ยาโคลไตรมาโซล (Clotrimazole)

ยาโคลไตรมาโซล (Clotrimazole) มีคุณสมบัติยับยั้งและต่อต้านเชื้อราได้หลายชนิด เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะถูกตับเปลี่ยนโครงสร้างของยาเป็นสารที่ไม่ออกฤทธิ์ และถูกขับออกจากร่าง กายทางปัสสาวะและทางอุจจาระ

ข้อบ่งชี้ในการใช้ยา

  • ยานี้ใช้รักษาตกขาว
  • และโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา
  • และฝ้าขาวในปากเองจากเชื้อรา

ขนาดและวิธีการใช้ยา

  • ยานี้สำหรับโรคผิวหนังใช้ทาวันละ 2 ครั้ง หลังอาบน้ำเช้าและเย็น
  • สำหรับตกขาวใช้เหน็บช่องคลอดครั้งละ 1 แห่ง วันละครั้งก่อนนอนติดต่อกัน 6 คืน หรือครั้งละ 2 แท่ง วันละครั้งก่อนนอนติดต่อกัน 3 คืน
  • สำหรับฝ้าในปากใช้ครั้งละ 10-20 หยด วันละ 3-4 ครั้ง อมกลั้วปาก โรคเชื้อราในช่องปากถูกออกแบบให้เป็นยาอมที่มีขนาดความแรง 10 มิลลิกรัมต่อเม็ด อม 5 ครั้งต่อวัน โดยอมต่อเนื่องไม่เกิน 14 วัน
  • ยานี้มีขายในรูปยาเม็ดเหน็บช่องคลอดขนาด 100 มก. (canesten 1 ขนาด 500 มก.)
  • ครีมความแรง 1% ยาทาปากความแรง 1%
  • ผู้ที่ใช้รักษาตกขาวไม่ควรใช้ผ้าอนามัยชนิดสอดเพราะอาจดูดซับยาไว้
  • ไม่สวนล้างช่องคลอดหากแพทย์ไม่สั่ง
  • ในระหว่างรักษาหากมีประจำเดือนก็ให้เหน็บยาต่อไปตามปกติ

คำแนะนำพิเศษ 

  • สำหรับตกขาวให้เหน็บยาให้ครบ หากยังไม่หายควรปรึกษาแพทย์
  • สำหรับยาทาหากเป็นที่เท้าทาประมาณ 4 สัปดาห์ ที่ขาหนีบหรือลำตัวทาประมาณ 2 สัปดาห์

หากอาการไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์ เมื่อทายาจนหมดแล้วให้ทาต่ออีก 2 สัปดาห์

ความปลอดภัยของยานี้ในสตรีมีครรภ์ สำหรับสตรีมีครรภ์ ยานี้จัดอยู่ในประเภท B (เมื่อใช้ทาหรือเหน็บช่องคลอด) ประเภท C เมื่อใช้รักษาเชื้อราในปากและทางเดินอาหาร ดังนั้นยาครีมทาผิวหนังที่เป็นยาเดี่ยวสามารถใช้กับหญิงมีครรภ์ได้อย่างปลอดภัย แต่ห้ามใช้ชนิดที่เป็นยาอมรับประทานในหญิงมีครรภ์ด้วยก่อให้เกิดความพิการของทารกในครรภ์ได้

ผลข้างเคียงของยา

  • ในรูปแบบยาทาผิวหนัง อาจก่อให้เกิดภาวะผื่นคัน และระคายเคืองผิวหนังได้
  • ในรูปแบบยาอม อาจทำให้รู้สึกไม่สบายในระบบทางเดินอาหาร รวมไปถึงในการขับถ่าย อาจเกิดปัสสาวะติดขัด เกิดภาวะซึมเศร้า อีกทั้งอาจทำให้เกิดตับอักเสบได้

ข้อควรระวังในการใช้ยา

  • หลีกเลี่ยงการทายาที่ตาหรือบริเวณตา เพราะอาจก่อให้ตาเกิดการระคายเคืองได้
  • ห้ามใช้ยาชนิดอมในหญิงมีครรภ์
  • ห้ามใช้ยากับผู้ที่แพ้ยานี้