การตั้งครรภ์เดือนที่1

สำหรับทานที่ไม่ได้วางแผนการตั้งครรภ์ท่านอาจจะไม่มีอาการอะไร ประจำเดือนที่เลื่อนก็เลื่อนเป็นปกติ

แต่สำหรับทานที่ประจำเดือนมาปกติ ช่วงนี้ก็จะมีการเลื่อนของประจำเดือนโดยที่ไม่มีอาการ

สัปดาห์ที่1 ของการตั้งครรภ์

สัปดาห์แรก ขนาดของทารกยังเหมือนวุ้นไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิแล้ว 5-7 วันจะฝังตัวที่ผนังมดลูก[uterus] ไข่เจริญอย่างรวดเร็วเรียก ตัวอ่อน [embryo] ซึ่งจะมีการสร้าง รก[ placenta] และสายสะดือ umbilical cord ] เพื่อเป็นทางนำอาหารจากแม่สู่ลูกและขับของเสียจากลูกสู่แม่ เด็กจะอยู่ในถุงน้ำเรียก amniotic sac ซึ่งป้องกันแรงเด็กจากการกระแทก

สัปดาห์ที่2-3

ปฏิสนธิสัปดาห์แรก

สัปดาห์แรก

สัปดาห์ที่สอง

สัปดาห์ที่สี่

จะมีการสร้างประสาทไขสันหลังและกระดูกสันหลังรวมทั้งเส้นประสาท เมือเวลาผ่านไป 6 สัปดาห์เด็กจะมีหัวและลำตัว

สัปดาห์ที่ 4 เซลล์จะแบ่งตัวประมาณ 150 เซลล์และแบ่งเป็น3ชั้นได้แก่

  1. ชั้นนอก ectoderm ซึ่งจะสร้าง สมองเส้นประสาท และผิวหนัง
  2. ชั้นกลาง mesodermซึ่งจะกลายเป็นกล้ามเนื้อ กระดูก เส้นเลือด หัวใจและอวัยวะเพศ
  3. ชั้นใน endoderm ซึ่งจะกลายเป็นอวัยวะภายในเช่น ตับ หัวใจ กระเพาะ ปอด เป็นต้น

เด็กจะมีขนาดประมาณ1/4 นิ้ว เริ่มมีการสร้างหัวใจ (5-6สัปดาห์หลังจากประจำเดือนครั้งสุดท้าย) ตาและแขน แต่ยังฟังเสียงหัวใจไม่ได้ สิ้นสุดสัปดาห์ที 6 เด็กจะมีขนาดครึ่งนิ้ว

การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายทารก

ในระยะแรกของการตั้งครรภ์จะมีอาการอ่อนเพลีย ง่วงนอน ปัสสาวะบ่อย คลื่นไส้ อาเจียน แน่นท้อง ท้องอืด คัดเต้านม อารมณ์จะผันผวนเหมือนก่อนมีประจำเดือน บางท่านอาจจะมีอาการเลือดออกเล็กน้อย เนื่องจากตัวอ่อนฝังตัวอาการต่างๆจะเป็นมากน้อยในแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน

การเปลี่ยนแปลงของพ่อบ้าน

จะมีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ ทั้งดีใจ ตื่นเต้น ไม่มั่นใจว่าเด็กเกิดมาจะเลี้ยงเป็นหรือไม่ ใครเป็นเลี้ยง เป็นต้น คุณแม่ควรปรึกษากับพ่อบ้านในเรื่องต่างๆที่สงสัย

ข้อควรปฏิบัติเมื่อทราบว่าตั้งครรภ์

เมื่อท่านเริ่มทราบว่าตั้งครรภ์ และไม่แน่ใจว่าตั้งครรภ์หรืไม่เรามีข้อแนะนำสำหรับทาน้

  • สำหรับท่านที่ไม่ได้วางแผนการตั้งครรภ์คงจะไม่ได้รับวิตามินมาก่อน แนะนำให้ท่านหาวิตามินโฟลิกมารับประทาน เพื่อป้องกันความพิการทางสมอง
  • รับประทานอาหารที่มีคุณภาพ ยังไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณอาหารเพราะระยะนี้เด็กยังไม่ต้องการพลังจากอาหาร
  • ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว
  • ซื้อแทบตรวจปัสสาวะมาตรวจซึ่งอาจจะให้ผลบวก
  • ตรวจกลุ่มเลือด และหาความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด
  • ตรวจเลือดเพื่อหาดูว่ามีโรค ซิฟิลิส เอดส์ ไวรัสตับอักเสบ บี หัดเยอรมัน
  • ตรวจปัสสาวะหาไข่ขาว น้ำตาล และการติดเชื้อแบคทีเรีย
  • ตรวจมะเร็งปากมดลูก

กลับหน้าหลัก เดือนที่สอง

สัปดาห์ที่ 1 2 3 4

เดือนที่ เดือนที่2