คออักเสบ Pharyngitis
คออักเสบ Pharyngitis หมายถึงเนื้อเยื่อที่ด้านหลังของคอมีการอักเสบ บวม สาเหตุที่พบบ่อยเกิดจากเชื้อไวรัสหรือที่เราเรียกว่าไข้หวัด เชื้อ coxsackie virus แต่ผู้ป่วยบางรายเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย
- เชื้อที่พบบ่อยคือเชื้อ group A Streptococcus
- ที่พบรองลงมาได้แก่เชื้อหนองใน gonorrhea และเชื้อ
ผู้ที่เป็นโรคคออักเสบมักจะเกิดในฤดูหนาวและติดต่อกันสำหรับผู้ที่ติดต่อใกล้ชิด
สาเหตุของคออักเสบ
สาเหตุจากไวรัส VIRUSES
คออักเสบจากการติดเชื้อไวรัสพบว่าเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด ผู้ป่วยจะมีอาการน้ำมูกไหล น้ำตาไหล ครั่นเนื้อครั่นตัว เสียงแหบ ไข้ต่ำๆ สำหรับเด็กอาจจะมีอาการหายใจทางปาก อาเจียน ปวดท้อง ท้องร่วง
สาเหตุจากการติดเชื้อ INFECTIOUS MONONUCLEOSIS
พบการติดเชื้อนี้ในเด็กอายุ 15-30 ปี จะมีไข้ เจ็บคอ ครั่นเนื้อครั่นตัว ตรวจที่คอจะพบมีฝ้าสีขาวในคอ ต่อมน้ำเหลืองโต ตับม้ามโต หากรักษาด้วยยา amoxicillin หรือ ampicillin พบว่าร้อยละ 90 จะมีผื่นขึ้น
สาเหตุจากเชื้อแบคทีเรียBACTERIA
ผู้ที่คออักเสบจากเชื้อแบคทีเรียโดยเฉพาะ group A streptococcus จะไม่มีน้ำมูก หรือไอ หรือน้ำตาไหล จะมีไข้สูง เจ็บคอ ครั่นเนื้อครั่นตัว ตรวจพบคอจะแดง ต่อมทอนซิลจะมีหนอง ลิ้นไก่บวม ต่อมน้ำเหลืองโต โรคแทรกซ้อนที่สำคัญ
- โรคหัวใจ Rheumatic fever
- หนองที่ต่อมทอนซิล
- ไตอักเสบ Poststreptococcal glomerulonephritis
- Scarlet fever
สาเหตุจากเชื้อแบคทีเรียอื่นๆได้แก่
- เชื้อหนองใน Gonococcal pharyngitis มักจะเกิดในผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ทางปาก จะมีไข้สูง เจ็บตอ ปัสสาวะขัด และมีหนองสีเขียวที่คอ
- จากเชื้อ Chlamydia
- จากเชื้อ Diphtheria หรือคอตีบ
คออักเสบอาจจะแบ่งเป็น
- คออักเสบเฉียบพลัน Acute pharyngitisซึ่งมักจะหายใน 3-7 วันมักจะเกิดในเด็กอายุ 5-15 ปี
- คออักเสบเรื้อรัง มักจะมีอาการหลายสัปดาห์
อาการที่สำคัญของคออักเสบ
เจ็บคอเป็นอาการที่สำคัญ อาการอื่นๆได้แก่
- มีไข้มากกว่า 37.5 องศา
- ปวดศีรษะ
- ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ
- ผื่นตามผิวหนัง
- ต่อมน้ำเหลืองที่คอโต
- กลืนอาหารแล้วเจ็บคอ
- น้ำมูกไหล ไอ
- คลื่นไส้อาเจียน
การวินิจฉัยคออักเสบ
ทำได้ง่ายเมื่อแพทย์ฟังประวัติการเจ็บป่วยจะส่องดูคอพบว่าคอแดง การตรวจชนิดอื่นไม่ค่อยมีความจำเป็น
การรักษาคออักเสบ
ผู้ที่เป็นคออักเสบส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ จะให้ยาปฏิชีวนะในกรณี
- การเพาะเชื้อขึ้นเชื้อ strep หรือ chlamydia หรือ gonorrheaให้ผลบวก
การรักษาทั่วๆไปได้แก่
- ดื่มน้ำอุ่น เช่น ชามะนาว ชาน้ำผึ้ง
- กรวกคอด้วยน้ำเกลืออุ่นๆบ่อยๆ
- อมลูกอมแก้เจ็บคอ
- เพิ่มความชื้นในอากาศด้วยเครื่องเพิ่มความชื้นเพื่อลดอาการเจ็บคอ
- หากมีอาการปวดใช้ paracetamol
โรคแทรกซ้อน
- การติดเชื้อของหู
- ไซนัสอักเสบ
- ต่อมทอนซิลอักเสบ
- ฝีบริเวณต่อมทอนซิล
เมื่อไรจะต้องไปพบแพทย์
- อาการเจ็บคอไม่ทุเลาหลังจากป่วมาสองสัปดาห์
- ไข้สูงมากกว่า 38 องศาติดต่อกันหลายวันแม้ว่าจะได้รับประทานยาลดไข้
- มีไข้สูง ต่อมน้ำเหลืองโต และมีผื่น
- มีอาการเจ็บคอถี่ขึ้น