อาการของโรคเส้นเลือดหัวใจตีบเป็นอย่างไร
อาการเจ็บหน้าอกเป็นอาการที่สำคัญที่สุดของโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดหรือกล้ามเนื้อหัวใจตายจากขาดเลือด ผู้ป่วยซึ่งเริ่มมีเส้นเลือดตีบอาจจะไม่มีอาการอะไรแสดงออกมา จนกระทั่งเส้นเลือดตีบมากขึ้น หัวใจได้รับเลือดไปเลี้ยงไม่พอจึงเกิดอาการเจ็บหน้าอก โดยเฉพาะเวลาออกกำลังกายหรือทำอะไรรีบๆ กลุ่มอาการของกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดได้แก่
- ไม่มีอาการ เนื่องจากเส้นเลือดยังตีบไม่มากพอที่จะเกิดอาการ
- อาการแน่นหน้าอกเรียก Angina อาการเจ็บหน้าอกจะเจ็บขณะที่ออกกำลังกายหรือทำงานหนักๆจนต้องหยุดกิจกรรม เมื่อพักก็จะหายปวด เมื่อเริ่มกิจกรรมใหม่ด้วยระยะทางเท่าเดิมก็จะเจ็บหน้าอกเหมือนเดิม เมื่ออาการเป็นมากขึ้นอาการเจ็บหน้าอกจะมากขึ้น ระยะทางที่เริ่มเจ็บหน้าอกจะน้อยลง เจ็บนานขึ้น เจ็บหนักขึ้น อมยาไม่ค่อยหายปวด บางครั้งเจ็บหน้าอกโดยที่ไม่ได้ออกกำลังกาย
- หายใจหอบ ผู้ป่วยบางคนไม่มีอาการเจ็บหน้าอก แต่จะมีอาการหอบหืดจากโรคหัวใจวาย
- ผู้ป่วยมาด้วยอาการ Heart attack คือมีการอุดตันของเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจอย่างเฉียบพลัน ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บหน้าอกแบบเฉียบพลัน เหงื่อออก เป็นลม เป็นภาวะฉุกเฉินต้องรีบไปโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน
ลักษณะอาการทางคลินิกของกล้ามเนื้อหัวใจตายจากขาดเลือดขาดเลือด NSTEMI และ Unstable angina
อาการเจ็บหน้าอก
ลักษณอาการที่สำคัญของผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บหน้าอกจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดชนิด Unstable angina/NonQ Myocardial infarction
- Rest pain หรือเจ็บหน้าอกขณะพัก ผู้ป่วยที่มีหลอดเลือดหัวใจตีบมักจะมีอาการเจ็บหน้าอกเวลาทำงานหรือออกกำลังกาย หากเจ็บหน้าอกขณะพักและเจ็บนานเกิน 20นาทีก็ให้รีบสงสัยว่าจะเกิดกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดต้องรีบไปโรงพยาบาล
- New onset angina ผู้ที่ไม่เคยเจ็บหน้าอกมาก่อน หากมีอาการเจ็บหน้าอกครั้งแรก อาการเจ็บหน้าอกแบบ angina ครั้งแรกที่เกิดขึ้นใหม่ภายในเวลาไม่เกิน2 เดือน โดยมีระดับความรุนแรงของการเจ็บหน้าอกอย่างน้อยเทียบเท่ากับ Canadian Cardiovascular Society(CCS) class III ก็ให้สงสัยว่าจะเกิดกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
- Increasing angina อาการเจ็บหน้าอกแบบ angina ภายในเวลา 2 เดือน ที่มีอาการกำเริบมากขึ้นทั้งในแง่ความรุนแรง ความถี่และระยะเวลาของ
การแน่น หรืออาการเจ็บหน้าอกถูกกระตุ้นให้เกิดได้ง่ายกว่าเดิม โดยที่ระดับความรุนแรงของการเจ็บหน้าอกอย่างน้อย CCS class III
- ลักษณะของอาการเจ็บหน้าอกจะบอกว่าแน่นจุกบริเวณกลางอก บางท่านนิยามว่าเหมือนเข็มขัดรัดรอบทรวงอก บางท่านบอกเหมือนช้างเอาเท้าเหยียบที่อกและไม่ยอมยกเท้าขึ้น แต่บางท่านจะเจ็บที่ขากรรไก หรือเจ็บจุกๆบริเวณลิมปี่ แต่จะมีลักษณะที่แตกต่างจากเดิมดังนี้
- อาการเจ็บ/หนัก/แน่นหน้าอก จะมีอาการหนักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
- อาการเจ็บ/หนัก/แน่นหน้าอก จะเป็นนานกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
- อาการเจ็บ/หนัก/แน่นหน้าอกไม่หายแม้ว่าจะพักแล้วก็ตาม
- อาการเจ็บ /หนัก/แน่นหน้าอกจะไม่หายปวด แม้ว่าจะอมยาใต้ลิ้น
- มักจะมีอาการอื่นร่วมด้วยเช่น
- อ่อนแรง
- คลื่นไส้อาเจียน
- เหงื่อออก
- หน้ามืดเป็นลม
- อาการเจ็บหน้าอกอาจจะร้าวไปส่วนอื่นของร่างกายได้แก่
- แขนซ้าย
- ท้องโดยเฉพาะบริเวณลิ้มปี่
- หลัง
- ขากรรไก
- คอ
- แต่มีผู้ป่วยบางส่วนที่ไม่มีอาการจุกแน่นหน้าอกซึ่งมักจะพบในผู้สูงอายุและเป็นโรคเบาหวาน อาการที่มักจะมาได้แก่
- อาการเหนื่อยหายใจลำบาก ซึ่งเป็นอาการของหัวใจวาย
- ซึมลง
- หรือหมดสติ
- ใจสั่นเนื่องมาจากหัวใจเต้นผิดปรกติ
- ความดันโลหิตต่ำ
- มีลิ่มเลือดลอยไปอุดหลอดเลือดที่สำคัญ
หากท่านมีอาการเจ็บหน้าอกดังกล่าวข้างต้นให้รีบปรึกษาแพทย์
รเะดับความรุนแรงของการเจ็บหน้าอกแบ่งตาม CCS (canadian cardiology society)
ตารางแสดงระดับความรุนแรงของอาการเจ็บหน้าอก Angina pectoris ตาม Canadian Cardiovascular Society
(CCS)
Class |
อาการเจ็บหน้าอก |
1 |
กิจวัตรประจำวันไม่ทำให้เจ็บหน้าอก เช่นการเดินหรือขึ้นบันได แต่การทำงานหนักหรือเร็วและแรงจะทำให้เกิดเจ็บหน้าอก |
2 |
หากทำกิจวัตรประจำวันอย่งเร็วจะเจ็บหน้าอก เช่นการเดินหรือขึ้นบันไดอย่างเร็ว การเดินขึ้นเขา การเดินอย่างเร็วหรือขึ้นบันไดหลังอาหาร อากาศหนาวหรือเย็น ความเครียด |
3 |
เดินธรรมดาก็เจ็บหน้าอก |
4 |
ไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันเนื่องจากเจ็บหน้าอก หรืออาจจะเจ็บหน้าอกขณะพัก |
จะเห็นว่าหากคุณมีอาการเจ็บหน้าอกที่รุนแรงระดับ4แสดงว่าหลอดเลือดคุณตีบหรือตันมากขึ้นกว่าระดับ กลไกการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด