หน้าหลัก | สุขภาพดี
| สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | วัคซีน
ข้อห้ามและข้อควรระวังในการใช้ยา Isotretinoin
สำหรับสตรี
- ยา isotretinoin มีผลทำให้เด็กทารกในครรภ์พิการแต่กำเนิดได้ ดังนั้น ผู้ที่ได้รับยา isotretinoin จะต้องคุมกำเนิดก่อนรับประทานยาอย่างน้อย 3 เดือน และคุมกำเนิดตลอดระยะเวลาที่ใช้ยาตัวนี้ในการรักษา และต้องหยุดยาล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือนถึง 1 ปี ก่อนจึงจะตั้งครรภ์ได้อย่างปลอดภัย
- สำหรับผู้ป่วยที่เป็นหญิงวัยเจริญพันธุ์ ก่อนได้รับยานี้จะต้องทำการทดสอบการตั้งครรภ์ 2 ครั้งว่าให้ผลเป็นลบ (ไม่ตั้งครรภ์) จึงจะสามารถรับยาได้ และเมื่อใช้ยานี้อยู่ จะต้องทำการตรวจการตั้งครรภ์อย่างสม่ำเสมอทุกครั้งก่อนทำการรับยาเพิ่มครั้งต่อไป
- ผู้ป่วยต้องทำการคุมกำเนิด โดยใช้วิธีคุมกำเนิด 2 รูปแบบร่วมกัน ตั้งแต่ช่วง 1 เดือนก่อนเริ่มได้รับยา และ 1 เดือนภายหลังการหยุดยา
- หากผู้ป่วยเลือกการคุมกำเนิดด้วยวิธีการรับประทานยาคุมกำเนิด ควรหลีกเลี่ยงยาที่ไม่มีส่วนประกอบของเอสโตรเจน เนื่องจากการคุมกำเนิดอาจไม่ได้ผลระหว่างการได้รับยา isotretinoin หากประจำเดือนเลื่อนไป หรือคิดว่าอาจจะตั้งครรภ์ ให้หยุดการใช้ยานี้ทันที ยาหลายชนิดอาจก่อกวนการออกฤทธิ์ของยาคุมกำเนิดชนิดรับประทาน ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของการคุมกำเนิด
- หญิงให้นมบุตรไม่ควรรับประทานยา isotretinoin ระหว่างการรักษาด้วยยานี้จนถึง 30 วันภายหลังการหยุดยา ไม่ควรให้นมบุตร
ข้อควรระวังสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว
- ผู้ที่รับประทานยา isotretinoin จะต้องตรวจค่าการทำงานของตับ (liver function test) เนื่องจากยานี้อาจจะมีพิษต่อตับ หากมีอาการตัวเหลือง ควรตรวจสอบความผิดปกติของตับหลังรับประทานยาแล้ว 1 เดือน พร้อมทั้งตรวจซ้ำทุกๆ 3 เดือนเพื่อตรวจหาภาวะตับอักเสบจากยานี้ หากตาเหลืองตัวเหลืองควรหยุดยาและรีบมาพบแพทย์
- ระวังภาวะน้ำตาลในเลือดสูงขณะใช้ยานี้ ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานจะต้องตรวจระดับน้ำตาลถี่ขึ้น เนื่องจากยา isotretinoin จะเพิ่มน้ำตาลในเลือด
- ยา isotretinoin อาจจะทำให้เกิดภาวะไขมันในเลือดสูง โดยเฉพาะไตรกลีเซอไรด์(triglyceride) จึงควรตรวจวัดระดับไขมันในเลือด เมื่อใช้ยาอยู่
- ยา isotretinoin อาจทำให้เกิดลำไส้อักเสบ inflammatory bowel disease (IBD) ดังนั้นหากอยู่ระหว่างรับประทานยานี้มีอาการปวดท้อง ถ่ายเหลว อาจจะเป็นเลือดสด หรือดำ มีไข้ ควรหยุดยาและพบแพทย์
- ระวังการใช้ยาในผู้ป่วยด้วยพิษสุราเรื้อรังและผู้ที่อยู่ในภาวะลดน้ำหนัก
- ยานี้อาจส่งผลต่อกล้ามเนื้อ เอ็น และกระดูก ทำให้เกิดอาการปวด ปวดกล้ามเนื้อ(arthralgia) ปรึกษาแพทย์หากต้องทำกิจกรรมหนักๆ หากเกิดอาการปวดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งปวดหลังหรือปวดข้อต่อควรปรึกษาแพทย์ และหากเกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่ว่าจะมีอาการปวดร่วมด้วยหรือไม่ก็ตามอาจเป็นสัญญาณของอาการรุนแรง กล้ามเนื้อถูกทำลายอย่างรุนแรง (rhabdomyolysis)หยุดยานี้แล้วปรึกษาแพทย์ทันที
- ยา isotretinoin ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน (มากกว่า 6 เดือน) อาจทำให้ความหนาแน่นกระดูกลดลง และอาจทำให้เกิดภาวะกระดูกนุ่ม รวมถึงภาวะกระดูกพรุนด้วย อีกทั้งจำเป็นจะต้องระมัดระวัง เป็นอย่างยิ่งเมื่อมีการใช้ยาในเด็ก
- การรับประทานยา isotretinoin อาจทำให้เกิดความบกพร่องในการได้ยิน หรือเกิดเสียงหวีดในหู (tinnitus) ได้ ดังนั้นหากมีอาการเหล่านี้ควรรีบพาผู้ป่วยไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยด่วน
- พบการรายงานเกี่ยวกับความผิดปกติทางจิต เช่น ซึมเศร้า จิตเภท มีพฤติกรรมรุนแรง ก้าวร้าว มีความคิดหรือมี ความพยายามในการฆ่าตัวตาย(พบได้แต่น้อยมาก) จากการรับประทานยา isotretinoin ดังนั้นผู้รับประทานยาควรได้รับการประเมินความผิดปกติทางด้านจิตใจก่อนการรับประทานยา และผู้รับประทานยาควรแจ้งแพทย์ทันทีเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์หรือพฤติกรรมที่ต่างไปจากเดิม
ข้อห้ามหรือข้อระวังทั่วๆไป
- ห้ามบริจาคเลือดระหว่างการรักษาด้วยยานี้ และหลังจากการหยุดยาเป็นเวลา 30 วัน
- การรับประทานยา isotretinoin อาจทำให้ผิวหนังแห้ง ลอก และไวต่อแสง หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง ด้วยอาจก่อให้เกิดผิวหนังอักเสบและ มีอาการแพ้ ขึ้นผื่นรุนแรงเกิดขึ้น
- หลีกเลี่ยงการรับประทานยา isotretinoin ร่วมกับวิตามิน A, สมุนไพรชื่อ St. John's Wort และยากลุ่ม tetracycline
- ในช่วงแรกของการใช้ยานี้ในการรักษาอาจเกิดการเห่อของสิว
- สตรีวัยเจริญพันธุ์จะต้องอ่านคำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงในการรับประทานยา isotretinoin ที่มีต่อความผิดปกติของทารกในครรภ์
- หากผู้ป่วยสวมคอนแทคเลนส์ อาจเกิดการระคายเคืองตาเนื่องจากอาการข้างเคียงของยาคือตาแห้งได้
- ยานี้อาจทำให้ประสิทธิภาพการมองเห็นในตอนกลางคืนลดลง และสามารถเกิดขึ้นได้อย่างเฉียบพลัน ดังนั้นผู้ที่กำลังได้รับยานี้ควรระมัดระวังในการขับขี่ยานพาหนะ หรือการทำงานกับเครื่องจักร หากเกิดอาการดังกล่าวขึ้น ให้หยุดยาและปรึกษาแพทย์
- ระหว่างรับประทานยา ควรต้องระวังสำหรับผู้ที่ต้องทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรหรือการขับขี่รถยนต์ เพราะยาอาจทำให้มีอาการง่วงนอน หรืออาการวิงเวียนได้
- หากเกิดอาการปากแห้ง ซึ่งเป็นผลข้างเคียงของการรับประทานยา อาจแก้ไขโดยการอมลูกอม หรือดื่มน้ำมากๆ
- หลีกเลี่ยงการรับประทานวิตามินรวม หรืออาหารเสริมใดๆ ที่มีส่วนประกอบของวิตามินเอ
- การรับประทานยานี้อาจทำให้ผิวหนังมีความไวแต่รังสี UV หรือแสงอาทิตย์มากกว่าปกติ หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ทำผิวสีแทน และหลีกเลี่ยงแสงอาทิตย์ให้มากที่สุด สวมเสื้อผ้าที่มิดชิดเวลาอยู่กลางแจ้งและใช้ยาทากันแดด (ค่าเอสพีเอฟตั้งแต่ 40ขึ้นไป)
- ระหว่างรับประทานยานี้ จนถึงภายหลังการหยุดยาเป็นระยะเวลา 6 เดือน ควรหลีกเลี่ยงการใช้บริการเสริมความงามด้วยวิธีการที่กระทำต่อผิวหนัง เช่น การขจัดขนด้วยแวกซ์ (waxing) การขัดผิว (dermabrasion) หรือการใช้แสงเลเซอร์ เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดแผลเป็น
- การรับประทานยานี้อาจจะทำให้ประสิทธิภาพการมองในที่มืดลดลง ดังนั้นต้องระวังเมื่อท่านขับรถ หรือทำงานกับเครื่องจักร
ยาทาสิวIsotretinoin | ข้อห้ามและข้อควรระวังในการใช้ยา Isotretinoin | สิ่งที่ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ | อาการอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา | ยารักษาสิว isotretinoin อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม