วิธีป้องกันการติดเชื้อจากไข่
ไข่เป็นอาหารที่มีประโยชน์และประหยัดที่สุดแต่ไข่ก็สามารถนำการติดเชื้อ Salmonella
คนเราได้รับเชื้อแบคทีเรีย Salmonella ทั้งจากภายในเนื้อไขแม้ว่าเปลือกไข่จะปกติ่ และจากเปลือกไข่ หากรับประทานไข่ดิบก็สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อได้ การเก็บไข่ไว้ในตู้เย็นเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อ Salmonella มีการแบ่งตัวจนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ การปลุกให้สุกจะลดปริมาณเชื้อโรคได้ ไข่สุกๆดิบจะมีความเสี่ยงของการติดเชื้อสูง หลังจากปรุงก็ให้รับประทานทันที
วิธีลดป้องกันการติดเชื้อ Salmonella
- เก็บไว้ไข่ในตู้เย็นที่≤40° F (หรือ ≤4° C) ทุกครั้ง ซื้อไข่จากร้านค้าหรือซัพพลายเออร์อื่น ๆ ที่เก็บไข่ไว้ในตู้เย็น
- ไม่รับประทานไข่ที่เปลือกแตกหรือชำรุด
- ล้างมือ อุปกรณื โต๊ะ เขียง ที่สัมผัสกับไข่สดด้วยน้ำและสบู่
- ปรุงไข้ให้สุก อาหารที่มีไข่เป็นองค์ประกอบก็ต้องปรุงให้สุก
- ให้รับประทานไข่ที่ปรุงทันที ไม่ควรทิ้งไว้นานเกิน 2 ชั่วโมง
- อาหารที่เหลือให้เก็บเข้าตู้เย็นทันที
- ไม่ควรบริโภคไข่ดิบหรือไม่สุกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอหรือร่างกายอ่อนแอเจ็บป่วย
- หลีกเลี่ยงการใช้อาหารที่ใใช้ไข่ดิบหรือไข่ที่ไม่สุข (เช่นซอสฮอลแลนหรือน้ำสลัดซีซาร์)หากจำเป็นต้องใช้ไข่ดิบควรจะเลือกไข่ที่ผ่านขบวนการฆ่าเชื้อโรค pasteurized eggs
การป้องกันการแพร่เชื้อแบคทีเรีย
เชื้อแบคทีเรียอาจจะมีการแพร่เชื้อไปสู่อาหารที่ใกล้เคียง โดยการติดต่อทางมือ ภาชนะที่บรรจุ และสถานที่ประกอบอาหาร เชื้อโรคอาจจะอยู่ที่เปลือกไข่หรือในไข่ดังนั้นจึงต้องระมัดระวัง
- แยกการเก็บไข่จากอาหารอื่นๆ
- ไม่ควรจะเคาะไข่ให้แต่บนอาหารชนิดอื่น หรือภาชนะที่จะใช้ประกอบอาหาร
- ล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นและสบู่หลังจากสัมผัสไข่
- เชื้อแบททีเรียนอกจากอาจจะมีในไข่แล้ว ภาชนะที่บรรจุไข่ก็อาจจะมีเชื้อโรค
- ต้องเช็ดบริเวณที่เคาะไข่ให้แตก
- ล้างมือและเครื่องใช้ให้สะอาดหลังปรุงอาหาร
- ไข่ที่เปลือกมีการชำรุดให้ทิ้ง
อาการของผู้ที่ติดเชื้อSalmonella
ผู้ที่ได้รับเชื้อ Salmonella ไปแล้ว 12-72 ชั่วโมงจะมีอาการไข้ ปวดท้องปวดบืดๆ คลื่นไส้อาเจียน อาการจะป่วยนาน 4-7 วันมักจะหายเองโดยไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะ แต่ผู้ป่วยบางรายก็มีอาการรุนแรงจนถึงกับต้องนอนโรงพยาบาล
ผู้ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ Salmonella
- ผู้สูงอายุ
- ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
- เด็ก