Glycoprotein (GP) IIb/IIIa inhibitors


 

การใช้ยา antiplatelet ที่มีอยู่เดิม เช่น aspirin, thienopyridine group ถึงจะออกฤทธิ์ยับยั้งเกล็ดเลือดที่ pathways ต่างกัน แต่ยังเหลือ pathways บางส่วนที่ไม่ถูกปิดกั้น ซึ่งอาจทำให้เกิด platelet aggregation ได้ต่อ ดังนั้นการใช้ GP IIb/IIIa inhibitors ซึ่งออกฤทธิ์โดยจับ GP IIb/IIIa receptor ซึ่งเป็น final common pathway ของ platelet aggregation โดยตรงน่าจะได้ประโยชน์มากขึ้น ยากลุ่มนี้มีทั้ง oral form และ intravenous form แต่ oral form นั้นไม่แนะนำให้ใช้ เนื่องจาก ผลการศึกษา meta-analysis ออกมาว่ามี oral form เพิ่มอัตราตายและภาวะเลือดออก ซึ่งเหตุผลอาจเป็น จากยาออกฤทธิ์สั้น หรือระดับยาไม่แน่นอน ทำให้การ ปิดกั้นไม่สมบูรณ์ ขณะนี้จึงมีแต่การใช้ intravenous GP IIb/IIIa Inhibitors ซึ่งตัวยาที่ได้รับการยอมรับให้ใช้ใน การรักษา UA/NSTEMI และสามารถใช้ร่วมในการทำ coronary angioplasty ได้มี 3 ชนิด คือ abciximab, eptifibatide และ tirofiran ปัจจุบันมีการศึกษาของ ยากลุ่มนี้ออกมามากมาย ซึ่งผลสรุปข้อบ่งชี้ใน การใช้ยามีดังนี้



  1. ผู้ป่วยกลุ่ม UA/NSTEMI ที่มี high risk feature คือ มี ongoing pain , hemodynamic compromise, refractory ischemia แม้จะได้รับ ยากลุ่มอื่นๆ เต็มที่แล้ว และกลุ่มผู้ป่วยที่มี cardiac troponin positive ซึ่งวางแผนจะให้การรักษา ด้วยยาเพียงอย่างเดียว แนะนำให้ใช้ยา eptifibatide หรือ tirofiban ส่วน abciximab ไม่ควรใช้เนื่องจากการ ศึกษา GUSTO IV - ACS พบว่า abciximab ใน setting นี้ไม่ได้ดีไปกว่า placebo
  2. ผู้ป่วยกลุ่ม UA/NSTEMI ที่วางแผนจะทำ PCI ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งมักจะเป็นผู้มีความเสี่ยงสูง ผู้ป่วยกลุ่มนี้ควรได้รับยา GP IIb/IIIa inhibitors ตั้งแต่แรกรับ ก่อนที่จะไปห้องฉีดสี ซึ่งสามารถให้ได้ทั้ง 3 ตัว ไม่ว่าจะเป็น tirofiban, eptifibatide หรือ abciximab โดย abciximabมีการศึกษารองรับ มากที่สุด

การรักษาโรคหัวใจ