การให้ยาต้านเกล็ดเลือดหรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด


ยาต้านเกร็เลือดและยาละลายลิ่มเลือดเป็นยาหลักที่ใช้รักษาผู้ป่วย การให้ยาแต่ละชนิดหรืออาจจะให้ยาร่วมกันจะขึ้นกับความรุนแรงของโรคแบ่งออกเป็น

  • ยาต้านเกล็ดเลือด
  • ยาละลายลิ่มเลือด
  • Glycoprotein (GP) IIb/IIIa inhibitors

ยาต้านเกล็ดเลือด Antiplatelet therapy (Aspirin , Ticlopidine , Clopidogrel )

1 Aspirin

Aspirin Aspirin ยับยั้ง platelet aggregation โดย ออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ Cyclooxygenase (COX-1) ทำให้ระดับ thromboxane A2 ลดลง ผลการศึกษา ของการใช้ aspirin ในผู้ป่วย ACS พบว่าสามารถลด อัตราเสี่ยงต่อการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (AMI) ได้ร้อยละ 48 และลดอัตราการเสียชีวิตได้ร้อยละ 51

ขนาดที่ใช้

โดยใช้ขนาด 160-325 มก.ในครั้งแรก หลังจากนั้น สามารถลดขนาดลงเหลือ 75-325 มก.ต่อวัน

ปัจจุบันแนะนำให้ aspirin แก่ผู้ป่วย UA/NSTEMI ทันทีที่วินิจฉัยและให้ต่อเนื่องไปตลอดชีวิต แต่ต้องระวังผลข้างเคียงของยาที่สำคัญ คือ เลือดออกในระบบทางเดินอาหาร

ส่วนข้อห้ามใช้ ได้แก่ ผู้ป่วยที่แพ้ aspirin ซึ่งอาจมีอาการตั้งแต่ผื่นคัน หอบหืด จนกระทั่ง anaphylaxis shock



2 Thienopyridine group (Ticlopidine และ Clopidogrel)

2.1 Ticlopidine

ยาออกฤทธิ์ยับยั้ง platelet aggregation โดยเป็น ADP antagonist การศึกษาดูผลของ ticlopidine ในผู้ป่วย UA พบว่าสามารถลด cardiovascular death ลงมาได้ร้อยละ 47 และลด nonfatal MI ลงได้ร้อยละ 46 ภายในเวลา 6 เดือน แต่ผลค่อนข้าง เกิดช้า คือ จะเริ่มเห็นผลประมาณ 10 วันหลังให้ยา แนะนำให้ยาตัวนี้ในกรณีที่มีข้อห้ามในการใช้ aspirin โดยใช้ ticlopidine ในขนาด 250 มก. วันละ 2 ครั้งแทนผลข้างเคียงที่สำคัญ คือ เกิด neutropenia และ thrombocytopenia ประมาณร้อยละ 1 ดังนั้นหลัง จากเริ่มให้ยาควรตรวจ CBC และ platelet count ทุก 2 สัปดาห์ในระยะแรก สำหรับ thrombotic thrombocytepenic purpura (TTP) พบได้น้อย คือ 0.02%

2.2 Clopidogrel Clopidogrel

เป็นยากลุ่ม thienopyridine derivative ที่มีคุณสมบัติคล้าย ticlopidine โดย ออกฤทธิ์ยับยั้งการจับกลุ่มของเกล็ดเลือด platelet aggregation จากการศึกษา CURE 13 ได้นำยา clopidogrel ให้ร่วมกับ aspirin ในผู้ป่วยกลุ่ม UA/NSTEMI โดยเปรียบเทียบกับ aspirin พบว่า clopidogrel ร่วมกับ aspirin สามารถลดอัตราการ เสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือด, MI รวมทั้ง stroke ได้ร้อยละ 20 จากการศึกษาพบ โรคแทรกซ้อนจากการเกิดเลือดออกที่สำคัญร้อยละ 1

ข้อ แนะนำให้ใช้ clopidogrel ในกรณีที่มีข้อห้ามในการใช้ aspirin

ขนาดที่ให้คือ clopidogrel 300 มก. ในครั้งแรก และตามด้วยขนาด 75 มก.ต่อวัน ระยะเวลาในการ ให้ยายังไม่มีข้อมูลชัดเจน ถ้าดูจากการศึกษา (CURE study) ระยะเวลาที่ให้ยาอย่างน้อยควรอยู่ในช่วง 3 -12 เดือน Clopidogrel มีข้อดีกว่า ticlopidine ในแง่ของ ระยะเวลาการออกฤทธิ์ที่เร็วกว่า โดยเริ่มเห็นผล หลังจาก loading dose ไปประมาณ 2 ชั่วโมง และผลข้างเคียงที่สำคัญน้อยกว่า คือ มีเม็ดเลือดขาวต่ำ ีneutropenia แค่ 0.1% ส่วน TTP เกิดน้อยมากคือ 0.0004%

การรัษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ