรวบรวมรายชื่อเสนอรัฐบาล ซึ่งสมาชิกสมาคมมีราว 200,000 คน หากปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข จะต้องรวมพลไปลานพระบรมรูปทรงม้าแน่นอน และขอยืนยันว่าพวกเราเป็นกลุ่มผู้เรียกร้องตามหลักประชาธิปไตย มิได้มีเจตนาจ้องล้มรัฐบาล" แอ๊ด คาราบาวกล่าว

วันเดียวกัน ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ กล่าวถึงการชุมนุมประท้วงนโยบายการห้ามใช้วัคซีนหวัดนกในสัตว์ปีกว่า แม้จะยังไม่อนุญาตให้ใช้วัคซีน แต่รัฐบาลมีแนวคิดที่จะให้ศึกษาทดลอง เพราะรูปแบบการเลี้ยงสัตว์ปีกในประเทศต่างจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะไก่ชน และเป็ดไล่ทุ่งในต่างประเทศไม่มี จึงจำเป็นต้องทดลองเพื่อสร้างองค์ความรู้ให้เกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะทดลองกับสัตว์ปีกทุกชนิดในภาคสนามเป็นเวลา 6 เดือน ตามที่แอ๊ด คาราบาวระบุหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ยังไม่สามารถระบุได้ ต้องรอฟังข้อมูลทางวิชาการ แต่การทดลองคงจะไม่ใช่แค่ฉีดเชื้อดูในกล้องจุลทรรศน์ คงจะต้องมีการฉีดเชื้อเข้าไปในตัวไก่จริง

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ในการหารือกับนักวิชาการ เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้ประสานให้คณะสัตวแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้รับผิดชอบ โดยมีตัวแทนฝ่ายสนับสนุนการใช้วัคซีนของกลุ่มไก่ชนเข้าร่วมด้วย ถ้านายยืนยงต้องการเข้าร่วมก็ไม่มีปัญหา ส่วนการเสนอตัวเป็นหนึ่งในคณะกรรมการแก้ไขปัญหาไข้หวัดนกระดับชาต ิของกลุ่มไก่ชนนั้น ก็ไม่มีปัญหา ถ้าพร้อมก็จะเสนอให้ เพราะไม่เคยกีดกันใครอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการถ่ายทอดสดการชุมนุมของกลุ่มไก่ชนผ่านยูบีซี คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า "มีด้วยหรือ เขาอำนวยความสะดวกกันดีจริงๆ"

เมื่อถามว่า ยูบีซีเป็นของเครือเจริญโภคภัณฑ์(ซีพี) แสดงว่าซีพีสนับสนุนเรื่องการใช้วัคซีนหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า "ไม่เห็นจะต้องมาถาม แค่นี้แปลไม่ออกหรือ แต่ไม่ว่าการชุมนุมครั้งนี้จะมีวัตถุประสงค์อะไร เจตนาก็ไม่บริสุทธิ์อยู่แล้ว"

ต่อมาเวลาประมาณ 17.45 น. คุณหญิงสุดารัตน์พร้อมคณะออกเดินทางไปยัง จ.สุพรรณบุรี โดยคุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ตอนแรกว่าจะไม่ไปแล้ว เพราะตกลงกันไม่ได้ เนื่องจากทางนั้นเรียกร้องจะให้ใช้วัคซีน ซึ่งผิดข้อตกลงที่คุยกันไว้เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ที่จะให้แค่ศึกษาทดลองเท่านั้น แต่พอคุยกับแกนนำผู้ชุมนุมหลายคน และตกลงกันได้ว่าจะให้แค่ทดลอง เราก็เลยจะไป ไปคุยกันด้วยเหตุผล เอาหัวใจไปคุย ขอร้องให้เขาเห็นแก่ประโยชน์ของบ้านเมือง

เวลา 16.30 น. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รับมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เดินทางไปยังอนุสรณ์สถานดอนเจดีย์ และถูกแกนนำผู้ประท้วงโห่ไล่ เนื่องจากไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทำให้นายสมศักดิ์ไม่กล้าขึ้นเวที และเรียกนายทรงพล ทิมาศาสตร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี แกนนำสมาคมไก่ชนและชมรมเป็ดไล่ทุ่ง เข้ามาเจรจา โดยใช้กำลัง อปพร.กันสื่อมวลชนไม่ให้เข้าไปร่วมรับฟัง

ต่อมานายสมศักดิ์จึงขึ้นเวทีและกล่าวว่า มาเป็นผู้ไกล่เกลี่ยปัญหาในฐานะที่เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯมาก่อน และเป็นสักขีพยานในการลงนามข้อตกลงของสมาคมผู้เรียกร้องกับคุณหญิงสุดารัตน์ จึงขอร้องผู้ชุมนุมว่าเมื่อคุณหญิงสุดารัตน์ขึ้นเวทีอย่าโห่ไล่ เพราะจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก

กระทั่งเวลา 18.30 น. คุณหญิงสุดารัตน์เดินทางไปรับข้อตกลง 3 ข้อ ตามที่สมาคมเสนอ คือ 1.ให้รัฐบาลศึกษาวิจัยการใช้วัคซีนป้องกันไข้หวัดนก 2.ยกเลิกคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดหวัดนกชุดเดิม พร้อมตั้งกรรมการชุดใหม่ โดยให้มีตัวแทนสมาคมส่งเสริมอาชีพไก่ชน สมาคมอนุรักษ์และพัฒนาไก่พื้นเมืองไทย ในสัดส่วนที่เหมาะสม และ 3.เปลี่ยนผู้บริหารระดับสูงในกรมปศุสัตว์ ซึ่งทั้ง 3 ข้อ ให้ทำภายใน 30 วัน นับจากวันที่ 24 พฤศจิกายน และในวันที่ 25 พฤศจิกายน ให้สมาคมไก่ชน และชมรมเป็ดไล่ทุ่งส่งตัวแทนไปเป็นคณะกรรมการ หลังคุณหญิงสุดารัตน์รับข้อเสนอแล้วไม่ได้กล่าวอะไรกับผู้ชุมนุม อย่างไรก็ตามกลุ่มผู้ชุมนุมรู้สึกพอใจและสลายตัวไปในที่สุด

วันเดียวกัน ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้ากลุ่มวิจัยศึกษาพันธุกรรมไข้หวัดนก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวในการบรรยายเรื่องการศึกษาพันธุกรรมไข้หวัดนก การกลายพันธุ์ พัฒนาการตรวจวินิจฉัยในประเทศไทย ในงานวิชาการ "แก้ไข? ป้องกัน? …มหันตภัยไข้หวัดนก" ว่า จากการถอดรหัสพันธุกรรมเชื้อเอช 5 เอ็น 1 ตั้งแต่การระบาดครั้งแรกจนถึงปัจจุบันพบว่า มีการกลายพันธุ์ของเชื้อไข้หวัดนกประมาณ ร้อยละ 2-3 ซึ่งถือเป็นปกติในเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A และยังไม่พบการกลายพันธุ์ในส่วนสำคัญที่จะทำให้เชื้อง่ายต่อการติดต่อจากคนสู่คน และการกลายพันธุ์ที่ทำให้เชื้อรุนแรงขึ้น

ศ.นพ.ยงกล่าวว่า การกลายพันธุ์ของเชื้อที่พบเป็นบางจุดเท่านั้น หากจะมีการกลายพันธุ์โดยสิ้นเชิง โดยกลายพันธุ์ในอัตราเดิมจะใช้เวลาประมาณ 10 ปี ซึ่งจะกลายพันธุ์จากเดิมร้อยละ 15 และเปลี่ยนคุณสมบัติเชื้อไวรัสไปอย่างสิ้นเชิง แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเชื้อจะรุนแรงขึ้นหรืออ่อนลง อย่างไรก็ตาม หากมีการกลายพันธุ์โดยแลกเปลี่ยนพันธุกรรมกับสายพันธุ์อื่น อาจจะกลายพันธุ์แบบเฉียบพลันได้ โดยไม่ถึง 10 ปี

ศ.นพ.ยงกล่าวว่า จากการศึกษาไก่ฝูงเดียวกับไก่ที่ติดเชื้อไข้หวัดนก และนำไปสู่การตายจากโรคไข้หวัดนกของนายบังอร เบ็ญพาด ที่ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี พบว่ามีการกลายพันธุ์ไปจากเชื้อเดิมที่ตรวจในช่วงการระบาดครั้งแรกปลายปี 2546 ประมาณร้อยละ 3 แต่ยังคงเป็นไวรัสที่รุนแรงเช่นเดิม แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงของกรดอะมิโนบางตำแหน่งก็ตาม แต่ยังไม่พบการกลายพันธุ์ที่จะทำให้เชื้อเกาะติดกับคนได้ง่าย ส่วนการใช้ยาทามิฟลูเพื่อรักษาและป้องกัน หากใช้มาก เป็นไปได้ที่ไวรัสจะดื้อยา

ที่ จ.พิจิตร มีผู้ป่วยต้องสงสัยอาการคล้ายไข้หวัดนกที่โรงพยาบาลโพธิ์ประทับช้าง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร เป็นเด็กชายอายุ 8 ขวบ ต่อมาส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลพิจิตร แพทย์นำไปรักษาที่ห้องคัดแยกผู้ป่วยต้องสงสัยติดเชื้อไข้หวัดนก พร้อมเจาะตัวอย่างเลือดและเสมหะไปตรวจ ทั้งนี้ ที่บ้านผู้ป่วยไม่ได้เลี้ยงไก่ แต่เพื่อนบ้านใกล้เคียงเลี้ยงไก่พื้นเมืองและไก่ชน ซึ่งทยอยตายจนหมดเล้า