จะต้องรักษาไขมันในเลือดหรือไม่


มีการศึกษาพบว่าคนที่ไขมันในเลือดไม่สูงแต่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ เมื่อได้ยาลดไขมันจะลดอัตราการตายจากโรคหัวใจ

ไขมันในเลือดไม่สูงจะต้องรับประทานยาลดไขมันหรือไม่

เป็นที่ทราบกันดีว่าระดับไขมันสูง(Cholesterol )โดยเฉพาะ LDL Cholesterol จะเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ การรักษาไขมันในเลือดสูงจะรักษาต่อเมื่อมีโรคหัวใจ หรือโรคหลอดเลือดและมีไขมันสูง เรียกการรักษาแบบนี้นี้ว่า Secondary prevention กล่าวคือให้ยาเพื่อป้องกันการเกิดโรคหัวใจซ้ำ ยาที่ได้ผลดีคคือยากลุ่ม Statin

ที่ผ่านมายังไม่มีการศึกษาว่าคนที่ไม่เป็นโรคหัวใจ และไขมันในเลือดปรกติจะได้ประโยชน์จากการได้รับยา Statin จึงได้มีการศึกษาที่เรียกว่า JUPITER เพื่อศึกษาเรื่องนี้โดยเฉพาะ

ผลการศึกษา

กลุมที่นำมาศึกษามีทั้งหมด 17,802 คน ทั้งหมดไม่มีโรคหัวใจ หรือหลอดเลือดสมอง ระดับไขมัน LDL Cholesterol น้อยกว่า 130 mg โดยเป็นชายร้อยละ 60 แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม โดยกลุ่มหนึ่งให้ยาลดไขมัน Crestor 20 mg อีกกลุ่มหนึ่งไม่ได้รับยาลดไขมัน การศึกษานี้ใช้เวลาสองปี

ผลการศึกษาพบว่า

ผู้ที่ได้รับยาลดไขมันจะ

  • การเกิดโรคหลอดเลือดสมองลดลง 54%
  • การเกิดโรคหัวใจลดลง 48%
  • โรคหัวใจลดลง 44%
  • ระดับไขมัน LDLลดลง 50%
  • ระดับ CRPลดลงเฉลี่ย 37%

แต่การศึกษานี้ก็มีข้อต้องพิจารณาคือ

  1. การศึกษานี้สนับสนุนโดยบริษัทผู้ผลิตยาลดไขมัน
  2. จากข้อมูลยาลดไขมันสามารถลดอัตราการตายจากโรคหัวใจ แต่จะต้องรักษาผู้ป่วยถึง 95 คนจึงจะได้ผลหนึ่งคน ดังนั้นจะต้องชั่งน้ำหนักถึงผลดีผลเสีย
  3. ผลการรักษาหลังจากสองมียังไม่มี
  4. ขนาดยาที่ใช้รักษาสูงกว่าปรกติ ดังนั้นจะต้องระวังเรื่องความปลอดภัยด้วย
  5. ยังไม่มีการศึกษาว่าหลังจากสองปีผลการรักษาจะเป็นอย่างไร
  6. มีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งเป็นโรคเบาหวาน ดังนั้นต้องระวังว่าจะเกิดโรคเบาหวาน

การนำความรู้มาใช้

  • หากท่านมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจสูง ท่านไม่จำเป็นต้องเจาะ crp เพราะอย่างไรก็ต้องรักษาไขมันด้วย statin
  • หากท่านมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจต่ำ ท่านก็ไม่ต้องเจาะเลือดหา crp เพราะข้อมูลที่ได้ไม่ชัดเจน
  • สำหรับท่านที่เสี่ยงปานกลางท่านต้องเจาะ crp เพื่อพิจารณาว่าจะต้องให้ยา statin หรือไม่

อ่านเรื่องไขมันในเลือดสูง อ่านเรื่องโรคหัวใจ

เพิ่มเพื่อน