ยาแก้แพ้ Diphenhydramine
ชื่อการค้าอื่น ๆ Benadryl
ยาแก้แพ้ Diphenhydramine เป็นยาต้ามฮิสตามิน antihistamin ใช้ในการรักษาอาการจาม น้ำมูกไหล คัน น้ำตาไหลผื่นลมพิษ และอาการอื่นที่เกิดจากโรคภูมิแพ้ หรือไข้หวัด นอกจากนั้นยังใช้รักษาอาการไอ เมารถ ใช้เป็นยานอนหลับ
ผลข้างเคียงของยา Diphenhydramine
อาการที่ต้องหยุดยาและพบแพทย์ทันที
ได้แก่อาการแพ้ยาชนิดรุนแรงซึ่งมีอาการแน่นหน้าอก หายใจลำบาก บวมหน้า ลมฝีปาก ลิ้น และมีผื่นขึ้นตามตัว
ผลข้างเคียงที่รุนแรงน้อยหากเกิดให้ปรึกษาแพทย์
ได้แก่อาการ
- ง่วงนอน อ่อนเพลีย มึนงง
- ปวดศีรษะ
- ปากแห้ง
- ปัสสาวะลำบาก
ข้อควรระวังในการใช้ยา diphenhydramine
- เมื่อใช้ยา diphenhydramine อาจจะทำให้เกิดอาการง่วงนอน ดังนั้นให้ระมัดระวังเมื่อต้องขับรถ ทำงานกับเครื่องจักร หรืองานที่เสี่ยงอันตราย
- ไม่ควรใช้ร่วมกับสุราเพราะจะทำให้ง่วงซึมมาก
- สำหรับเด็กอาจจะเกิดอาการร้องไห้งอแง
- การใช้ยานอนหลับจะทำให้ซึมมากขึ้น
ข้อบ่งชี้ในการใช้ยา
- เป็นยาต้านฮิสตามีนสำหรับบรรเทาอาการแพ้ต่าง ๆ เช่น ไข้ละอองฟาง เยื่อจมูกอักเสบเนื่องจากการแพ้ ลมพิษ การแพ้อาหารและยา และยังใช้ลดน้ำมูกไหล อาการจามเนื่องจากหวัด
- บรรเทาอาการคันจากแมลงกัด
- ยานี้ยังใช้ป้องกันและรักษาอาการเมารถ โรคพาร์กินสัน
- ช่วยให้หลับดีขึ้น
- ช่วยบรรเทาอาการไอที่มีสาเหตุจากการระคายเคืองในลำคอ
วิธีการใช้ยา
- โดยปกติรับประทานครั้งละหนึ่ง – สองเม็ด วันละ 3-4 ครั้งหลังอาหารและก่อนนอน หรือทุก 6 ชั่วโมงหรือตามอาการที่เป็น
- รับประทานตอนท้องว่าง หรือหลังอาหารก็ได้ หลังรับประทานยาให้ดื่มน้ำ 1 แก้ว
- สำหรับการป้องกันการเมารถ ให้รับประทานก่อนรถออก 30 นาที หรือหากต้องการให้หลับดีขึ้นมักให้รับประทานก่อนนอน
- ยานี้มีขายในรูปแคปซูลขนาด 25 มก. และยาฉีดความแรง 50 มก./มล.
- ขนาดของ
Diphenhydramine ไม่เกิน 300 มก/วัน
ผลข้างเคียงของยา
- มักทำให้ง่วงนอน มึนงง เวียนศีรษะ ตาพร่า คนที่ขับรถ ขับเรือ หรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ควรระวังใน การใช้ยานี้ ถ้าหากมีอาการง่วงนอน ให้หยุดทำงานเหล่านี้จนกว่าจะหมดฤทธิ์ยา
- อาจมีอาการปากคอแห้ง เบื่ออาหาร ใจสั่น หงุดหงิด ความดันโลหิตต่ำ หรือแพ้ยา
- ในเด็กเล็ก ถ้าใช้ขนาดมากเกินไป อาจทำให้นอนไม่หลับ กระสับกระส่ายหรือชักได้
- ควรระมัดระวังการใช้ในผู้ป่วยที่เป็นต้อหิน, ต่อมลูกหมากโต
- หลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ร่วมกับยานอนหลับ, ยากล่อมประสาท หรือแอลกอฮอล์ เพราะจะเสริมฤทธิ์ทำให้ ง่วงนอน มากขึ้น
- ยานี้อาจทำให้เสมหะเหนียว ขับออกยาก จึงไม่ควรใช้ในผู้ป่วยที่มีอาการไอมีเสลด เช่น หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ หืด
เมื่อเกิดอาการข้างเคียงควรทำอย่างไร
ยานี้ทำให้เกิดปากแห้ง จมูกและคอแห้งได้ ให้อมลูกกวาดที่ไม่หวานนัก หรือให้ดื่มน้ำ จะช่วยบรรเทาอาการข้างเคียงดังกล่าวได้ อาการข้างเคียงที่รุนแรงแต่พบไม่บ่อย คือ อาจเกิดตาพร่า ปัสสาวะลำบาก กล้ามเนื้ออ่อนแรง ในเด็กอาจมีอาการตื่นเต้น นอนไม่หลับ มึนงงและมีผื่นขึ้นได้ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
ข้อควรระวัง
สตรีมีครรภ์ โดยเฉพาะระหว่าง 3 เดือนแรก สตรีที่คาดว่าจะตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร ไม่ควรใช้ยานี้ ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ร่วมกับการรับประทานยานี้ เพราะทำให้ง่วงนอนมากขึ้น ในคนที่มีโรคประจำตัวต่อไปนี้ ไม่ควรใช้ยา หากไม่ได้รับการแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกร ได้แก่ โรคหอบหืด ต้อหิน ปัสสาวะลำบาก เนื่องจากต่อมลูกหมากโต โรคลมชัก
ก่อนใช้ยา
diphenhydramine ต้องแจ้งแพทย์หรือเภสัชหากท่านใช้ยา หรือมีภาวะดังต่อไปนี้
- แพ้ยากลุ่ม monoamine oxidase inhibitor (MAOI) เช่น isocarboxazid, phenelzine, หรือ tranylcypromineในระยะเวลา 14 วันที่ผ่านมาเพราะอาจจะมีปฏิกิริยาระหว่างยารุนแรง
- ต้อหิน
- แผลในกระเพาะอาหาร
- ต่อมลูกหมากโต หรือปัสสาวะลำบาก
- ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ
- โรคหอบหืด
- ความดันโลหิตสูงหรือโรคหัวใจ
- ผู้สูงอายุอาจจะเกิดอาการง่วงซึมได้ง่าย
ความปลอดภัยสำหรับคนตั้งครรภ์ จัดในกลุ่ม B ค่อนข้างจะปลอดภัยสำหรับทารกในครรภ์ ยานี้ขับออกทางน้ำนมดังนั้นผู้ที่เลี้ยงบุตรด้วยนมตัวเองอาจจะทำให้เด็กง่วง
หากรับประทาน diphenhydramine จะต้องหลีกเลี่ยงอะไรบ้าง
- การขับรถ หรือทำงานกับเครื่องจักร เพราะง่วงนอน
- งดสุราเพราะจะทำให้ง่วงซึมมากขึ้น
ยาที่มีผลต่อ diphenhydramine
- ห้ามรับประทานยา diphenhydramine สำหรับผู้ที่รับประทานยากลุ่ม monoamine oxidase inhibitor (MAOI) เช่น isocarboxazid , phenelzine, หรือ tranylcypromine
- ยาคลายเครียด ยานอนหลับ ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยง่วงมากขึ้น
- ยาต้านความเครียด เช่น amitriptyline, doxepin, nortriptyline , fluoxetine, sertraline , paroxetine