โรคคอตีบ diphtheria
โรคคอตีบหรือ Diphtheria เป็นโรคติดต่อร้ายแรงเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อนี้จะทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุจมูก คอ และหลอดลม เชื้อนี้ทำให้เกิดเยื่ออุดหลอดลม เชื้อยังสารสาร Toxin ซึ่งจะทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ
เชื้อที่เป็นสาเหตโรคคอตีบ
เป็นเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า Corynebacterium diphtheriae
อาการของโรคคอตีบ
อาการของโรคคอตีบมีดังต่อไปนี้
- น้ำมูกไหล
- เจ็บคอ
- ครั่นเนื้อครั่นตัว
- มีไข้
- ต่อมน้ำเหลืองที่คอโต
- มีเยื่อที่คอ
- หายใจลำบาก
- กลืนลำบาก
การติดเชื้อที่ผิวหนัง
เชื้อนี้จะทำให้เกิดแผลที่ผิวหนังทำให้เกิดอาการเจ็บปวด แผลมีการอักเสบ และมีหนองเขียวที่แผล
การติดต่อโรคคอตีบ
โรคคอตีบติดต่อโดยการกิน หรือหายใจเอาน้ำลายหรือเสมหะของผู้ป่วยเข้าไป อาการจะเกิดหลังจากได้รับเชื้อ 2- 10วัน ที่สำคัญผู้ป่วยบางคนมีเชื้อนี้แต่มีอาการน้อยซึ่งอาจจะทำให้เชื้อแพร่กระจาย การติดต่อมี 3 ทาง
- เมื่อผู้ป่วยจามหรือไอเชื้อโรคจะไปกับน้ำลายและเสมหะ คนปกติเมื่อสูดดมเข้าไปก็จะเกิดโรคโดยเฉพาะในที่ระบายอากาศไม่ดี
- คนปกติได้รับเชื้อจากรับประทานโดยมีการปนเปื้อนน้ำลายหรือเสมหะผู้ป่วย เช่นน้ำดื่ม อาหาร แว่นตา
- ติดต่อจากเครื่องใช้ในครัวเรือนร่วมกัน เช่น ผ้าเช็ดตัว ของเล่น
กลุ่มที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคคอตีบ
- ผู้ที่สัมผัสกับคนที่ป่วยเป็นโรคนี้
- ผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน
- ผู้ที่มีภูมิบกพร่อง
- ผู้ที่อาศัยในพื้นที่สุขอนามัยไม่ดี
- นักท่องเที่ยวไปยังแหล่งระบาด
การตรวจร่างกาย
ระบบหายใจ
- ผู้ป่วยจะมีไข้
- เมื่อตรวจคอจะพบฝ้าขาว ที่คอต่อมทอนซิล
- ที่คอจะพบต่อมน้ำเหลือที่คอ ใต้หู
- ฟังปอดอาจจะได้เสียงหลอดลมตีบ stridor
ระบบหัวใจและหลอดเลือด
ทางระบบประสาท
- อาจจะทำให้เส้นประสาทสมองเป็นอัมพาตเกิดอาการปากเบี้ยว ม่านตาโต ตาเข
- มีปลายมือปลายเท้าชา
- มีกล้ามเนื้ออ่อนแรง
การวินิจฉัยโรคคอตีบ
- จากประวัติการเจ็บป่วย
- จากประวัติไปท่องเที่ยวยังแหล่งระบาด
- ตรวจร่างกายพบแผ่นฝ้าขาวในคอ
- เพาะเชื้อจากแผ่นฝ้าขาว
การรักษาโรคคอตีบ
เมื่อสงสัยว่าจะเป็นโรคคอตีบจะต้องให้การรักษาโดยที่ไม่รอผลการตรวจ
- ให้นอนโรงพยาบาล และนอนห้องแยกโรคเพื่อป้องกันการแพร่กระจาย
- เฝ้าระวังเรื่องระบบหายใจอย่างใกล้ชิดเนื่องจากอาจจะมีการอุดทางเดินหายใจ
- เฝ้าระวังระบบไหลเวียนเนื่องจากโรคคอตีบอาจจะทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เกิดหัวใจล้มเหลวหรือความดันโลหิตต่ำ
- ยาปฏิชีวนะเช่น penicillinหรือ Erythromycin รักษาทั้งผู้ป่วย และผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย ระยะเวลารักษา 14 วันเพื่อฆ่าเชื้อโรค
- ให้ Diphtheria antitoxin ทันทีที่สงสัยว่าจะเป็นโรคนี้
- ยาอื่นๆรักษาตามอาการ
- การผ่าตัดเอาแผ่นฝ้าขาวออกหากมีการอุดหลอดลม
- รักษาโรคแทรกซ้อน
- ให้พักผ่อน
การป้องกันโรคคอตีบ
ป้องกันโดยการให้วัคซีนป้องกันคอตีบ
โรคแทรกซ้อนของโรคคอตีบ
- เยื่อที่แบคทีเรียสร้างอุดหลอดลมทำให้หายใจลำบาก
- กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและเกิดหัวใจล้มเหลว
- ไตเสื่อม
- มีการทำลายระบบประสาท