ความดันโลหิตสูง


ค่าความดันโลหิตมีสองค่า คือความดันโลหิตตัวบนเรียก Systolic ความดันโลหิตตัวล่างเรียก Diastolic เมื่อสมัยก่อนจะเน้นเรื่องความดันตัวล่างคือ diastole ว่าหากสูงจะทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด แต่ปัจจุบันทั้งความดันตัวบน( systole ) และความดันตัวล่าง(diastole) สูงจะทำให้เกิดทั้งโรคหัวใจ และหลอดเลือด พบว่าหากเป็นความดันโลหิตสูงโรคเดียว จะพบว่าเกิดโรคหลอดเลือดสมองมาก ภาวะนี้พบได้ในประเทศแทบเอเซีย แต่หากมีโรคอื่น เช่น ไขมัน เบาหวาน หรือสูบบุหรี่จะพบโรคหัวใจมากกว่าโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งเป็นภาวะที่พบในประเทศยุโรปและอเมริกา

ความดันโลหิตตัวบน ความดันโลหิตตัวล่างหรือ ช่วงระหว่างความดันโลหิตตัวบนและตัวล่าง อันไหนมีความสำคัญ

  • ในการศึกษาที่ผ่านมาพบว่า ความดันโลหิตตัวบน systolic และความดันโลหิตตัวล่าง diastolic หากค่าใดค่าหนึ่งสูงจะมีผลทำให้เกิดโรคหัวใจ โรคสมองเพิ่มขึ้น ดังนั้นในการรักษาจะต้องรักษาให้ทั้งสองค่าอยู่ในเกณฑ์ใกล้เคียงปกติให้มากที่สุด
  • สำหรับความแตกต่างระหว่างความดันโลหิตตัวบน และตัวล่าง(ความดันโลหิตตัวบนลบตัวล่าง)นั้นไม่ควรเกิน50-55 หากค่านี้เกินในคนอายุมากว่า55ปีจะถือว่าเป็นความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือด เพราะถือว่าน่าจะมีโรคหลอดเลือดแข็งหรือตีบแล้ว อ่านที่นี่


คำจำกัดความของความดันโลหิตสูงและการจัดความรุนแรงของความดันโลหิตสูง

 

ค่าความดัน sysytole

 

ค่าความดนตัวล่าง diastole

ค่าความดันที่ต้องการ

optimal

<120 และ <80

ค่าความดันปกติ

normal

120-129 และหรือ 80-84

ค่าความดันปกติแต่สูง

high normal

130-149 และหรือ 85-89

ความดันสูงระดับ1

grade1hypertension

150-169 และหรือ 90-99

ความดันสูงระดับ2

grade2hypertension

170-189 และหรือ 100-109

ความดันสูงระดับ3

grade3hypertension

>180 และหรือ >110

ความดันสูงตัวบน

isolated hypertension

>140 และ <90


เมื่อท่านวัดความดันโลหิตแล้ว ดูว่าความดันโลหิตท่านอยู่ในช่วงไหน โดยดูทั้งความดันตัวบนและตัวล่าง หากว่าค่าใดสูงให้เอาค่านั้น เช่าหากวัดได้ค่าความดันโลหิต150/120 mmHg จะจัดว่าท่านอยู่ในความดันโลหิตระดับ 3 แม้ว่าความดันตัวบนของท่านจะอยู่ในระดับ 1

White coat (isolated office) hypertension และ masked (isolated ambulatory) hypertension

ความดันโลหิตที่โรงพยาบาลมักจะสูงกว่าความดันโลหิตที่วัดจากที่บ้าน เนื่องจากความตื่นเต้น, ความกังวล ความเครียด หรือตอบสนองต่อสภาวะขณะนั้น ความแตกต่างของความดันโลหิต ดังกล่าวคือ white coat effect White coat hypertension (WCH) หมายถึงความดันโลหิตที่โรงพยาบาล/คลินิกสูง แต่ความดันโลหิตที่บ้านปกติ ในทางกลับกัน ความดันโลหิตที่โรงพยาบาล/คลินิกปกติ และ ความดันโลหิตที่บ้านสูงเรียก masked hypertension (MH) โดยค่าที่ใช้ตัดสินความดันโลหิตสูง ความดันโลหิตที่โรงพยาบาล คือ 140/90 มม.ปรอท และ ความดันโลหิตที่บ้านคือ 135/85 มม.ปรอท

  • White coat hypertension พบความชุกของ WCH ร้อยละ 13 (ระหว่างร้อยละ 9-16) ในประชากรทั่วไป และร้อยละ 32 (ระหว่างร้อยละ 25-46) ในผู้ที่เป็นความดันโลหิตสูง
  • Mask hypertension พบความชุกของ MH ร้อยละ 13 (ระหว่างร้อยละ 10-17) ในประชากรทั่วไป13 จากข้อมูล บ่งชี้ว่าอุบัติการณ์ของโรคหัวใจและหลอดเลือดพบเป็น 2 เท่าสูงกว่าคนที่ความดันโลหิตปกติ และอุบัติการณ์ของCV event พบพอๆ กับผู้ที่มีความดันโลหิตสูงถาวร14,16 ข้อบ่งชี้ทางคลินิกในการวัด out-of-office ความดันโลหิต เพื่อการวินิจฉัย

หลังจากที่ทราบค่าความดันโลหิตแล้ว ท่านต้องมาพิจารณาว่าท่านมีความเสียงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดอยู่ในขั้นไหน คลิกที่นี่

ความดันโลหิตสูง คำถามที่พบบ่อย

ความดันโลหิตสูง ความเสี่ยงของการเกิดโรคแทรกซ้อน