ยาแก้โรคภูมิแพ้ Ketotifen
จัดเป็นยากลุ่มต้านฮีตตามินและ Mast cell stabilizer ใช้บรรเทาอาการที่เกิดจากโรคภูมิแพ้และป้องกันโรคหอบหืด
ข้อบ่งชี้ในการใช้ยา Ketotifen
- ยานี้ใช้ป้องกันและบรรเทาอาการหอบหืด หรือหลอดลมหดเกร็งที่เกิดจากการแพ้
- รวมทั้งอาการแพ้ที่ทำให้น้ำมูกไหล เยื่อตาอักเสบ และผื่นลมพิษ
- รักษาอาการแพ้ เช่น เยื่อจมูกอักเสบ เยื่อตาอักเสบ
วิธีการใช้ยา Ketotifen
- ผู้ใหญ่และเด็กน้ำหนักตัวมากกว่า 35 กก. รับประทานครั้งละหนึ่งเม็ด (1 มก.) วันละ 2 ครั้งเช้าและเย็น หรือทุก 12 ชั่วโมง
- เด็กน้ำหนักน้อยกว่า 35 กก. รับประทานครั้งละครึ่งเม็ด (0.5 มก.) หรือรับประทานตามแพทย์สั่ง
- ยานี้มีขายในรูปยาเม็ดขนาด 1 มก. และยาน้ำเชื่อมความแรง 1 มก./5 มล.
- ห้ามบดหรือเคี้ยว
- หากอาการดีขึ้นอย่าหยุดยาเอง แพทย์จะปรับขนาดยาเอง
ข้อปฏิบัติในการใช้ยา Ketotifen
- นี้ใช้สำหรับรับประทาน ให้ใช้ยานี้ตามวิธีใช้ที่ระบุบนฉลากยาอย่างเคร่งครัด โดยห้ามใช้ยาในขนาดที่มากหรือน้อยกว่าที่ระบุ และหากมีข้อสงสัยให้สอบถามแพทย์หรือเภสัชกร
- ควรรับประทานยานี้พร้อมอาหารหรือรับประทานหลังอาหารทันที
- ยานี้อาจทำให้ง่วงซึม ควรหลีกเลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะและการควบคุมเครื่องจักร
- ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างใช้ยานี้
หากใช้ยา Ketotifen ไม่ควรใช้ยาอะไรบ้าง
- แจ้งให้แพทย์ทราบชื่อยาที่รับประทานทั้งยาที่แพทย์จ่าย หรือซื้อยารับประทานเอง
- ยารักษาโรคเบาหวาน
- ยาที่ทำให้เกิดง่วงซึมเช่น ยานอนหลับ ยาคลายเครียด ยาแก้แพ้ ยารักษาจิตเวช ยากันชัก
- ยาแก้หวัด ยาแก้ไอ
อาการอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา Ketotifen
อาการที่ต้องแจ้งแพทย์ทันที
- อาการอันไม่พึงประสงค์ที่ต้องแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทันที โดยเฉพาะอาการแพ้รุนแรงซึ่งมีอาการดังนี้ อาการแพ้ เช่น ผื่นที่ผิวหนัง ผื่นคันหรือลมพิษ หน้าบวม ปากบวม หรือลิ้นบวม
อาการแพ้ที่พบได้ระหว่างการใช้ยา
- อาการอันไม่พึงประสงค์อื่นที่อาจเกิดระหว่างใช้ยา หากเป็นต่อเนื่อง หรือ รบกวนชีวิตประจำวัน ให้ แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ มีดังนี้ ปากแห้ง
ง่วงซึม อาการที่พบบ่อย ได้แก่ ง่วงนอน ปากแห้ง มึนงง น้ำหนักตัวเพิ่มเพราะรับประทานได้มากขึ้น อาการดังกล่าว หากทนไม่ได้ควรหยุดยาและเปลี่ยนไปใช้ยาอื่นแทน
สิ่งที่ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ
- ประวัติแพ้ยา ketotifen
- ใช้หรือกำลังจะใช้ยาอื่นๆ ทั้งยาที่แพทย์สั่งจ่ายและยาที่ใช้เอง วิตามิน อาหารเสริม และสมุนไพร
- ตั้งครรภ์ วางแผนจะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- มีหรือเคยมีโรคตับ โรคเบาหวาน โรคลมชัก
- หากท่านกำลังจะเข้ารับการผ่าตัด หรือการทำทันตกรรมใดๆ ควรแจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบว่าท่านกำลังใช้ยานี้อยู่