ยาปฏิชีวนะ Ofloxacin
ข้อควรระวังสำหรับผู้ที่ใช้ยานี้
- ยานี้อาจจะเพิ่มความเสี่ยงของเอ็นอักเสบ หรือเอ็นขาด โดยเฉพาะผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปี รับยา steroid ผู้ที่เปลี่ยนอวัยวะ
- ยานี้อาจจะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงเพิ่มในผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
หากเกิดอาการดังต่อไปนี้ให้หยุดยาและปรึกษาแพทย์
- หายใจลำบาก กลืนลำบาก หน้าบวม ลำคอ ลิ้น ริมฝีปาก มีผื่นคันลมพิษ บวมหรือชาบริเวณหน้า
- หัวใจเต้นผิดปกติ หน้ามืด เป็นลม เหนื่อยง่ายผิดปกติ
- ไข้ ปวดกล้ามเนื้อ หรือ ข้อ ชัก มึนงง ประสาทหลอน ปวด ชา หรือ
- มีอาการปวด อักเสบ หรือฉีกขาดของเส้นเอ็น
- อ่อนแรงตามส่วนต่างๆของร่างกาย
- ผิวหนังและตาเหลือง ปัสสาวะเป็นสีเข้ม หรือพบเลือดในปัสสาวะ อุจจาระซีดหรือดำผิดปกติ
- ผิวหนังไวต่อแสงแดด
- ติดเชื้อบริเวณช่องคลอด
- การมองเห็นเปลี่ยนไป มีผื่นลมพิษ
ข้อบ่งชี้ในการใช้ยา
ยานี้ใช้เพื่อรักษาโรคติดเชื้อจากแบคทีเรียที่ไม่ดื้อต่อยา เช่น
- โรคปอดอักเสบ
- โรคหลอดลมอักเสบ
- โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ หนองในแท้ หนองในเทียม ปีกมดลูกอักเสบ
- โรคติดเชื้อที่ต่อมลูกหมาก
- โรคติดเชื้อที่ระบบทางเดินปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ทางเดินปัสสาวะอักเสบ
- การติดเชื้อที่ผิวหนัง
ขนาดและวิธีการใช้ยา
โดยทั่วไปผู้ใหญ่รับประทานครั้งละ 200-400 มก. วันละ 2 ครั้ง นาน 3-7 วัน อาจนานกว่านี้แล้วแต่แพทย์สั่ง สำหรับต่อมลูกหมากอักเสบรับประทานนาน 6 สัปดาห์ หนองในแท้รับประทานครั้งเดียว 400 มก. ยานี้มีขายในรูปยาเม็ดขนาด 100 และ 200 มก. รับประทานพร้อมน้ำ 1 แก้ว ในขณะท้องว่างอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงก่อนหรือสองชั่วโมงหลังอาหาร หากมีอาการระคายเคืองกระเพาะอาหาร ให้รับประทานพร้อมอาหารหรือนม
การติดเชื้อ | ขนาดยาครั้งละ | ความถี่ | ระยะเวลา | ปริมาณยาทั้งวัน |
หลอดลมอักเสบ | 400 mg | ทุก12 ชม | 10 days | 800 mg |
ปอดบวมจากบ้าน | 400 mg | ทุก12 ชม | 10 days | 800 mg |
การติดเชื้อผิวหนังที่ไม่มีโรคแทรกซ้อน | 400 mg | ทุก12 ชม | 10 days | 800 mg |
หนองในแท้ | 400 mg | single dose | 1 day | 400 mg |
หนองในเทียม | 300 mg | ทุก12 ชม | 7 days | 600 mg |
การติดเชื้อทั้งหนองในแท้และเทียม | 300 mg | ทุก12 ชม | 7 days | 600 mg |
ปีกมดลูกอักเสบ | 400 mg | ทุก12 ชม | 10-14 days | 800 mg |
กระเพาะปัสสาวะอักเสบจาก E. coli | 200 mg | ทุก12 ชม | 3 days | 400 mg |
กระเพาะปัสสาวะอักเสบจากเชื้ออื่น | 200 mg | ทุก12 ชม | 7 days | 400 mg |
ทางเดินปัสสาวะอักเสบที่มีโรคแทรกซ้อน | 200 mg | ทุก12 ชม | 10 days | 400 mg |
ต่อมลูกหมากอักเสบจากเชื้อ E.Coli | 300 mg | ทุก12 ชม | 6 weeks | 600 mg |
- หากมีภาวะไตเสื่อมต้องลดขนาดยาหรือให้ยาห่างออกไป
อัตราการกรองของไต | ขนาดยาที่ให้ | ความถี่ |
20-50 mL/min | ให้ขนาดปกติ | q24h |
< 20 mL/min | ครึ่งของขนาดปกติ | q24h |
- สำหรับผู้ที่เป็นโรคตับขนาดยาที่ให้ไม่ควรจะเกินค่าปกติ
คำแนะนำพิเศษ
- ให้รับประทานยาติดต่อกันทุกวันจนหมด ถึงแม้อาการจะหายแล้วก็ตาม หากรีบหยุดยาก่อนอาจเกิดการติดเชื้อขึ้นอีก
- หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน หรือยังมีอาการแสดงของโรคติดเชื้ออยู่หลังจากรับประทานยาหมดแล้ว ให้พบแพทย์
- ไม่รับประทานยาลดกรด วิตามินรวมที่มีสังกะสี เหล็กหรือแร่ธาตุอื่นภายใน 2 ชั่วโมง หลังรับประทานยานี้เพราะจะทำให้การดูดซึมของยานี้ลดลง
- รับประทานยาวันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 3-10 วัน การรักษาบางโรคอาจใช้เวลานานถึง 6 สัปดาห์หรือมากกว่า
- กรณีที่ใช้เพื่อรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (venereal disease) รับประทานเพียงครั้งเดียว
- ห้ามใช้ยาในขนาดที่มากหรือน้อยกว่าที่ระบุ และหากมีข้อสงสัยให้สอบถามแพทย์หรือเภสัชกร
- รับประทานยาติดต่อกันจนหมดช่วงการรักษา แม้จะรู้สึกดีขึ้นแล้วก็ตาม
- ควรดื่มน้ำมากๆระหว่างวัน
- ยานี้อาจทำให้ง่วงซึม ไม่ควรขับรถ หรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร
- ยานี้ทำให้ผิวหนังไวต่อแสงแดดมากขึ้น ไม่ควรทำงานหรืออยู่ในที่มีแสงแดดส่องเป็นเวลานาน และควรป้องกันตัวเองจากแสงแดด
ผลข้างเคียงของยา ไม่ค่อยพบอาการข้างเคียงจากยานี้ แต่ก็เกิดขึ้นได้ อาจมีอาการระคายเคืองกระเพาะอาหาร เบื่ออาหาร ท้องเสีย คลื่นไส้ ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ หากอาการเป็นอยุ่นานหรือรุนแรงให้พบแพทย์ อาจมีอาการมึนงง ควรระวังเมื่อขับรถ หรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล เมื่อมีผื่นแพ้ให้หยุดยาและไปพบแพทย์
ข้อควรระวัง
- ควรบอกแพทย์หรือเภสัชกรว่ากำลังใช้ยาอะไรอยุ่บ้าง โดยเฉพาะยาขยายหลอดลม theophylline ยาลดกรด วิตามินรวมที่มีสังกะสี เหล้กหรือแร่ธาตุอื่น ยาปฏิชีวนะอื่น ยาต้านเลือดแข็ง warfarin และยายับยั้งการหลั่งกรด cimetidine เป็นต้น
- ควรบอกแพทย์หากเป็นโรคลมชัก โรคไต
- แพ้ยาใด ๆ ตั้งครรภ์หรืออยู่ในระยะให้นมบุตร
- ไม่ควรใช้ยานี้ในผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ความปลอดภัยของยานี้ในสตรีมีครรภ์
สำหรับสตรีมีครรภ์ ยานี้จัดอยู่ในประเภท C