jrprint

หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | วัคซีน

adv

การแพ้ถั่วลิสง: คู่มือฉบับสมบูรณ์เกี่ยวกับอาการ สาเหตุ และการจัดการ

อาการแพ้ถั่วลิสง: ความสำคัญที่คุณควรรู้

อาการแพ้ถั่วลิสง (Peanut Allergy) เป็นหนึ่งในอาการแพ้อาหารที่พบได้บ่อยและอาจมีความรุนแรงถึงขั้นเป็นอันตรายถึงชีวิตในบางกรณี อาการแพ้ประเภทนี้เกิดจากปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันของร่างกายที่ตอบสนองต่อโปรตีนในถั่วลิสงผิดปกติ ซึ่งกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ที่หลากหลายตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง




สาเหตุของอาการแพ้ถั่วลิสง

อาการแพ้ถั่วลิสงเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันมองโปรตีนในถั่วลิสงว่าเป็นสิ่งแปลกปลอม ร่างกายจึงปล่อยสารเคมี เช่น ฮิสตามีน (Histamine) ออกมา ซึ่งก่อให้เกิดอาการแพ้ต่าง ๆ
ปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มโอกาสแพ้ถั่วลิสง ได้แก่:

  1. ประวัติครอบครัว: หากมีสมาชิกในครอบครัวแพ้อาหาร อาจมีความเสี่ยงแพ้ถั่วลิสงเพิ่มขึ้น
  2. อาการภูมิแพ้อื่น ๆ: ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ เช่น หอบหืด หรือโรคภูมิแพ้ผิวหนัง (eczema) มีโอกาสแพ้ถั่วลิสงมากขึ้น
  3. การสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ตั้งแต่อายุน้อย: บางคนที่สัมผัสถั่วลิสงหรือผลิตภัณฑ์ถั่วลิสงตั้งแต่เด็ก อาจพัฒนาเป็นอาการแพ้ในอนาคต

อาการของการแพ้ถั่วลิสง

อาการแพ้ถั่วลิสงสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วหลังการบริโภคหรือสัมผัส โดยมีอาการตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงรุนแรง เช่น:

อาการเล็กน้อยถึงปานกลาง:

อาการรุนแรง (Anaphylaxis):

Anaphylaxis เป็นอาการที่ต้องการความช่วยเหลือทางการแพทย์ฉุกเฉินและการฉีดอะดรีนาลีน (Epinephrine) เพื่อช่วยชีวิต


การวินิจฉัยอาการแพ้ถั่วลิสง

หากสงสัยว่าแพ้ถั่วลิสง ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิแพ้ แพทย์จะทำการตรวจและวินิจฉัยด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น:

  1. การทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง (Skin Prick Test): ใช้สารสกัดโปรตีนจากถั่วลิสงแตะบนผิวหนังเพื่อดูปฏิกิริยา
  2. การตรวจเลือด (Blood Test): วัดระดับแอนติบอดี IgE ที่เกี่ยวข้องกับการแพ้ถั่วลิสง
  3. การทดสอบบริโภคอาหาร (Oral Food Challenge): ให้ผู้ป่วยบริโภคถั่วลิสงในปริมาณน้อยภายใต้การดูแลของแพทย์



การป้องกันและการจัดการอาการแพ้ถั่วลิสง

  1. หลีกเลี่ยงการบริโภคถั่วลิสง: อ่านฉลากอาหารทุกครั้งก่อนรับประทาน และหลีกเลี่ยงอาหารที่อาจปนเปื้อนถั่วลิสง เช่น ขนมอบ น้ำจิ้ม หรือซอสบางชนิด
  2. พกยาฉีดอะดรีนาลีน (EpiPen): สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้รุนแรง ควรพกยาฉีดอะดรีนาลีนติดตัวเสมอ
  3. แจ้งให้ผู้อื่นทราบ: บอกเพื่อน ครอบครัว หรือบุคลากรในโรงเรียนเกี่ยวกับอาการแพ้ เพื่อให้สามารถช่วยเหลือได้ในกรณีฉุกเฉิน
  4. การรักษาอาการแพ้: ในบางกรณี แพทย์อาจแนะนำการบำบัดด้วยการสร้างความทนทานต่อโปรตีนในถั่วลิสง (Oral Immunotherapy)

บทสรุป

อาการแพ้ถั่วลิสงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากอาจนำไปสู่อาการรุนแรงได้ การหลีกเลี่ยงถั่วลิสงและการเตรียมความพร้อมรับมือในกรณีฉุกเฉินเป็นสิ่งสำคัญที่สุด หากคุณหรือคนรอบข้างมีอาการแพ้ถั่วลิสง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงและใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยค่ะ

 

ทบทวนวันที่ 6/12/2024

โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว

Google
 

เพิ่มเพื่อน