ยาขับปัสสาวะ spironolactone
ก่อนที่จะใช้ยานี้ท่านควรจะทราบอาการข้างเคียงของยา spironolactone
ให้หยุดยาทันทีและเข้าโรงพยาบาลหากเกิดอาการ ลมพิษ หายใจลำบาก มีเสียงหวีด บวมบริเวณใบหน้า หนังตา ริมฝีปาก ลิ้น คอ
ให้หยุดยาและปรึกษาแพทย์หากมีอาการดังต่อไปนี้
- ชาตามมือและเท้า
- ปวดกล้ามเนื้อ และอ่อนแรง
- หัวใจเต้นช้า หรือเร็วเกินไป หรือหัวใจเต้นผิดปกติ
- มึนศีรษะ ซึมลง
- ปัสสาวะน้อยกว่าปกติ
- หายใจหอบลึก
- สับสน มือสั่น
- คลื่นไส้อาเจียน
การปฏิบัติตัวก่อนการใช้ยา spironolactone
- แจ้งแพทย์หรือเภสัชหากท่านเคยแพ้ยา
- แจ้งแพทย์หรือเภสัชว่าท่านมีโรคประจำตัวอะไรบ้างโดยเฉพาะโรคความดันโลหิตสูง ภาวะโปแทสเซี่ยมสูง โรคไต โรคตับ ปัญหาเกี่ยวกับความสมดุลของเกลือแร่ในร่างกาย
- แพทย์และเภสัชชื่อยาที่รับประทานทั้งยาที่ซื้อเอง หรือ ยาที่แพทย์สั่ง และสมุนไพร
- เนื่องจากยานี้อาจจะทำให้โปแทสเซี่ยมในเลือดสูงดังนั้นท่านไม่ควรจะซื้อยารับประทานเอง
ข้อบ่งชี้ในการใช้ยา spironolactone
- โรคของต่อมหมวกไต primary hyperaldosteronism.
- ภาวะบวมที่เกิดจากโรค/ภาวะ
- หัวใจวาย
- ตับแข็ง
- โรค Nephrotic syndrome
- ความดันโลหิตสูง
- ภาวะเกลือโปแทสเซี่ยมต่ำ
ขนาดของยา spironolactone และวิธีการรับประทาน
- โรค Primary hyperaldosteronism ขนาดยาที่ให้ 100 to 400 mg
- ภาวะบวม(โรคหัวใจวาย ตับแข็ง Nephrotic syndrome ) ขนาดของยาที่ให้ 25-200 มก ต่อวันจะให้ครั้งเดียวหรือแบ่งให้ก็ได้
- ความดันโลหิตสูง ขนาดยาที่ใช้ 50-100 มิลิกรัมโดยอาจจะให้ครั้งเดียวหรือแบ่งให้ก็ได้
- ภาวะโปแทสเซี่ยมต่ำ ขนาดยาที่ให้ 25-100มิลิกรัม
- หัวใจวายชนิดรุนแรง เริ่มให้ขนาด 25 มิลิกรัมต่อวัน และติดตามแร่โปแทสเซี่ยม(ให้น้อยกว่า5) และการทำงานของไต(ค่า creatinin น้อยกว่า 2.5) ก็อาจจะเพิ่มยาเป็นวันละ 50 มิลิกรัม แต่ต้องระวังว่าโปแทสเซี่ยมจะเกิน
ผลข้างเคียงของยา spironolactone
ผลข้างเคียงของยาเท่าที่มีรายงาน แต่ความถี่ของการเกิดคงจะไม่มาก
- ระบบทางเดินอาหาร: เลืดอกทางเดินอาหาร Gastric bleeding, แผลในกระเพาะอาหาร , กระเพาะอาหารอักเสบ ท้องร่วง
- ระบบต่อมไร้ท่อ : เต้านมโต Gynecomastia,เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ,ประจำเดือนผิดปกติ
- ระบบโลหิต: เม็ดเลือดขาวต่ำ
- แพ้ยา:ไข้ ลมพิษ ผื่นตามตัว แพ้ชนิดรุนแรง
- เกลือแร่:ภาวะโปแทสเซี่ยมในเลือดสูง
- ระบบประสาท: สับสน ปวดศีรษะ มึนงง
ข้อระวังเมื่อใช้ร่วมกับยาชนิดอื่น
- เมื่อใช้ร่วมกับยากลุ่ม ACE inhibitors อาจจะทำให้เกิดโปแทสเซี่ยมในเลือดสูง
- เมื่อใช่ร่วมกับยากลุ่ม barbiturates,หรือยาแก้ปวด narcotics และสุรา อาจจะทำให้เกิดความดันโลหิตต่ำ
- เมื่อใช้ร่วมกับ steroid อาจจะทำให้แร่โปแทสเซี่ยมต่ำ
- เมื่อใช้ร่วมกับยาคลายกล้ามเนื้อ อาจจะทำให้ฤทธิ์ของยาคลายกล้ามเนื้อเพิ่มมากขึ้น
- เมื่อใช้ร่วมกับยา Lithium จะทำให้เกิดพิษของยาเพิ่มขึ้น
- เมื่อใช้ร่วมกับยา Nonsteroidal anti-inflammatory drugs (NSAIDs) อาจจะทำให้โปแทสเซี่ยมในเลือดสูง
- เมื่อใช้ร่วมกับ Digoxin อาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงของ Digoxin ง่ายขึ้น
ความปลอดภัยในคนท้อง
ยานี้จัดอยู่ใน Category C และไม่ควรจะให้ในแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่
Thiazide | Furosemide | Indapamide | Spironolactone | Moduretic