ทําความเข้าใจปริมาณน้ําตาลในเลือดสูง: ผลกระทบต่อน้ําตาลในเลือดและทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ
การรับประทานอาหารที่มี Glycemic Load (GL) สูง อาจส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจจะเหมาะในบางสถานการณ์ที่ต้องการพลังงานทันที เช่น หลังออกกำลังกายหนักหรือต้องการฟื้นฟูพลังงานอย่างรวดเร็ว โดยรายการอาหาร GL สูงในแต่ละกลุ่มมีดังนี้
1. ผลไม้
ผลไม้บางชนิดมีน้ำตาลธรรมชาติสูงและมีค่า GL สูง
- อินทผาลัม (2-3 ลูก)
- สับปะรด (1 ถ้วยตวง)
- กล้วยหอมสุก (1 ลูก)
- มะม่วงสุก (1 ถ้วยตวง)
- แตงโม (1 ถ้วยตวง)
- แคนตาลูป (1 ถ้วยตวง)
2. ขนมปัง
ขนมปังที่ผ่านการขัดสีหรือมีน้ำตาลสูง มักมี GL สูง
- ขนมปังขาว (1 แผ่น)
- ขนมปังโฮลวีตบางชนิด (ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำตาล)
- ขนมปังปิ้งที่โรยน้ำตาลหรือน้ำผึ้ง
- ขนมปังเบเกิล (1 ชิ้น)
3. ผัก
แม้ผักส่วนใหญ่จะมี GL ต่ำ แต่ผักบางชนิดที่มีแป้งสูงก็มีค่า GL สูงเช่นกัน
- มันฝรั่งอบหรือทอด (1 ถ้วยตวง)
- มันเทศ (1 ถ้วยตวง)
- แครอทต้ม (1 ถ้วยตวง)
- ข้าวโพดต้ม (1 ฝัก)
4. ข้าวและธัญพืช
ข้าวและธัญพืชขัดสีและผ่านการแปรรูปมักมีค่า GL สูง
- ข้าวขาว (1 ถ้วยตวง)
- ข้าวเหนียว (1 ถ้วยตวง)
- ข้าวโพดคั่ว (1 ถ้วยตวง)
- คอร์นเฟล็กซ์ (1 ถ้วยตวง)
- โจ๊กข้าวขาว (1 ถ้วยตวง)
5. เครื่องดื่ม
เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงหรือผ่านการแปรรูปมักมีค่า GL สูง
- น้ำอัดลม (1 กระป๋อง)
- น้ำหวานที่เติมน้ำตาล (1 แก้ว)
- น้ำผลไม้กล่องที่เติมน้ำตาล
- เครื่องดื่มชูกำลัง
6. อื่นๆ
อาหารประเภทขนมขบเคี้ยวและของหวานที่มีน้ำตาลและแป้งสูง
- เค้กและคุกกี้ (1 ชิ้น)
- โดนัท (1 ชิ้น)
- พายแอปเปิล (1 ชิ้น)
- ช็อกโกแลตนม (1 แท่ง)
- ไอศกรีม (1 ถ้วยตวง)
สรุป
อาหารที่มี Glycemic Load สูงสามารถเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างรวดเร็ว ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมและในช่วงเวลาที่ต้องการพลังงานอย่างเร่งด่วน เช่น หลังออกกำลังกาย เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว
รายการอาหาร Glycemic Load (GL) สูง
อาหาร GL สูง คือ อาหารที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว โดยทั่วไปอาหารที่มีค่า GL ตั้งแต่ 20 ขึ้นไป จัดว่าเป็นอาหาร GL สูง
ผลไม้:
- GL 20 ขึ้นไป: แตงโม, สับปะรด, มะม่วงสุก, ลิ้นจี่, ทุเรียน, ขนุน, องุ่น, กล้วยน้ำว้าสุก
ขนมปัง:
- GL 20 ขึ้นไป: ขนมปังขาว, ขนมปังแซนวิช, ขนมปังเบอร์เกอร์, โดนัท, ครัวซองต์, เค้ก
ผัก:
- GL 20 ขึ้นไป: มันฝรั่งอบ, มันฝรั่งทอด, เผือก, ฟักทอง (ปริมาณมาก)
ข้าว:
- GL 20 ขึ้นไป: ข้าวขาว, ข้าวเหนียว, ข้าวโพดหวาน, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
เครื่องดื่ม:
- GL 20 ขึ้นไป: น้ำอัดลม, น้ำผลไม้, เครื่องดื่มชูกำลัง, ชานมไข่มุก, น้ำหวาน
อื่นๆ:
- GL 20 ขึ้นไป: ลูกอม, ขนมหวาน, ไอศกรีม, ขนมขบเคี้ยว, อาหารแปรรูป (ไส้กรอก, ลูกชิ้น)
หมายเหตุ:
- ค่า GL อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น สายพันธุ์ ระดับความสุก และวิธีการปรุงอาหาร
- ควรจำกัดปริมาณการรับประทานอาหาร GL สูง และเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อสุขภาพที่ดี
คำแนะนำเพิ่มเติม:
- การรับประทานอาหาร GL สูง ร่วมกับอาหารที่มีโปรตีน ไขมัน หรือใยอาหาร จะช่วยลด GL ได้ เช่น ทานข้าวขาวกับกับข้าวที่มีผักเยอะๆ หรือทานผลไม้ร่วมกับโยเกิร์ต
- การปรุงอาหาร ก็มีผลต่อ GL เช่น มันฝรั่งต้ม จะมี GL ต่ำกว่า มันฝรั่งทอด
- ควรอ่านฉลากโภชนาการ เพื่อเปรียบเทียบ และเลือกซื้ออาหารที่มี GL ต่ำ
การเลือกรับประทานอาหารอย่างชาญฉลาด เป็นสิ่งสำคัญในการดูแลสุขภาพ และป้องกันโรคต่างๆ
การรับประทานอาหารที่มีค่า Glycemic Load (GL) สูง มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ขึ้นอยู่กับความต้องการพลังงานของร่างกายในแต่ละช่วงเวลา อาหารที่มีค่า GL สูงจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นเร็ว แต่ก็ต้องรับประทานอย่างระมัดระวังเพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคที่เกี่ยวข้องกับระดับน้ำตาลในเลือด มาดูข้อดี ข้อเสีย และข้อควรระวังกันค่ะ
ข้อดีของการรับประทานอาหารที่มี Glycemic Load สูง
- เพิ่มพลังงานอย่างรวดเร็ว: อาหารที่มี GL สูงช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานเร็ว ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูพลังงานทันที เช่น หลังออกกำลังกายหนักหรือในสถานการณ์ที่ต้องการพลังงานเร่งด่วน
- ช่วยฟื้นฟูระดับไกลโคเจนในกล้ามเนื้อ: สำหรับนักกีฬาหรือผู้ที่ออกกำลังกายอย่างเข้มข้น การทานอาหาร GL สูงช่วยเติมไกลโคเจนในกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อฟื้นตัวเร็วขึ้น
- ลดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ: อาหาร GL สูงช่วยแก้ปัญหาภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำได้ทันที ลดอาการอ่อนเพลียและอาการสั่นในบางคนที่มีภาวะน้ำตาลต่ำอย่างรวดเร็ว
- กระตุ้นการหลั่งสารเซโรโทนิน: ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์ดี อาจช่วยลดความเครียดได้บ้าง แต่เป็นผลในระยะสั้น
ข้อเสียของการรับประทานอาหารที่มี Glycemic Load สูง
- เสี่ยงต่อการเพิ่มน้ำหนักและสะสมไขมัน: การทานอาหาร GL สูงบ่อยๆ ทำให้ร่างกายผลิตอินซูลินมากขึ้น ซึ่งช่วยในการสะสมไขมัน ส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นและไขมันสะสมมากขึ้น
- เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานประเภท 2: ระดับน้ำตาลในเลือดที่ผันผวนจากการทานอาหาร GL สูงอย่างต่อเนื่องอาจนำไปสู่ภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นเบาหวานประเภท 2
- ทำให้อิ่มไม่นานและหิวบ่อย: เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดลดลงอย่างรวดเร็วหลังการทานอาหาร GL สูง จะทำให้รู้สึกหิวเร็ว ส่งผลให้อาจทานจุบจิบบ่อยๆ จนทำให้พลังงานเกินความจำเป็น
- ผลเสียต่อสุขภาพฟัน: อาหารที่มี GL สูงมักมีน้ำตาลสูง ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงของฟันผุและโรคเหงือกได้ หากไม่ดูแลสุขภาพช่องปากอย่างเหมาะสม
- เสี่ยงต่อโรคหัวใจ: ส่งผลให้ระดับไตรกลีเซอไรด์สูงขึ้น และลดระดับไขมันดี (HDL) ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ
- เพิ่มความเสี่ยงโรคอ้วน: มักมีแคลอรี่สูง และใยอาหารต่ำ ทำให้อิ่มเร็วแต่หิวเร็ว ส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น และเสี่ยงต่อโรคอ้วน
- ส่งผลต่อสุขภาพผิว: ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้น กระตุ้นการอักเสบ และเพิ่มการผลิตน้ำมัน ซึ่งอาจทำให้เกิดสิว และปัญหาผิวอื่นๆ
- ลดประสิทธิภาพการทำงานของสมอง: ระดับน้ำตาลในเลือดที่ผันผวน อาจส่งผลต่อสมาธิ ความจำ และการเรียนรู้
- เพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งบางชนิด: งานวิจัยบางชิ้นเชื่อมโยงอาหาร GL สูง กับความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม
ข้อควรระวังในการรับประทานอาหารที่มี Glycemic Load สูง
- ทานในปริมาณที่เหมาะสม: ควรจำกัดการทานอาหาร GL สูงให้พอดี และหลีกเลี่ยงการทานในมื้อเย็นเพราะร่างกายไม่ต้องการพลังงานสูงในช่วงเวลาก่อนนอน
- ทานร่วมกับอาหารที่มีค่า GL ต่ำ: ควรทานอาหาร GL สูงร่วมกับอาหารที่มีโปรตีน ไขมันดี และไฟเบอร์ เช่น ผักใบเขียวและถั่ว เพื่อช่วยชะลอการดูดซึมของน้ำตาลและลดผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือด
- เลือกอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง: แทนที่จะทานขนมที่มีน้ำตาลสูง ควรเลือกอาหาร GL สูงที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เช่น ผลไม้ที่มีไฟเบอร์และวิตามิน
- เหมาะกับคนที่ต้องการพลังงานสูง: อาหาร GL สูงอาจเหมาะกับนักกีฬา ผู้ที่ออกกำลังกายอย่างหนัก หรือผู้ที่มีงานหนัก แต่ควรระวังการบริโภคในกลุ่มคนทั่วไปที่ไม่ได้ใช้พลังงานมาก
- ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ควรหลีกเลี่ยง: อาหาร GL สูง อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูง เป็นอันตรายได้
- ผู้ที่มีภาวะดื้ออินซูลิน ควรจำกัด: เพื่อป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน
- ผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก ควรระมัดระวัง: อาหาร GL สูง มักให้พลังงานสูง และทำให้อ้วนง่าย
- ไม่ควรรับประทานบ่อยๆ: แม้ในคนทั่วไป การรับประทานอาหาร GL สูง บ่อยๆ ก็เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ
สรุป
การทานอาหารที่มีค่า Glycemic Load เป็นครั้งคราว อาจไม่ส่งผลเสียร้ายแรง แต่หากรับประทานเป็นประจำ อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว แต่ควรระวังปริมาณและจังหวะการทานให้เหมาะสม เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสุขภาพในระยะยาว เช่น การเพิ่มน้ำหนัก โรคเบาหวาน และความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ควรเลือกทานร่วมกับอาหาร GL ต่ำเพื่อช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดสมดุลและลดผลกระทบจากการทานอาหารที่มีค่า GL สูง
ทบทวนวันที่
โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว