Gemfibrizil – การจัดการคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ที่มีประสิทธิภาพ
Gemfibrozil คืออะไร?
Gemfibrozil เป็นยากลุ่ม Fibrate ที่ใช้ในการลดระดับไขมันในเลือด โดยเฉพาะในกรณีที่มีไขมันไตรกลีเซอไรด์สูงและระดับคอเลสเตอรอลผิดปกติ ซึ่งเป็นปัจจัยที่เสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด ระดับไตรกลีเซอไรด์สูงมาก ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดตับอ่อนอักเสบ ยานี้จะทำหน้าที่กระตุ้นเอนไซม์ที่ช่วยสลายไขมันในร่างกาย และลดการสังเคราะห์ไขมันที่ไม่จำเป็น ทำให้ระดับไขมันในเลือดลดลง
กลไกการทำงานของ Gemfibrozil
Gemfibrozil มีการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการกระตุ้นเอนไซม์บางชนิดในตับที่เรียกว่า PPAR-alpha ซึ่งช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันในตับ ลดการผลิตไตรกลีเซอไรด์ และเพิ่มการกำจัด LDL (ไขมันไม่ดี) ออกจากเลือด ทั้งนี้ยานี้ยังช่วยเพิ่มระดับ HDL (ไขมันดี) ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญในการลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ
ประโยชน์ของ Gemfibrozil
- ลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดอย่างมีนัยสำคัญ
- เพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL)
- ลดความเสี่ยงของการเกิดตับอ่อนอักเสบในผู้ป่วยที่มีระดับไตรกลีเซอไรด์สูงมาก
- อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยบางราย
วิธีใช้และขนาดยาGemfibrozil
Gemfibrozil ควรรับประทานตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น โดยทั่วไปจะให้รับประทานวันละสองครั้งก่อนอาหารเช้าหรือเย็น แนะนำให้รับประทานยาในเวลาเดียวกันทุกวันเพื่อให้ได้ผลที่ดีที่สุด หากลืมรับประทานยา ให้รับประทานทันทีที่จำได้ แต่หากใกล้เวลาที่จะรับประทานยาครั้งถัดไป ควรข้ามยาที่ลืมและรับประทานยาตามปกติ ห้ามเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า
- โดยทั่วไปรับประทานวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น ก่อนอาหารครึ่งชั่วโมง ยานี้มีขายในรูปยาเม็ดขนาด 600 มก. และแคปซูลขนาด 300 มก.
- ขนาดยาที่ใช้รักษาวันละ 1.2 กรัมโดยแบ่งให้วันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 600 มิลิกรัมวันละ 1-2 ครั้ง
- ยานี้ให้รับประทานก่อนอาหารครึ่งชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในระหว่างที่รับประทานยานี้
ควรบอกแพทย์
- หากตั้งครรภ์หรืออยู่ในระยะให้นมบุตร
- เป็นเบาหวาน
- หรือนิ่วในถุงน้ำดี
- โรคไต
- หรือโรคตับ
- กำลังรับประทานยาอะไรอยู่บ้าง โดยเฉพาะยาต้านเลือดแข็ง warfarinจะต้องติดการการแข็งตัวของเลือดถี่ขึ้น
- หากได้รับ gemfibrozil ไปแล้วสามเดือนแต่ผลการรักษายังไม่สามารถลดไขมันลงได้ ให้หยุดยา gemfibrozil
- ผู้ป่วยที่เป็นโรคไตจะมีโอกาศเกิดกลายสลายของกล้ามเนื้อ myopathy/rhabdomyolysis
- หากรับประทานยา gemfibrozil ร่วมกับ ยากลุ่ม statin จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิด myopathy/rhabdomyolysis
- ยาอาจจะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง
- เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี
ผลข้างเคียงของ Gemfibrozil
แม้ว่า Gemfibrozil จะเป็นยาที่ปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่ก็อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น
- ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ
- ท้องเสียคลื่นไส้ อาเจียน
- ปวดกล้ามเนื้อและข้อ
- มีการอักเสบที่ตับ
- ความเสี่ยงของการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี
- ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ
- ผื่นคัน
หากมีอาการแพ้ยา เช่น ผื่นลมพิษ หายใจลำบาก บวมที่ใบหน้า ปาก หรือลิ้น ควรหยุดยาและรีบพบแพทย์ทันที
ข้อควรระวังในการใช้ยา Gemfibrozil
- ห้ามใช้ Gemfibrozil ในหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่มีโรคตับหรือโรคไตควรระมัดระวังในการใช้ยา
- แจ้งแพทย์หากมีประวัติแพ้ยา fibrate หรือมีโรคประจำตัวอื่นๆ
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ขณะใช้ยา Gemfibrozil
สิ่งที่ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ
- มีประวัติแพ้ยา gemfibrozil หรือแพ้ยาอื่นๆ
- ยาอื่นๆ ได้แก่ ยาที่แพทย์สั่งจ่ายและยาที่ใช้เอง วิตามิน อาหารเสริม และยาสมุนไพร ที่ท่านใช้อยู่ในขณะนี้หรือกำลังจะใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยาต้านการแข็งตัวของเลือด (warfarin)
- มีหรือเคยมีโรคหรือสภาวะต่างๆ ดังนี้ โรคตับ โรคไต หรือโรคของถุงน้ำดี
- ตั้งครรภ์ หรือวางแผนจะตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
- หากต้องเข้ารับการผ่าตัดหรือทำฟัน ต้องแจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบก่อนทำการรักษา
ทำอย่างไรถ้าลืมรับประทานยา
- ให้รับประทานทันทีที่นึกได้ หากใกล้กับเวลารับประทานครั้งต่อไป ให้รับประทานยาครั้งต่อไปตามปกติโดยไม่ต้องเพิ่มเป็น 2 เท่า
Gemfibrozil กับการใช้ร่วมกับยาอื่น ๆ
การใช้ Gemfibrozil ร่วมกับยาบางชนิด เช่น ยาลดไขมันในกลุ่ม statins อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะกล้ามเนื้ออักเสบและไตวาย ดังนั้นผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาทุกชนิดที่กำลังใช้อยู่
ข้อสำคัญสำหรับผู้ที่ใช้ยาGemfibrozil
ให้หยุดยาและแจ้งแพทย์หากเกิดอาการดังต่อไปนี้
- ปวดท้องหลังจากรับประทานอาหาร
- ตัวเหลืองตาเหลือง
- ตามัว ปวดตา และเห็นแสงเป็นวง
- ปัสสาวะปวดแสบปวดร้อน
- ไข้ ปวดกล้ามเนื้อ อ่อนแรง
บทสรุป
Gemfibrozil เป็นยาที่ใช้ลดระดับไขมันในเลือดและลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด แต่อย่างไรก็ตาม ยานี้ควรใช้ตามคำสั่งแพทย์และมีการตรวจร่างกายเป็นระยะเพื่อความปลอดภัย ผู้ที่มีภาวะเสี่ยงต่าง ๆ หรือใช้ยาร่วมอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยา
ทบทวนวันที่
โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว