อาการและการรักษาไขมันพอกตับ
อาการของไขมันพอกตับ
อาการของไขมันพอกตับทั้ง NAFLD และ NASH จะเหมือนกัน ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่มีอาการ อาจจะมีอาการปวดแน่นชายโครงข้างขวาค่อยเป็นค่อยไป นอกจากนั้นอาจจะพบว่าเป็นเบาหวาน อ้วน ไขมันในเลือดสูง แต่เมื่อกลายเป็น ตับแข็งก็จะเกิดอาการของตับแข็ง อาการทั่วไปมีดังนี้
การวินิจฉัยโรคไขมันพอกตับทำได้อย่างไร
ส่วนใหญ่พบโดยบังเอิญเจาะเลือดตรวจการทำงานของตับพบว่ามีค่า SGPT, SGOT สูงโดยที่ค่าอื่นปกติ และเจาะเลือดตรวจไม่พบหลักฐานการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ หรือมีประวัติการดื่มสุรา ประวัติการใช้ยาอย่างต่อเนื่องของยากลุ่ม prednisone, amiodarone (Cordarone), tamoxifen (Nolvadex), methotrexate (Rheumatrex, Trexall), and nonsteroidal anti-inflammatory drugs (NSAIDS) การตรวจ ultrasound ก็จะช่วยในการวินิจฉัย
สรุปการวินิจฉัยไขมันเกาะตับต้องประกอบไปด้วย
- มีอาการหรืออาการแสดงว่าเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน เช่น อ้วนโดยมีดัชนีมวลกายมากกว่า 25 ,รอบเอวมากกว่า90 เซนติเมตร ในชาย80 เซนติเมตรในหญิง, triglyceride >150 mg%,ความดันโลหิตสูงมากกว่า130/85 มิลิเมตรปรอท HDL,40,50 ในชายและหญิง
- การตรวจการทำงานของตับพบว่าค่า SGOT,SGPT สูง
- ตรวจ ultrasound CT Scan MRI พบว่ามีไขมันเกาะที่ตับ
- ต้องแยกโรคอื่นเช่นตับอักเสบบี สุรา ยา
- การเจาะตับเพื่อการวินิจฉัยยังไม่เป็นที่ตกลงว่าสมควรจะทำเมื่อใดเพราะการรักษายังไม่มียาเฉพาะ
การรักษาไขมันพอกตับ
- การควบคุมน้ำหนักให้เข้าสู่เกณฑ์ปกติ
- การออกกำลังกาย
- การรักษาไขมันในเลือดให้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด
- หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา
การใช้ยารักษา
จนถึงปัจจุบันยังไม่มียาที่รักษาได้ผลดีจริงแพทย์จะรักษาปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคไขมันพอกตับ เช่นการออกกำลังกาย การควบคุมอาหารสำหรับคนอ้วน แพทย์อาจจะแนะนำให้ฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันไวรัสตับอักเสบ
เท่าที่มีการทดลองและพอจะได้ผลดีได้แก่
- ยาที่เพิ่มความไวต่ออินซูลิน Insulin-sensitizing agents, เช่น pioglitazone และ rosiglitazone (Avandia), และ metformin (Glucophage)
- Anti-TNFa agents , such as infliximab (Remicade)
- ยาเพิ่มการไหลเวียนของเลือด such as pentoxifylline (Trental)
- ยาต้านอนุมูลอิสระ, เช่น vitamin E ในทางทฤษฎีน่าจะช่วยได้แต่ต้องมีการวิจัยเพิ่ม แต่ผลเสียของการรับวิตามินคือมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต และเสี่ยงต่อมะเร็งต่อมลูกหมาก, betaine, and s-adenosylmethionine (SAMe).
- มีการศึกษาว่าผู้ที่ดื่มกาแฟน้อยหรือไม่ดื่มจะเป็นไขมันพอกตับสูงกว่าผู้ที่ดื่ม สำหรับผู้ที่ไม่ดื่มไม่แนะนำให้ดื่ม
การรักษาทั่วๆไป
การป้องกันภาวะไขมันพอกตับ
- การดื่มสุรามากจะทำให้เกิดภาวะไขมันพอกตับ ทาง CDC จึงแนะนำว่าผู้ชายไม่ควรจะดื่มสุราเกิน 2 หน่วยสุรา ผู้หญิงไม่ควรดื่มเกิน 1 หน่วยสุรา
- ออกกำลังกายวันละ 30นาที
- รักษาเบาหวานเพื่อควบคุมน้ำตาลให้ใกล้เคียงปกติ
- รักษาภาวะไขมันในเลือดสูง
- ลดน้ำหนัก โดยการลดพลังงานอาหารที่เรารับประทาน โดยควบคุมให้มีดัชนีมวลกายอยู่ระหว่าง18-23 การคำนวณดัชนีมวลกาย
- รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ เพิ่มผัก ผลไม้ และธัญพืชครบส่วน
- หลีกเลี่ยงยาที่มีผลต่อตับ
ผู้ป่วยที่มีไขมันเกาะตับควรทานอะไรบ้าง?
อาหารที่ควรทาน:
- อาหารที่มีไขมันต่ำ: เน้นเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ปลา ไข่ขาว ถั่ว เต้าหู้
- อาหารที่มีกากใยสูง: ผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี ข้าวกล้อง
- อาหารที่มีไขมันดี: น้ำมันมะกอก อะโวคาโด ถั่วต่างๆ
- อาหารต้านอนุมูลอิสระ: ผักใบเขียว ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ชาเขียว
ตัวอย่างอาหารที่ควรทาน:
- ข้าวกล้อง
- อกไก่ไม่ติดมัน
- ปลานึ่ง
- ไข่ต้ม
- ต้มยำกุ้ง
- แกงจืดเต้าหู้
- ผัดผักต่างๆ
- ผลไม้ เช่น ฝรั่ง แอปเปิ้ล กล้วย
ผู้ป่วยที่มีไขมันเกาะตับควรหลีกเลี่ยงอาหารอะไรบ้าง?
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง:
- อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง: เนื้อสัตว์ติดมัน หนังสัตว์ เนย ชีส กะทิ
- อาหารที่มีไขมันทรานส์: อาหารทอด อาหารแปรรูป ขนมขบเคี้ยว
- อาหารที่มีน้ำตาลสูง: น้ำอัดลม น้ำหวาน ขนมหวาน
- อาหารที่มีโซเดียมสูง: อาหารแปรรูป บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารหมักดอง
ตัวอย่างอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง:
- หมูสามชั้น
- ไก่ทอด
- ขนมขบเคี้ยว
- น้ำอัดลม
- บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
- อาหารหมักดอง
ผู้ป่วยที่มีไขมันเกาะตับควรควรงดอาหารอะไรบ้าง?
อาหารที่ควรควรงด:
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์: แอลกอฮอล์เป็นสาเหตุหลักของโรคตับแข็ง ควรเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์โดยเด็ดขาด
- อาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง: ไข่แดง เครื่องในสัตว์ ควรจำกัดปริมาณการทาน
ข้อควรระวัง:
- ผู้ป่วยที่มีไขมันเกาะตับควรปรึกษาแพทย์หรือโภชนาการเพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับอาหารที่เหมาะสม
- ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหาร ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดน้ำหนักและควบคุมระดับไขมันในเลือด
ทบทวนวันที่
โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว