การฟื้นฟูผิวด้วยเลเซอร์ Laser resurfacing

เทคโนโลยี่ของการทำLaser ได้มีการพัฒนาไปอย่างมากทำให้แพทย์มีทางเลือกรักษาผิวที่แก่ก่อนวัย การใช้ Laser เพื่อทำให้ผิวหนังดูอ่อนกว่าวัย ผิวตึง และราบเรียบ ซึ่งหากเป็นสมัยก่อนหน้านี้จะไม่มีทางรักษา เช่น ปาน เส้นเลือดฝอย

ลำแสง Laser มีทั้งที่มองไม่เห็นได้แก่ infrared และที่มองเห็นได้แก่สี แดง เหลือง เขียว ความยาวของคลื่นแสงแต่ละชนิดไม่เท่ากัน และมีผลต่อความลึกที่คลื่นแสงนั้นจะทะลุลงใต้ใชั้นผิวหนัง ดังนั้นคลื่นแสงแต่ละชนิดจะเหมาะกับโรคแต่ละโรคตัวอย่างเช่น แสงสีเหลือง และสีเขียวจะเหมาะที่จะรักษาโรคปาน เส้นเลือดฝอย ส่วนลำแสง infrared จะเหมาะที่จะลบรอยย่นบนใบหน้า ลบรอยตีนกา

Fractional laser resurfacing

การทำ Laser วิธีนี้จะทดแทนการทำวิธีเก่าเนื่องจากหายเร็ว ทำให้ผิวหนังแข็งแรงเนื่องจากการทำด้วยวิธีนี้ มิได้ทำให้เซลล์เสียหายทั้งหมดมีเพียงบางส่วนที่ได้รับพลังงาน เซลล์ส่วนที่เหลือก็จะสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมา ทดแทนเซลล์ที่ตายไปการทำLaser แบบนี้มีสองวิธีได้แก่ : ablative และ non-ablative. การทำ Laser ทั้งสองชนิดใช้เวลาพักฟื้นสั้น ไม่เป็นแผลเป็น มีอัตราการติดเชื้อต่ำ

Fractional ablative laser resurfacing.

ชนิดที่เกิดแผลที่เรียกว่า ablative laser ซึ่งเป็นการขัดเอาเซลล์มี่อยู่ผิวนอกออก การทำ Laser ชนิดนี้มุ่งที่จะรักษาที่ผิวหนังส่วนนอกสุดและชั้นรองลงมา ซึ่งจะทำให้ได้เซลล์ใหม่ซึ่งมีทั้งcollagen และเนื้อเยื่อมาแทนที่เซลล์เก่า จะทำให้ผิวหนังเต่งตึงและลบรอยด่างดำ อาจจะต้องทำหลายครั้ง หลังจากทำอาจจะมีอาการคัน บวมเป็นเวลาสัปดาห์หรือเดือน

Fractional non-ablative laser resurfacing.

ชนิดที่ไม่เกิดแผลที่เรียกว่า nonablative laser ซึ่งเป็นการทำให้ผิวกระชับโดยการกระตุ้นให้ผิวสร้าง collagen การทำ laser ชนิดนี้การทำ Laser ชนิดนี้จะไม่ทำลายเซลล์ด้านบนของผิวหนัง แต่จะลงลึกใต้ชั้นผิวหนังแต่ประสิทธิภาพสู้ชนิดมีแผลไม่ได้ การรักษาจะทำ 4-6 ครั้งแต่ละครั้งห่างกัน 4-6 สัปดาห์ การรักษาจะใช้ยาชาเฉพาะที่เท่านั้น หลังรักษาผิวหนังจะมีอาการบวมแดงเป็นสัปดาห์ ใช้รักษารอยย่น ตีนกา สีผิวผิดปกติ ทำให้ผิวตึงขึ้น ผลการรักษาจะเห็นชัดประมาณ2-3 เดือน

 

Non-fractional ablative laser resurfacing

เป็นการใช้ Laser เพื่อเสริมความงามโดยเฉพาะ เป็นการปรับสภาพผิวหนังที่เกิดจาก แผลที่เกิดจากสิว รอยย่น รอยตีนกา ผื่นชนิด actinic keratosis ที่เกิดจากแสงแดด แต่ Lasrer ชนิดนี้ไม่สามารถลบรอยย่นที่อยู่ลึกใต้ผิวหนัง มีด้วยกัน สองรูปแบบ

  • การใช้ Carbon dioxide (CO² ) laser Laser นี้จะสามารถลงได้ลึกหว่าชนิด  erbium: YAG laser เหมาะสำหรับการลบรอยย่นที่อยู่ลึก การใช้ Laser จะทำให้เกิดความร้อน และปวดขณะทำจึงต้องใช้ยาชาช่วย
  • การใช้ Erbium:YAG laser จะทำให้เกิดความร้อนน้อยกว่า และลบรอยย่นได้ตื้นกว่า แต่ใช้เวลาพักฟื้นสั้นกว่า

CO2 laser resurfacing

แพทย์ได้ใช้ CO2 lasers มารักษาโรคผิวหนังเป็นเวลานาน The laser penetrates approximately 30 µm within the skinโรคหรือภาวะที่แพทย์ใช้รักษาได้แก่

CO2 laser จะมีความยาวคลื่น (wavelength)= 10,600 nm น้ำที่อยู่ในเนื้อเยื่อจะดูดซึมพลังงานความร้อนจาก laser ทำให้เกิดความร้อนซึ่งอาจจะสูงกว่า 100 องศาและสามารถลงลึก 30 µm จากชั้นบนสุดของผิวหนัง

Erbium Laser Resurfacing

Erbium laser resurfacing จะทำการขัดเอาเซลล์ที่อยู่ผิวๆ และรอยย่นหรือร่องที่ไม่ลึกบริเวณหน้า มือ คอ และหน้าอก การใช้ laser ชนิดนี้จะไม่เกิดความร้อนเท่า CO2 laser resurfacing ดังนั้นเนื้อเยื่อจึงไม่ได้รับอันตรายจากการทำ ดังนั้นโรคแทรกซ้อน เช่นอาการบวม ผื่นแดง หรือเลือดออกจึงน้อยกว่าชนิด CO2 laser resurfacing หากท่านมีผิวคล้ำน่าจะใช้ Laser ชนิดนี้

  • การใช้ Carbon dioxide (CO² ) laser Laser นี้จะสามารถลงได้ลึกหว่าชนิด  erbium: YAG laser เหมาะสำหรับการลบรอยย่นที่อยู่ลึก การใช้ Laser จะทำให้เกิดความร้อน และปวดขณะทำจึงต้องใช้ยาชาช่วย
  • การใช้ Erbium:YAG laser จะทำให้เกิดความร้อนน้อยกว่า และลบรอยย่นได้ตื้นกว่าและใช้เวลาพักฟื้นสั้นกว่า

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

เลเซอร์

การทำเลเซอร์

Laser เพื่อผิวอ่อนว้ย

กำจัดขน

Laser กำจัดขน

เลเซอร์หลอดเลือดขอด

Laser ลบหลอดเลือด

เพิ่มเพื่อน