ยาลดความดันโลหิต Propranolol
คำเตือนยาลดความดันโลหิต Propranolol
การหยุดยาปิดกั้นเบต้า Beta-blocker อาจจะทำให้อาการเจ็บหน้าอกจากหลอดเลือดหัวใจตีบกำเริบ และอาจจะเกิดกล้ามเนื้อหัวใจตาย สำหรับผู้ที่รับประทานยานี้เป็นเวลานานจะต้องลดขนาดของยาลง และใช้เวลา 2 สัปดาห์จึงจะหยุดยาได้ หากมีอาการเจ็บหน้าอกจะต้องรับประทานยา
อีกประการหนึ่งผู้ป่วยที่เป็นความดันโลหิตสูง มักจะมีโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดร่วมด้วยดังนั้นการหยุดยากลุ่มเบต้าจะต้องใช้เวลา 2 สัปดาห์แม้ว่าจะไม่มีอาการโรคหัวใจ
ชื่อสามัญทางยา Propranolol
ชื่อการค้าอื่น ๆ Atensin, Betalol, Betapress, Emforal, Inderal, Inderal LA, Normpress, Palon, Perlol, Pronsil, Servanolol
ระหว่างการใช้ยาหากเกิดอาการดังต่อไปนี้ให้หยุดยาและพบแพทย์
- หัวใจเต้นเร็ว หรือช้า หรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ
- รู้สึกเวียนศีรษะ หน้ามืด
- เหนื่อยง่าย หายใจหอบ
- บวมข้อเท้า น้ำหนักขึ้น
- คลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร ปัสสาวะสีเข้ม ดีซ่าน
ข้อบ่งชี้ในการใช้ยา Propranolol
ขนาดและวิธีการใช้ยา Propranolol
- ขนาดรับประทานตามแพทย์สั่ง โดยทั่วไปรับประทานวันละหนึ่งถึงสี่ครั้ง ขึ้นกับโรคที่เป็นและรูปแบบของยาที่รับประทาน
- ควรรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ อย่าหยุดยาเองโดยไม่ได้ศึกษาแพทย์ เพราะอาจทำให้โรครุนแรงกว่าเดิม
- ยานี้มีขายในรูปยาเม็ดขนาด 10 มก. และ 40 มก. แคปซูลออกฤทธิ์นานขนาด 80 มก. และ 160 มก. ยาฉีดความแรง 1 มก./มล.
โรคความดันโลหิตสูง
- เริ่มต้นให้ 40-80 มก แบ่งให้วันละ 2 ครั้งโดยทั่วไปใช้วันละ 160-320 มก ขนาดเต็มที่ไม่เกิน 640 มก
- สำหรับยาที่ออกฤทธิ์ยาว Extended release เริ่มต้นให้ 80 มก วันละครั้ง ขนาดที่ใช้ทั่วไป 120-160 มก ต่อวัน
หัวใจเต้นผิดปกติ
- ให้ขนาดวันละ 30-160 มกต่อวันโดยแบ่งให้
การป้องกันไมเกรน
- ให้ครั้งละ 40 มก วันละ2-3ครั้ง ขนาดที่ให้ทั่วไป80-240 มกต่อวัน
อาการปวดเค้นอก Angina pectoris
- ให้ครั้งละ 40 มก วันละ 2-3 ครั้งขนาดที่ใช้ต่อวัน 120-240 มก ต่อวัน
กล้ามเนื้อหัวใจหนา Hypertrophic cardiomyopathy
- ให้ครั้งละ10-40 มก ให้วันละ 3-4 ครั้ง
คอพอกเป็นพิษ
- ให้ครั้งละ 10-40 มก วันละ 3-4 ครั้ง
วิตกกังวล
- ให้ครั้งละ 40 มก วันละครั้งอาจจะเพิ่มเป็นวันละ 2-3 ครั้ง
มือสั่น Essential tremor
- ให้ครั้งละ 40 มก วันละ 2-3 ครั้ง
ข้อห้ามในการให้ยา Propranolol
- หัวใจเต้นช้า
- ช็อกจากโรคหัวใจ Cardiogenic shock
- น้ำท่วมปอด Pulmonary edma
- โรคถุงลมโป่งพองCOPD
- โรคหอบหืด Asthma
- น้ำตาลในเลือดต่ำ Hypoglycemia
- โรคหลอดเลือดตีบ
- ตั้งครรภ์ไตรมาส2-3
- 2nd or 3rd degree heart block
คำแนะนำพิเศษ
- ควรพบแพทย์ตามนัดเพื่อประเมินผลการรักษา และอาจจำเป็นต้องปรับขนาดยา
- ปฏิบัติตนตามแพทย์แนะนำ เช่น ลดอาหารที่มีรสเค็ม ไขมันสูง
- และควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- ควรแน่ใจว่ามียาเพียงพอเมื่อไปพักผ่อน ท่องเที่ยว
ทำอย่างไรถ้าลืมรับประทานยา Propranolol
- ให้รับประทานทันทีที่นึกได้ หากใกล้กับเวลารับประทานครั้งต่อไป ให้รับประทานยาครั้งต่อไปตามปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มเป็น 2 เท่า
ผลข้างเคียงของยาลดความดันโลหิต Propranolol
ต่อระหัวใจและหลอดเลือด
- หัวใจวาย ความดันโลหิตต่ำ หัวใจเต้นช้า หัวใจเต้นผิดปกติ หลอดเลือดแขนขาตีบเพิ่มขึ้น
ต่อระบบประสาท
- ซึมเศร้า นอนไม่หลับ อ่อนเพลีย ความจำเสื่อม อารมณ์แปรปรวน ฝันร้าย
ต่อระบบทางเดินอาหาร
- คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง ท้องร่วงหรือท้องผูกลำไส้ขาดเลือด
ต่อระบบภูมิแพ้
ต่อระบบทางเดินหายใจ
- หลอดลมเกร็งตัวทำให้หอบหืดกำเริบ
ต่อระบบผิวหนัง
ผลข้างเคียงที่อาจจะอันตรายถึงกับชีวิตได้แก่ : หัวใจวาย Heart failure, หัวใจเต้นช้า heart block และหอบหืดกำเริบ bronchospasm.
เมื่อเกิดอาการข้างเคียงควรทำอย่างไร
- ไม่ค่อยพบอาการข้างเคียงจากยานี้ แต่ก็เกิดได้ อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ตะคริว ท้องเสีย ท้องผูก มือเท้าเย็น เวียนศีรษะ นอนไม่หลับ สับสน ฝันร้าย หากเป็นนานหรือรุนแรงควรพบแพทย์
- หากมีอาการหายใจขัด หายใจมีเสียงหวีด เท้าหรือขาบวม เจ็บหน้าอก ชีพจรเต้นช้าหรือไม่ปกติ ให้พบแพทย์ทันที
ข้อควรระวัง
- ควรบอกแพทย์หากตั้งครรภ์ หรืออยู่ในระยะให้นมบุตร
- มีประวัติเป็นโรคหืด หลอดลมอักเสบ โรคปอด โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคไตหรือต่อมไทรอยด์
- หรือกำลังรับประทานยาอื่นอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยายับยั้งการหลั่งกรด cimetidine ยารักษาโรคความดันโลหิตสูง verapamil, diltiazem และยารักษาโรคหัวใจอื่น ๆ
ความปลอดภัยของยานี้ในสตรีมีครรภ์
สำหรับสตรีมีครรภ์ ยานี้จัดอยู่ในประเภท C
atenolol | bisoprolol | metoprolol | propanolol |