แผลเป็นจากสิว

 

แผลเป็นจากสิว หากเป็นสิวธรรมดาหัวขาวหรือหัวดำ เมื่อหายจะไม่เป็นแผลเป็น แต่หากเป็นสิวที่มีการอักเสบชนิด nodular หรือเป็นหนอง pustular เมื่อหายอาจจะทำให้เกิดแผลเป็นซึ่งพบได้หลายลักษณะ

  • macule ลักษณะเป็นผื่นแดงไม่นูนซึ่งเกิดจากการอักเสบ รอยแดงอาจจะเป็นอยู่นานหลายเดือนกว่าจะจางหาย
  • Post inflammatory hyperpigmentation คือเป็นรอยด่างดำหลังจากสิวหายแล้ว อาจจะอยู่ได้นาน 18 เดือน เกิดจากการอักเสบของผิวหนัง การป้องกันให้หลีกเลี่ยงแสงแดด อาจจะใช้ยาทาพวกวิตามินเอ หรือกรดผลไม้จะช่วยให้ผื่นจางลง

สาเหตุของการเกิดแผลเป็น

ๅ

เมื่อผิวหนังเกิดการอักเสบ ร่างกายจะจัดการแก้ไขโดยเม็ดเลือดขาวจะมาเก็บพวกเชื้อโรคและเซลล์ที่ตายแล้ว ร่วมกับปฏิกิริยาของการอักเสบ ทำให้เกิกดพังผืดบริเวณแผล

ชนิดของแผลเป็น

ชนิดของแผลเป็นแบ่งออกเป็นสองชนิดคือ

  1. ชนิดที่เป็นแผลนูน เนื่องจากมีพังผืดปริมาณมากมาเกาะที่แผลทำให้เกิดลักษณธที่เรียกว่า keloid
  2. ชนิดแผลเป็นที่เป็นรอยบุ๋มลงซึ่งมีได้หลายลักษณะ

ๅ

การป้องกันแผลเป็นจากสิว

การป้องกันที่ดีที่สุดคือลดการอักเสบของสิว โดยการรักษาสิวอย่างถูกต้อง ไม่บีบหัวสิวเอง



การรักษาแผลเป็นจากสิว

จดุประสงค์ของการรักษาคือทำให้ผิวหนังกลับสู่ปกติให้มากที่สุด การรักษาสามารถทำได้้หลายวิธี

  • การทำ Soft tissue fillers โดยการฉีดสาร  Collagen หรือไขมัน fat ไปยังบริเวณแผลเป็นเพื่อให้ผิวนูนขึ้นมาทำให้แผลเป็นตื้น ซึ่งจะต้องฉีดเป็นระยะ
  • การลอกหน้า โดยการใช้สารเคมีที่เป็นกรดทาใบหน้าและลอกเอาผิวส่วนบนออก
  • การขัดหน้า Dermabrasion จะใช้ในกรณีมีมีแผลเป็นค่อนข้างมาก ว฿่งจะลอกเอาผิวส่วนบนออก ข้อเสียอาจจะทำให้ผิวคล้ำ
  • Microdermabrasionเป็นการขัดผิวโดยการลอกส่วนหน้าของผิวโดยการเป่า crystals ไปที่ผิว และใช้เครื่องดูดทั้ง crystals และผิวออก ของดีคือผิวไม่ถูกลอก แต่แผลเป็นยังคงสังเกตเห็นแม้ว่าจะทำหลายครั้ง
  • การใช้ laserเพื่อลอกเซลล์หนังกำพร้าออก และจะมีเซลล์ใหม่ขึ้นมาแทนที่ หลังจากทำหลายครั้งแผลเป็นจะตื้นลง
  • การผ่าตัด โดยการผ่าตัดเอาแผลเป็นออก

สิวหัวดำ(open comedone) | สิวหัวขาว(close comedone) | สิวชนิด papule | สิวชนิด cystic acne | สิวหัวหนอง | สิวหัวช้างชนิด nodular | แผลเป็น scar