หลอดลมอักเสบ
เมื่อคุณเป็นหวัดจะเริ่มด้วยอาการครั่นเนื้อครั่นตัว น้ำมูกไหล แสบคอ เมื่อโรคดำเนินต่อไป คุณจะรู้สึกแน่นหน้าอกมีเสมหะในคอ และคุณเริ่มเกิดอาการไอแสดงว่าคุณเริ่มเป็นโรคหลอดลมอักเสบ โรคหลอดลมอักเสบคือโรคที่เกิดจากการอักเสบเยื่อบุของหลอดลม ทำให้เยื่อบุหลอดลมบวม และมีเสมหะอุดหลอดลม ผู้ป่วยบางรายหลอดลมบวมมากและมีเสมหะมากทำให้เกิดลักษณะเหมือนโรคหอบหืด
หากคุณเป็นโรคหลอดลมอักเสบจะมีอาการอะไรบ้าง
ไอเป็นอาการที่สำคัญที่สุด เสมหะจะมีสีเหลืองหรือเขียวแต่ท่านอาจจะไม่ได้เห็นเสมหะในเด็กหรือผู้ใหญ่บางคนที่กลืนเสมหะลงไปกระเพาะ นอกจากไอแล้วยังมีอาการอื่นคือ
- แสบคอ เจ็บคอบางคนมีอาการแสบหน้าอก
- หายใจลำบาก
- หายใจเสียงดังหวีด
- ครั่นเนื้อครั่นตัว
- ไข้ไม่สูง
สาเหตุ
- ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสเหมือนไข้หวัด เชื้ออื่นที่เป็นสาเหตุคือเชื้อ Mycoplasma pneumoniae.,Chlamydia pneumoniae
- หลอดอักเสบจากสิ่งแวดล้อมเช่น ควันบุหรี่ กลิ่นสี สารเคมี ฝุ่น
- จากกรดในกระเพาะที่ไหลย้อน gastroesophageal reflux disease (GERD)
ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดลมอักเสบ
- สูบบุหรี่หรืออยู่กับคนที่สูบบุหรี่
- ผู้ที่มีโรคประจำที่ทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงเช่น โรคเบาหวาน โรคตับ เป็นต้น
- ผู้ที่มีโรคกรดไหลย้อน gastroesophageal reflux disease (GERD)
- ผู้ที่ทำงานกับสารระคายเคืองเช่น ฝุ่น สารเคมี
ควรพบแพทย์เมื่อใด
โรคหลอดลมอักเสบมักจะหายได้เองใน 7-10 วัน ผู้ป่วยส่วนหนึ่งประมาณร้อยละ 50หายใน 3 สัปดาห์ ร้อยละ 25 หายใช้เวลาเป็นเดือนจึงจะหาย การดูแลให้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ดื่มน้ำมากๆ คุณควรจะพบแพทย์เมื่อมีอาการดังต่อไปนี้
- ไข้สูงกว่า 38.5 องศา
- หายใจลำบากหรือเหนื่อยหอบ
- เสมหะมีเลือดปน
- เสมหะเป็นหนอง
- เมื่อคุณมีโรคประจำตัวเช่น โรคหัวใจ โรคปอด