งูสามเหลี่ยม [Banded Krait]

Banded Krait ( Bungarus fasciatus ) เป็นงูสายพันธุ์ที่มีีพิษสูง พบได้ทั่วเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สัตว์ที่ระมัดระวัง งูสามเหลี่ยมลำตัวเป็นสามเหลี่ยม มีสีแตกต่างกันตามชนิดที่สามารถพบได้ทุกภาคของประเทศไทย ตามที่ราบลุ่ม ป่าชายเลนและทุ่งนา มีลักษณะเด่นที่แนวของกระดูกสันหลังยกสูงขึ้นเป็นสันยาวตลอดทั้งตัว ปลายหางกุดทู่ ลายเป็นปล้องสีดำสลับกับเหลืองที่มีขนาดเท่าๆ กัน ออกหากินเวลากลางคืนโดยกินงูชนิดอื่น กิ้งก่าและปลาเป็นอาหาร ส่วนช่วงกลางวันจะเซื่องซึมและเชื่องช้า

ลักษณะสำคัญ

• ลักษณะที่ปรากฏ: Banded Krait มีแถบสีดำและสีเหลืองสลับกันอย่างชัดเจน (หรือบางครั้งก็เป็นสีขาว) แถบเหล่านี้พันรอบร่างกายรวมทั้งศีรษะด้วย ศีรษะกว้างแบนและไม่แยกออกจากคออย่างชัดเจน
• ขนาด: นี่เป็นสายพันธุ์ที่ยาวที่สุดของช่องแคบ ซึ่งมักจะมีความยาวเกิน 6.5 ฟุต (2 เมตร)
• พฤติกรรม: ส่วนใหญ่ออกหากินเวลากลางคืนBanded Kraits มักจะเคลื่อนไหวช้าในระหว่างวันเป็นนักว่ายน้ำที่เก่ง และมักพบอยู่ใกล้แหล่งน้ำ
• พิษ: Banded Krait มีพิษพิษต่อระบบประสาทการถูกกัดอาจถึงแก่ชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
• ที่อยู่อาศัย: สายพันธุ์นี้ชอบแหล่งที่อยู่อาศัยที่หลากหลาย รวมถึงป่าไม้ทุ่งหญ้าพื้นที่เกษตรกรรมและพื้นที่ชุ่มน้ำมักเกี่ยวข้องกับแหล่งน้ำ
• อาหาร: Banded Krait กินงูชนิดอื่นเป็นหลักรวมทั้งสัตว์มีพิษชนิดอื่นเช่นเดียวกับสัตว์ฟันแทะ กิ้งก่าและกบ

ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ

• Banded Krait ขึ้นชื่อในเรื่องท่าทางการป้องกันอันเป็นเอกลักษณ์เมื่อถูกคุกคาม มันจะทำให้ลำตัวแบนราบและยกหัวและหางขึ้น โดยเผยให้เห็นด้านล่างที่มีสีสันสดใส
• สัตว์จำพวกนี้มีบทบาทสำคัญในการควบคุมประชากรสัตว์ฟันแทะซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร

ข้อควรระวังด้านความปลอดภัย

• หากคุณพบกับ Banded Krait ในป่าให้รักษาระยะห่างที่ปลอดภัย และอย่าพยายามจัดการหรือยั่วยุมัน
• ในพื้นที่ที่ทราบว่าเกิด Banded Kraits ให้ระมัดระวังเมื่อเดินในเวลากลางคืนโดยเฉพาะใกล้น้ำ
• หากคุณถูกกัดควรไปพบแพทย์ทันที

มักอาศัยในป่าเวลากัดไม่มีแผ่แม่เบี้ยเหมือนงูเห่างูจงอาง งูสามเหลี่ยมมีอยู่ทางภาคใต้มีพิษต่อระบบประสาทและระบบโลหิต อาการภายหลังถูกงูกัดจะเหมือนงูเห่ากัด อากรภายหลังถูกงูกัดจะเหมือนงูเห่ากัดและงูแมวเซากัด งูสามเหลี่ยม เป็นงูพิษอันตรายถึงชีวิต  ผู้ที่ถูกงูสามเหลี่ยมกัด จะเกิดการบวมอักเสบหรือเนื้อตายที่แผลน้อยมาก; และจะมีอาการทางระบบประสาทได้แก่ หนังตาตก หรือลืมตาไม่ขึ้น(อาจเข้าใจผิดว่าผู้ป่วยง่วงนอนได้ค่ะ) กลืนน้ำลายลำบาก เป็นอัมพาตที่แขนขา และหยุดหายใจเนื่องจากกล้ามเนื้อที่ใช้ในการหายใจหยุดทำงาน เป็นเหตุให้เสียชีวิตเพราะร่างกายขาดออกซิเจน 

**อาการหลังถูกงูจงอางและงูเห่ากัดจะมีอาการทางระบบประสาทเหมือนงูสามเหลี่ยม แต่ต่างกันที่พิษของงูจงอางและงูเห่าจะทำให้แผลมีอาการบวมอักเสบ และตามด้วยอาการเนื้อตายที่รุกรามอย่างเร็วค่ะถ้าพบผู้ถูกงูกัดมีอาการดังกล่าวนี้ ให้รีบส่งโรงพยาบาลทันที

อาการของการกัด Banded Krait อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ปริมาณพิษที่ฉีด ตําแหน่งของการกัด และสุขภาพของผู้ถูกกัด ต่อไปนี้คืออาการทั่วไปบางประการที่เกี่ยวข้องกับการกัด Banded Krait:

1. ผลกระทบทางระบบประสาท: พิษ Krait แถบส่วนใหญ่มีผลต่อระบบประสาทซึ่งนําไปสู่อาการเช่น:

   • ปวดศีรษะอย่างรุนแรง
   • ตาพร่ามัวหรือการรบกวนทางสายตาอื่นๆ
   • พูดหรือกลืนลําบาก
   • อัมพาตโดยเฉพาะกล้ามเนื้อทางเดินหายใจซึ่งอาจนําไปสู่การหายใจล้มเหลว

2. กล้ามเนื้ออ่อนแรงและปวด: พิษของ Krait แถบอาจทําให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและปวดซึ่งอาจพัฒนาไปสู่อัมพาต อัมพาตนี้มักเริ่มที่กล้ามเนื้อใกล้กับการกัดมากที่สุดและแพร่กระจายออกไปด้านนอก

3. ความทุกข์ทางเดินหายใจ: การกัดจาก Banded Kraits อาจส่งผลให้เกิดความทุกข์ทางเดินหายใจเนื่องจากอัมพาตของกล้ามเนื้อทางเดินหายใจ สิ่งนี้สามารถนําไปสู่การหายใจลําบากหรือแม้กระทั่งการหายใจล้มเหลว

4. ผลกระทบต่อหัวใจและหลอดเลือด: ในบางกรณี พิษของ Banded Krait อาจทําให้เกิดอาการหัวใจและหลอดเลือด เช่น ความดันโลหิตต่ํา หัวใจเต้นผิดปกติ และหัวใจหยุดเต้น

5. อาการอื่น ๆ : อาการเพิ่มเติมของการกัด Banded Krait อาจรวมถึงอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง เหงื่อออก และเวียนศีรษะ

สิ่งสําคัญคือต้องไปพบแพทย์ทันทีหากถูกกัดโดย Banded Krait หรืองูพิษอื่นๆ เนื่องจากการรักษาด้วยยาต้านพิษและการดูแลแบบประคับประคองอย่างทันท่วงทีสามารถเพิ่มโอกาสในการฟื้นตัวได้อย่างมาก อย่าพยายามรักษาการกัดด้วยวิธีดั้งเดิมเช่นสายรัดหรือแผลเพราะอาจทําให้สถานการณ์แย่ลงได้ ให้มุ่งเน้นไปที่การรักษาเหยื่อให้สงบและนิ่งในขณะที่จัดเตรียมความช่วยเหลือทางการแพทย์ฉุกเฉิน