หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | วัคซีน
เชื้อ Mycoplasma pneumoniae เป็นเชื้อแบคทีเรียขนาดที่เล็กที่สุด สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อทางเดินหายใจมีอาการเหมือนไข้หวัดคือมีน้ำมูก ไอ หรืออาจจะมีอาการปอดบวม มีไข้ ไอ เหนื่อน หอบ อาการมักจะไม่หนัก
สารบัญ
เชื้อ Mycoplasma pneumoniae เป็นเชื้อแบคทีเรียขนาดที่เล็กที่สุด เป็นแบคทีเรียที่สามารถแพร่กระจายเชื้อได้ง่าย สามารถก่อโรคในระบบทางหายใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มักหายได้เองมีเพียงส่วนน้อยที่อาการรุนแรงต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล นอกจากนี้ เชื้อยังสามารถก่อโรคในระบบประสาท ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบโลหิต ปัจจุบันมีรายงานเชื้อ M. pneumonia ดื้อยากลุ่ม macrolides เพิ่มมากขึ้นทั่วโลกโดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชีย เนื่องจากการใช้ยาปฏิชีวนะที่ไม่เหมาะสม การป้องกันทำได้โดยสุขอนามัยที่ดี
เมื่อมีผู้ติดเชื้อ M. pneumoniae ไอหรือจาม พวกเขาสร้างละอองทางเดินหายใจขนาดเล็กที่มีแบคทีเรียอยู่ คนอื่นสามารถติดเชื้อได้หากหายใจเอาละอองเหล่านั้นเข้าไป คนส่วนใหญ่ที่ใช้เวลาสั้น ๆ กับคนที่ป่วยด้วย M. pneumoniae จะไม่ติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม แบคทีเรียมักแพร่กระจายระหว่างคนที่อาศัยอยู่ด้วยกัน เนื่องจากพวกเขาใช้เวลาร่วมกันมาก
การระบาดของ M. pneumoniae ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในสถานที่แออัด เช่น โรงเรียน หอพักนักศึกษา โรงฝึกทหาร สถานดูแลระยะยาว และโรงพยาบาล ในช่วงที่มีการระบาดในโรงเรียน หากคนในชุมชนเจ็บป่วย พวกเขามักจะเป็นสมาชิกในครอบครัวของเด็กนักเรียนที่ป่วย การติดเชื้อ M. pneumoniae พบได้ทั่วโลก และเกิดตลอดทั้งปี มักก่อโรคในระบบทางเดินหายใจ โดยเป็นสาเหตุของปอดอักเสบชุมชน (Community- Acquired Pneumonia, CAP) ในเด็กโตและผู้ใหญ่ร้อยละ 7 ถึง 40 แต่พบน้อยในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ระยะฟักตัวของเชื้อประมาณ 2 ถึง 3 สัปดาห์ ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มักจะไม่แสดงอาการ มีรายงานการระบาดในค่ายทหาร โรงพยาบาล โรงเรียน และค่ายพักแรม พบว่า ร้อยละ 14.3 ในเด็กไทยอายุ 2 ถึง 15 ปีที่ป่วยเป็น CAP เกิดจากเชื้อ M. pneumoniae
เชื้อMycoplasma pneumoniae มักก่อให้เกิด โรคระบบทางเดินหายใจ เด็กเล็กที่ติดเชื้อส่วนใหญ่มักไม่แสดงอาการ ส่วนน้อยจะมีน้ำมูก เจ็บคอ หูชั้นกลางอักเสบ กล่องเสียงอักเสบ หลอดลมฝอยอักเสบ และปอดอักเสบได้ สำหรับเด็กโตและวัยรุ่นจะมีอาการไข้ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอ ปวดกระบอกตา ปวดศีรษะ อาการจะคล้ายคลึงกับการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ หรือไวรัสอื่น ๆ อาการในเด็กมักไม่รุนแรงและหายเองได้ ร้อยละ 10 ของเด็กโตที่ติดเชื้อ M. pneumoniae จะเกิดปอดอักเสบตามมา และร้อยละ 10 จะมีผื่นร่วมด้วยและมักเป็นชนิด maculopapular การตรวจทางรังสีทรวงอกพบได้หลายรูปแบบ เช่น มีน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด ต่อมน้ำเหลืองขั้วปอดโต bilateral diffuse infiltration หรือ focal consolidation มักเป็นที่ปอดส่วนล่าง และกระตุ้นให้อาการหอบกำเริบในผู้ป่วยโรคหอบหืด
นอกจากนี้ เชื้อยังสามารถก่อโรคในระบบประสาท ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบโลหิต เป็นต้น
โดยทั่วไปการติดเชื้อที่เกิดจาก Mycoplasma pneumoniae นั้นไม่รุนแรง อาการขึ้นอยู่กับชนิดของการติดเชื้อ
เด็กที่ได้รับ Mycoplasma pneumoniae มักจะมีอาการของไข้หวัด
ประเภทของการติดเชื้อที่พบบ่อยที่สุดคือ tracheobronchitis (โรคหวัด) อาการทั่วไปของโรคหวัด ได้แก่
เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีที่ได้รับ Mycoplasma pneumoniae อาจมีอาการที่แตกต่างจากเด็กโตและผู้ใหญ่ แต่อาจมีอาการคล้ายหวัดดังต่อไปนี้:
โรคปอดบวม (การติดเชื้อในปอด) อาจเกิดขึ้นได้ อาการทั่วไปของโรคปอดบวม ได้แก่ มี
เมื่อมีคนติดเชื้อแบคทีเรีย อาการมักปรากฏขึ้นหลังจาก 1 ถึง 4 สัปดาห์
อาการนอกปอดของการติดเชื้อ Mycoplasma pneumoniae
หัวใจ
ระบบประสาท
ข้อ
ผิวหนัง
ระบบโลหิต
โดยอาการส่วนใหญ่ที่พบจะไม่ค่อยรุนแรง และสามารถหายได้เอง แต่ถ้ามีอาการมากกว่าปกติ ให้รับมาพบแพทย์เพื่อพิจารณาให้ยาปฏิชีวนะเพราะอาจเกิดอันตรายจากภาวะแทรกซ้อนในระบบทางเดินปัสสาวะได
ยาที่แนะนำให้ใช้ในการรักษาปอดอักเสบจากเชื้อ M. pneumoniae คือ ยากลุ่ม macrolides และ tetracyclines
ปัจจุบันมีรายงานเชื้อ M. pneumonia ดื้อยากลุ่ม macrolides เพิ่มมากขึ้น เกิดจากการเปลี่ยนแปลงที่ domain V ของ 23S rRNA ยาที่แนะนำในการรักษา M. pneumonia ที่ดื้อยาคือ doxycycline, tetracycline หรือ levofloxacin การให้ยาปฏิชีวนะอาจไม่มีความจำเป็นในโรคหูอักเสบ คอหอยอักเสบ กล่องเสียงอักเสบ หรือหลอดลมฝอยอักเสบที่เกิดจากเชื้อ M. pneumoniae เนื่องจากอาการมักไม่รุนแรงและสามารถหายเองได้
แม้ว่า M. pneumoniae มักจะทำให้เกิดการติดเชื้อเล็กน้อย แต่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงอาจเกิดขึ้นได้ซึ่งต้องได้รับการดูแลในโรงพยาบาล M. pneumoniae อาจทำให้เกิดหรือทำให้อาการแทรกซ้อนต่อไปนี้แย่ลง:
Mycoplasma pneumoniae ระบาดส่วนใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่แออัด
Mycoplasma pneumoniae พบได้บ่อยในผู้ใหญ่วัยหนุ่มสาวและเด็กวัยเรียน แต่อาจส่งผลกระทบต่อทุกคน ผู้คนที่อาศัยและทำงานในสถานที่แออัดมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น การตั้งค่าเหล่านี้รวมถึง:
บุคคลอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อร้ายแรง ได้แก่:
ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ M. pneumoniae และผู้ป่วยสามารถแพร่เชื้อได้ตลอดช่วงที่มีอาการ ดังนั้น หลักในการป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายเชื้อขณะที่ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล คือ standard และ droplet precaution ส่งเสริมการล้างมือเพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อให้แก่ผู้อื่นช่วยป้องกันตนเองและผู้อื่นจาก Mycoplasma pneumoniae โดย ฝึกสุขอนามัยของมือที่ดี
ผู้คนสามารถติดเชื้อ Mycoplasma pneumoniae ได้มากกว่าหนึ่งครั้ง แม้ว่าจะไม่มีวัคซีนป้องกัน M. pneumoniae แต่ก็มีหลายสิ่งที่ผู้คนสามารถทำได้เพื่อป้องกันตนเองและผู้อื่น
เช่นเดียวกับเชื้อโรคในระบบทางเดินหายใจ Mycoplasma pneumoniae มักแพร่กระจายโดยการไอและจาม เคล็ดลับในการป้องกันการแพร่กระจายของ เชื้อ M. pneumoniae ได้แก่:
โดยทั่วไป แพทย์จะไม่สั่งยาปฏิชีวนะเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ผู้อื่นป่วย (เช่น การสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ)
ทบทวนวันที่ 8/1/2566
โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว
เอกสารอ้างอิง