jrprint

หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | วัคซีน

adv

จะคุมน้ำตาลควรจะดื่มกาแฟชนิดไหน

Glycemic Index (GI) และ Glycemic Load (GL) ของกาแฟ 20 ชนิด

กาแฟเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมที่สามารถปรับแต่งได้หลายรูปแบบ ตั้งแต่กาแฟดำแบบไม่มีน้ำตาลไปจนถึงกาแฟผสมนมและน้ำตาลที่เพิ่มรสชาติและความหวาน อย่างไรก็ตาม ส่วนผสมเหล่านี้สามารถส่งผลต่อ Glycemic Index (GI) และ Glycemic Load (GL) ได้อย่างมาก



Glycemic Index (GI) และ Glycemic Load (GL) คืออะไร?

กาแฟ

ตาราง GI และ GL ของกาแฟ 20 ชนิด (ต่อ 1 แก้ว, 250 มล.)

ชนิดกาแฟ GI คาร์โบไฮเดรต (g) GL
กาแฟดำ (ไม่มีน้ำตาล) 0 0 0
กาแฟดำ (ใส่น้ำตาล 1 ช้อนชา) 55 4 2
กาแฟเย็นใส่น้ำตาล 55 12 7
กาแฟใส่นมข้นหวาน 54 18 10
กาแฟลาเต้ (นมธรรมดา) 47 10 5
กาแฟคาปูชิโน 47 8 4
กาแฟมอคค่า 42 20 8
กาแฟนมสด (ไม่มีน้ำตาล) 40 6 2
กาแฟนมสด (ใส่น้ำตาล 1 ช้อนชา) 50 10 5
กาแฟเย็น 3-in-1 65 18 12
กาแฟแฟรบปูชิโน 55 25 14
กาแฟมะพร้าว (ใส่น้ำตาล) 50 15 8
กาแฟคาราเมลมัคคิอาโต 60 22 13
กาแฟเฮเซลนัท 52 15 8
เอสเปรสโซ (ไม่มีน้ำตาล) 0 0 0
เอสเปรสโซ (ใส่น้ำตาล 1 ช้อนชา) 55 4 2
อเมริกาโน่เย็น (ไม่มีน้ำตาล) 0 0 0
อเมริกาโน่เย็น (ใส่น้ำเชื่อม) 50 10 5
กาแฟมัคคิอาโต้ 45 7 3
กาแฟเย็นผสมนมอัลมอนด์ 30 6 2



วิเคราะห์ข้อมูล

  1. กาแฟดำ (ไม่มีน้ำตาล) และ กาแฟเอสเปรสโซ มี GI และ GL เท่ากับ 0 เหมาะสำหรับผู้ที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  2. กาแฟที่ใส่น้ำตาลหรือส่วนผสมอื่น เช่น นมข้นหวาน หรือ น้ำเชื่อม จะมี GI และ GL สูงขึ้น
  3. กาแฟเย็นสำเร็จรูป (3-in-1) และ แฟรบปูชิโน มี GL สูงเพราะมีน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตในปริมาณมาก

คำแนะนำสำหรับการบริโภคกาแฟอย่างเหมาะสม

 

ทบทวนวันที่

โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว

Google
 

เพิ่มเพื่อน